ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่นำลูกทีมไหว้ศาลหลวงศุภชลาศัยเพื่อความเป็นสิริมงคล การซ้อมมี "เจ้าบาส" ชนินทร์ แซ่เอียะ นายด่านแยกซ้อมเนื่องจากยังเจ็บไหล่ แต่ไร้ปัญหา ยังมีตัวทดแทน เช่นเดียวกับ "ตังค์" สารัช อยู่เย็น มิดฟิลด์ตัวกลั่นที่มีเหลืองติดตัวอยู่ หากโดนอีกจะชวดเล่นนัดชิงเกมแรก ทางซิโก้ลั่นไร้ปัญหาเพราะผู้เล่นที่มีอยู่ทดแทนได้ และให้ทุกคนที่ลงไปทำหน้าที่เล่นให้เต็มที่ ไม่ต้องมากังวลกับเรื่องนี้ ขณะเดียวกันมองเมียนมาร์มีดีที่กองหน้าเร็ว กำชับลูกทีมห้ามประมาทแต่เชื่อเอาอยู่ คาดจะเล่นระบบ 4-2-3-1 โดย "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา จะยังคงประจำการลุ้นยิงเพิ่มทำสถิติและดาวซัลโวต่อไป

 ทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ภายหลังเดินทางกลับจากการทำศึกรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ประเทศเมียนมาร์ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุด ช่วงเย็นของวันที่ 6 ธ.ค. ทาง "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ก็นำลูกทีมลงทำการฝึกซ้อมต่อทันทีที่สนามเทพหัสดิน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันนัดที่สอง วันที่ 8 ธ.ค. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00 น. ซึ่งก่อนเดินทางเข้าสนามซ้อมเทพหัสดินทาง "ซิโก้" ก็ได้นำลูกทีมพร้อมสตาฟฟ์ไหว้ศาลหลวงศุภชลาศัยเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยทาง "ซิโก้" กล่าวว่า ก็ถือเป็นธรรมเนียมทีมชาติไทยทุกชุด หากเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้เราจะต้องมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และขอพรให้ทุกคนโชคดีและประสบความสำเร็จ สร้างขวัญกำลังใจเพื่อกรุยทางสู่รอบชิงฯ ให้ได้

 
          จากนั้น ทางกุนซือใหญ่พร้อมนักเตะเดินทางเข้าสู่สนามเทพหัสดินเพื่อทำการฝึกซ้อม โดยอนุญาตให้สื่อมวลชนเก็บภาพได้เพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งในการฝึกซ้อมช่วงเวลาดังกล่าวเป็นการวิ่งยืดกล้ามเนื้อและซ้อมการวางบอลยิงประตู โดยที่มี "เจ้าบาส" ชนินทร์ แซ่เอียะ ผู้รักษาประตูเพียงรายเดียวที่แยกซ้อมเดี่ยวด้วยการวิ่งรักษาสภาพร่างกาย เนื่องจากยังคงมีอาการเจ็บบริเวณหัวไหล่อยู่ ทว่าทางสองโค้ชประตูอย่าง วิรัช วังจันทร์ และ พรรษา มีสัตย์ธรรม ต่างไร้กังวล เผยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากยังมี สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่พร้อมลงสนามอีกคน ส่วนอาการของ "เจ้าบาส" ก็ดีขึ้นเกือบจะปกติแล้ว แต่ไม่อยากเสี่ยงให้รับบอลในเวลานี้
 
 
          กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยยังได้เผยถึงเรื่องของใบเหลือง "เจ้าตังค์" สารัช อยู่เย็น มิดฟิลด์ตัวเก่งที่ได้รับคาดโทษมาจากเกมรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่บุกไปชนะเมียนมาร์ 2-0 เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ผ่านมา หากว่าเกมนี้ลงสนามโดนใบเหลืองอีกจะอดใช้งานในเกมนัดชิงชนะเลิศ นัดแรก หากว่าทีมไทยได้เข้าชิงนั้นว่าไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากนักเตะทุกคนที่มีอยู่ก็พร้อมจะทดแทนได้ และทีมชาติไทยยังต้องการชัยชนะ ทุกคนที่ลงไปในสนามก็ให้เล่นเต็มที่ ไม่มีการกำชับอะไรเป็นพิเศษ

 
          โดยเกมที่จะพบกับเมียนมาร์นัดที่สอง ซึ่งทีมชาติไทยกุมความได้เปรียบเอาไว้จากการบุกไปชนะมา 2-0 ก่อนหน้านั้น ทาง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทีมเผยว่าจะยังไม่ประมาททีมเมียนมาร์อย่างแน่นอน ก็ยังจะเล่นอย่างรัดกุม แต่ก็พร้อมที่จะเปิดเกมรุกใส่เต็มที่เหมือนที่ผ่านมา เล่นไปตามจังหวะของเกมและแท็กติกที่วางเอาไว้ ส่วนจุดที่จะต้องระวังเป็นพิเศษ คือเรื่องของความเร็วในแดนหน้าของเมียนมาร์ถือว่าทำได้ดี แต่ก็เชื่อว่านักเตะที่ส่งลงสนามก็สามารถรับมือได้

 
          ส่วนเรื่องของตัวผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในเกมนัดที่สองของรอบรองชนะเลิศ วันที่ 8 ธ.ค. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00 น. นั้น ซึ่งทาง "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่เผยว่า พร้อมที่จะเปิดเกมรุกสู้เต็มที่ แม้ว่าสกอร์จะได้เปรียบอยู่ก็ตามนั้น ทำให้คาดว่าน่าจะใช้ระบบการเล่น 4-2-3-1 ประกอบด้วย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตู คู่เซนเตอร์ใช้ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ กรวิทย์ นามวิเศษ, แบ็กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน, แบ็กขวา ทริสตัน โด, กองกลาง สารัช อยู่เย็น กับ ปกเกล้า อนันต์, ริมเส้นซ้าย-ขวา เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์-รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก มี "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นตัวรุกสนับสนุน "กัปตันมุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าที่ยิงไปในรายการนี้ 5 ประตู นำดาวซัลโว