ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ โดยเตรียมแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี นัดที่ 5 พบ "จิงโจ้" ออสเตรเลีย วันที่ 15 พ.ย. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน จากนั้นจะเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016" รอบแรกกลุ่ม เอ ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เริ่ม 19 พ.ย.นี้

เข้าสู่วันที่ 4 ของการมาเก็บตัวยัง กิเลน วัลเลย์ โดยในวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ งดซ้อมในช่วงเช้า โดยให้นักเตะลงมารับประทานอาหารช่วงเช้าและกลางวัน ก่อนที่เวลา 16.00 น. จะกลับมาซ้อมในเรื่องของการเรียกความฟิตอีกครั้งหนึ่ง
 
การซ้อมเย็นครั้งนี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้จับนักเตะออกวิ่งวอร์ม จากนั้นเป็นการเปิดบอลข้ามฟาก ก่อนที่จะมาเล่นสมอลไซส์เกมข้างละ 8 คน โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงครึ่ง ทว่า ธนา ชะนะบุตร ยังคงแยกซ้อมเช่นเดิม
 
เมื่อเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม "ซิโก้" ได้เผยว่า ในวันนี้ทีมได้ทำการซ้อมแบบเช็กความฟิตด้วย หลังจากที่ทีมได้ซ้อมมาทั้งหมด 5 มื้อ เห็นได้ชัดว่านักเตะทุกคนจริงจังอย่างมาก และเล่นกันหนักหน่วง คิดว่าผู้เล่นต้องการทำหน้าที่ออกมาด้วยความมุ่งมั่นเพื่อแฟนบอลที่ยืนเคียง ข้างกับทีม 
 
พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถาม "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทยว่า หลังจากที่เพิ่มระดับความฟิตของนักเตะทั้งหมดแล้ว จะมีการเริ่มซ้อมแท็กติกได้วันใด และจะมีการปิดสนามไม่ให้คนเข้าเพื่อจะวางระบบโดยสมบูรณ์แบบหรือไม่
 
"ซิโก้" บอกว่า "เราจะเริ่มซ้อมแท็กติกอย่างจริงจังในวันที่ 4 พ.ย.นี้ หลังจากผ่านมาเกือบ 1 สัปดาห์ ระดับสภาพร่างกายและความฟิตของนักเตะดีขึ้นตามลำดับ ทำให้ผมตัดสินใจว่าเราจะวางระบบการเล่นในวันดังกล่าว เพราะเรามีเวลาอีกเกือบ 10 วันในก่อนเจอกับ ออสเตรเลีย"
 
"ทว่าการซ้อมแท็กติกครั้งนี้ ผมคงจะต้องปิดสนามซ้อม เนื่องจากไม่ต้องการให้สื่อมวลชนหรือแฟนบอลรอบนอกเข้ามาเห็นการฝึกซ้อมของ เราใน กิเลน วัลเลย์ เพราะเราต้องการที่จะวางระบบการเล่นจริงที่เราจะต้องใช้ ฉะนั้นมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างมากทีเดียว"
 

  เชื่อเจอออสซี่หนัก, ลับแข้งกันเอง
 
นายใหญ่ของ "ช้างศึก" ยังเปิดใจเกี่ยวกับการเจอกับทัพ "จิงโจ้" รวมถึงการอุ่นเครื่องว่า "การเจอกับ ออสเตรเลีย เป็นงานที่ยากไม่น้อย เนื่องจากพวกเขาขนผู้เล่นจากยุโรปมามากมาย อีกทั้งอยู่ในตำแหน่งรองจ่าฝูงกลุ่ม บี ฉะนั้นความแข็งแกร่งจะมีมากอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นแชมป์ เอเชียน คัพ 2015 มาหมาดๆ ฉะนั้นคงไม่ใช่งานง่ายของทีมแน่นอน"
 
 "การที่ทีมชาติไทยเข้ามาถึงรอบ 12 ทีมสุดท้ายเอเชียได้ อย่างแรกเราต้องไม่กลัว และต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด หวังลึกๆว่าทุกคนจะทำหน้าที่ออกมาได้ดี ส่วนการอุ่นเครื่องนั้นเมื่อนักเตะไม่ได้ร่วมซ้อมกับสโมสร ทำให้การเชิญทีมต่างชาติมาเป็นเรื่องยาก"
 
"แต่เราคิดว่าการมี 28 คน คงจะต้องลงทีมกันเอง เพื่อที่จะป้องกันอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันในตอนนี้ก็ยังมีคนที่มีอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่ หากว่าอุ่นเครื่องกับทีมอื่นแล้วมีอาการบาดเจ็บ คงจะต้องเป็นปัญหาใหญ่สำหรับทีมในบั้นปลาย"