ศึกชิง "ถ้วยบิ๊กเอียร์" รอบตัดเชือก นัดแรก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา จบลงแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นหลังเจ้าถิ่น "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ เปิดรังเสมอกับ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ที่ไร้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปแบบ โนสกอร์ 0-0 ต้องไปวัดกันในแมตช์ที่สองที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว กลางวีกหน้าเพื่อหาทีมผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศต่อไป

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

         รอบรองชนะเลิศ นัดแรก

         วันอังคารที่ 26 เมษายน 2559

แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 0 - 0 เรอัล มาดริด (สเปน) 

        สนาม :  เอติฮัด สเตเดี้ยม

         แมนฯ ซิตี้นัดนี้ไม่มี ยาย่า ตูเร่ ที่เจ็บกล้ามเนื้อแต่ได้ ราฮีม สเตอร์ลิง ฟิตมีชื่อเป็นสำรอง แนวรุก เควิน เดอ บรอยน์ ประสานงานกับ เฆซุส นาบาส และ ดาบิด ซิลบา กองหน้าตัวเป้ายังยึด เซร์คิโอ อเกวโร่

         เรอัล มาดริดเกมนี้ข่าวร้ายคือไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เจ็บกล้ามเนื้อหลังเข่า แดนกลางวาง โทนี่ โครส คุมเกมกับ ลูก้า โมดริช แนวรุกนำทัพมาโดย คาริม เบนเซม่า ที่ฟิตกลับมาทันยืนหน้าเป้าโดยมี ลูคัส บาซเกซ และ แกเร็ธ เบล คอยป่วนริมเส้น

         ครึ่งแรกเริ่มมา 26 นาที เจ้าถิ่นทักทายก่อน ดาบิด ซิลบา เปิดโค้งมาเสาไกลให้ นิโกลัส โอตาเมนดี้ เติมมาโหม่งแต่บอลย้อยๆ หลุดกรอบไป

         ต่อมานาที 33 เรอัล มาดริดได้ลุ้นบ้าง ลูก้า โมดริช พาบอลขึ้นมาก่อนไหลให้ แกเร็ธ เบล วางเท้าซัดด้วยซ้ายจากนอกกรอบบอลแฉลบเข้าซอง โจ ฮาร์ท

         ถัดมานาที 40 แมนฯ ซิตี้ต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลังจาก ดาบิด ซิลบา มีอาการบาดเจ็บแล้วเล่นต่อไม่ไหวและเป็น เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงมาเล่นแทน

         โอกาสลุ้นทำประตูมีกันน้อย นาทีสุดท้ายครึ่งแรก ''ราชันชุดขาว'' ได้โอกาสเปเป้เติมขึ้นมาก่อนจ่ายย้อนมาให้ คาริม เบนเซม่า ตวัดยิงตามน้ำยังโด่งข้ามคานไปไกล จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

         กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งเวลาหลังได้แค่นาทีเดียว ทัพเรือใบสีฟ้าได้โอกาสเมื่อ แฟร์นันดินโญ่ ไหลตรงๆ ขึ้นหน้าให้กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' ลากมาสับไกยิงด้วยซ้ายจากหน้ากรอบเขตโทษบอลข้ามคานไป

         กระเถิบมานาทีที่ 54 ทีมชุดขาวได้โอกาสบ้าง โทนี่ โครส เปิดมุมให้กับ เซร์คิโอ รามอส สะบัดโหม่งในกรอบเขตโทษไปตรงตัวของ โจ ฮาร์ท นายทวารแมนเชสเตอร์ ซิตี้

         ล่วงเลยมานาทีที่ 66 เรอัล มาดริดมาอีกครั้ง โทนี่ โครส ส่องด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาซ้ายออกไป

         จากนั้นนาทีที่ 71 ราชันชุดขาวน่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่ง เมื่อ ดาเนียล การ์บาฆาล โยนจากกราบขวาให้ เฆเซ่ โรดริเกซ ที่ลงมาเป็นสำรองเทกตัวโหม่งในกรอบเขตโทษบอลย้อยไปชนคานเด้งออกหลังไป

         เกมเป็นของเรอัล มาดริดแล้ว มีโอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 75 แกเร็ธ เบล ปั่นโค้งด้วยซ้ายจากริมกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลเลี้ยวหลุดเสาสองไปนิดเดียวเท่านั้นเอง

          สองนาทีต่อมา แมนฯ ซิตี้เปลี่ยนเอา ราฮีม สเตอร์ลิง ลงมาทำเกมตามริมเส้นแทน เฆซุส นาบาส

         ท้ายเกมนาทีที่ 80 ชุดขาวน่าได้ประตูจริงๆ เมื่อ โทนี่ โครส เปิดมุมจากทางด้านซ้ายเข้ามาให้กับ คาเซมิโร่ เทกตัวโหม่งเต็มๆ แต่ไปติดขาของ โจ ฮาร์ท นายทวารแมนฯ ซิตี้ ก่อนผู้เล่นเรือใบสีฟ้าช่วยกันสกัดทิ้งออกมาได้

         สองนาทีต่อมา จากลูกเตะมุมบอลขลุกขลิกมาเข้าทางของเปเป้ได้ยิงด้วยขวาจ่อๆ แต่ไปติดเซฟของ โจ ฮาร์ท ป้องกันได้อีก

         เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกมเสมอ 0-0 ต้องไปลุ้นกันต่อในนัดสองที่เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว รังของเรอัล มาดริดบ้าง ในวันพุธที่ 4 พฤษภาคม ศกนี้

         รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

         แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - บาการี่ ซาญ่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, กาแอล กลิชี่ - แฟร์นันดินโญ่, แฟร์นานโด - เฆซุส นาบาส, ดาบิด ซิลบา, เควิน เดอ บรอยน์ - เซร์คิโอ อเกวโร่

         สำรอง : วิลลี่ กาบาเยโร่, ปาโบล ซาบาเลต้า, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, เอเลียควิม ม็องกาล่า, ฟาเบียน เดลฟ์, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, ราฮีม สเตอร์ลิง

         เรอัล มาดริด : เกย์ลอร์ นาวาส - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ - โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช, การ์ลอส กาเซมีโร่ - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, ลูคัส บาซเกซ

         สำรอง : กิโก้ กาซิย่า, ดานิโล่, ราฟาแอล วาราน, มาเตโอ โควาซิช, เฆเซ่ โรดริเกซ, อีสโก้, ฮาเมส โรดริเกซ

         ผู้ตัดสิน : คูเนต ชาเคียร์ (ตุรกี)