การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 รอบแบ่งกลุ่ม ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยนัดสุดท้าย กลุ่ม เอ จะพบกับ ฟิลิปปินส์ ในวันที่ 25 พ.ย. นี้ ที่สนามฟิลิปปิน สปอร์ตส์ สเตเดี้ยม เวลา 20.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่านทาง ช่อง 7 สี, บั๊กกะบู ทีวี และฟ็อกซ์ สปอร์ตส์ เอชดี 680
 

          ในเรื่องของสถิติที่พบกันนั้น ปรากฏว่า ขุนพลจากฝั่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ไม่เคยปราชัยในถ้วยใบนี้ให้กับฟิลิปปินส์ ประกอบด้วย วันที่ 2 ก.ย. 1996 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 5-0 (ก) ซูซูกิ คัพ รอบแรก, วันที่ 29 ส.ค. 1998 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-1 (ก) ซูซูกิ คัพ รอบแรก, วันที่ 12 พ.ย. 2000 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-0 (ห) ซูซูกิ คัพ รอบแรก, วันที่ 14 ม.ค. 2007 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 4-0 (ห) ซูซูกิ คัพ รอบแรก, วันที่ 24 พ.ย. 2012 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 (ห) ซูซูกิ คัพ รอบแรก, วันที่ 6 ธ.ค. 2014 ไทย เสมอ ฟิลิปปินส์ 0-0 (ย) ซูซูกิ คัพ รอบรองฯ นัดแรก, วันที่ 10 ธ.ค. 2014 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0 (ห) ซูซูกิ คัพ รอบรองฯ นัดสอง สรุปแล้ว พบกันมาทั้งหมด 7 ครั้ง กลายเป็นไทย ชนะ 6 เสมอ 1 ได้ 19 เสีย 2 ประตู

ไทยปรับผู้เล่นน่ายึด 4-3-3

          ขณะเดียวกันในเกมสุดท้ายของทีมชาติไทย ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 กลุ่ม เอ น่าจะมีการพพักผู้เล่นตัวหลักๆ ไว้ แต่น่าจะมาในระบบ 4-3-3 ให้ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เฝ้าเสา แบ็กซ้าย พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา แบ็กขวา ทริสตัน สมชาย โด และ กรวิทย์ นามวิเศษ ร่วมกันเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟกับ อดิศร พรหมรักษ์

          ในส่วนของกองกลางน่าจะเปิดโอกาสให้กับ อดุล หละโสะ, ชาริล ชัปปุยส์ และ ประกิต ดีพร้อม ขับเคลื่อนเกม ขณะที่ปีกซ้ายใช้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ฝั่งขวาเป็น มงคล ทศไกร และกองหน้าตัวเป้าให้ ศราวุฒิ มาสุข ไปยืน

          ด้านฟิลิปปินส์ ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ดูลี่ย์ หวังที่จะเอาชนะให้ได้ ฉะนั้นคงจะส่ง ฮิคารุ มิเนกิชิ, สเตฟาน ชร็อค, มานูเอล อ็อตต์, เควิน อิงเกรโซ, มาร์ติน สตรูเบิ้ล, ไมค์ อ็อตต์, ฟิล ยังฮัสแบนด์ ลงบู๊
 
 

"ดูลี่ย์" ลั่นไม่สนสถิติและแรงกิ้ง

          ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสอบถาม โธมัส ดูลี่ย์ กุนซือของฟิลิปปินสน์ ในการเจอกับทีมชาติไทย ในวันที่ 25 พ.ย. นี้ ว่า อันดับโลกของพวกเขาเป็นที่ 1 ในอาเซียน ส่วน "ช้างศึก" เป็นลำดับ 3 คิดว่าจะเป็นการวัดกันว่าใครจะเป็นเบอร์ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างแท้จริงหรือไม่

           รวมทั้งสถิติที่ผ่านมาในถ้วยเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ทางฝั่งฟิลิปปินส์ ไม่เคยที่จะเอาชนะทีมชาติไทยได้เลย แม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งกุนซือขอตากาล็อก ได้ตอบว่า "ผมคิดว่าในเกมสุดท้ายคงจะไม่เกี่ยวข้องกับการวัดว่าใครคือเบอร์ 1 อาเซียน เพราะฟีฟ่าแรงกิ้งกับรายการนี้ค่อนข้างจะแตกต่างกันออกไป"

          "การที่ทีมชาติไทย ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ ทำให้ผมหวังว่าพวกเขาจะมีการโรเตชั่นนักเตะเกิดขึ้น แต่เราจำเป็นจะต้องเอาชนะให้ได้ ที่สำคัญแม้สถิติที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ อาจจะเป็นรอง แต่เราคงไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ เนื่องจากเป็นสิ่งมที่ผ่านมานานแล้ว"
                                    

อีกคู่ลอดช่องเหนือกว่าอิเหนา

          อีกคู่ที่จะเล่นพร้อมกันในเวลา 20.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นที่เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) ที่สนามริซอล เมมโมเรียล สเตเดี้ยม สิงคโปร์ น่าจะนำทัพมาโดย ฮัสซัน ซันนี่ นายทวารจอมหนึบ, ฮาริส ฮารุน, ดาเนียล เบนเน็ต และ ไครุล อัมรี่ กองหน้าคล่องตัวสูง

          ด้านอินโดนีเซีย ที่ต้องการ 3 คะแนน และลุ้นให้ฟิลิปปินส์ แพ้ ทีมชาติไทย นั้น น่าจะส่งแข้งตัวหลักลงสนามครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โบอาส โซโลสซ่า, สเตฟาโน่ ลิลิปารี่, เลอบี้ เอเลียนดราย, รูโดลอฟ บาสน่า, ริสกี้ โปล่า

          อย่างไรก็ตามสถิติที่พบกัน ปรากฏว่า สิงคโปร์ ดูดีกว่า ประกอบไปด้วย วันที่ 3 ก.ย. 1998 สิงคโปร์ ชนะ อินโดนีเซีย 2-1 (ก) ซูซูกิ คัพ รอบรองฯ, วันที่ 9 ธ.ค. 2004 สิงคโปร์ ชนะ อินโดนีเซีย 0-0 (ก) ซูซูกิ คัพ รอบแรก, วันที่ 8 ม.ค. 2005 สิงคโปร์ ชนะ อินโดนีเซีย 3-1 (ย) ซูซูกิ คัพ รอบชิงฯ นัดแรก, วันที่ 16 ม.ค. 2005 สิงคโปร์ ชนะ อินโดนีเซีย 2-1 (ห) ซูซูกิ คัพ รอบชิงฯ นัดสอง, วันที่ 17 ม.ค. 2007 สิงคโปร์ เสมอ อินโดนีเซีย 2-2 (ก) ซูซูกิ คัพ รอบแรก, วันที่ 9 ธ.ค. 2008 สิงคโปร์ ชนะ อินโดนีเซีย 2-0 (ย) ซูซูกิ คัพ รอบแรก และวันที่ 28 พ.ย. 2012 สิงคโปร์ แพ้ อินโดนีเซีย 0-1 (ก) ซูซูกิ คัพ รอบแรก สรุป พบกัน 7 ครั้ง สิงคโปร์ ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 11 เสีย 6 ประตู