ฟุตบอลลา ลีกา สเปน

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560

โอซาซูน่า 1 - เรอัล มาดริด 3

        สนาม : เอสตาดิโอ เอล ซาดาร์, (ปัมโปลน่า)

         โอซาซูน่า ทีมบ๊วยของตารางคะแนนต้องขาด โรเบร์โต้ ตอร์เรส กองกลางที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบกำหนด รวมทั้งขาด ฆาเบียร์ ฟลานโญ่, เนาเซ็ต เปเรซ, มิเกล ฟลานโญ่ และ ดีดิเย่ร์ ดิการ์ด ที่บาดเจ็บทั้งหมด

         ทางด้าน ''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด จ่าฝูงลา ลีกา สเปน ยามนี้ได้พักมาเต็มที่ เนื่องจากเกมกับเซลต้า ถูกเลื่อนออกไปด้วยเหตุพายุถล่มสนามของเซลต้า

         เกมนี้ต้องขาด แกเร็ธ เบล ปีกชาวเวลช์ที่อยู่ระหว่างพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ รวมไปถึง โทนี่ โครส มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบกำหนด

         ในแดนกลางวางใจให้ อีสโก้, คาเซมีโร่ และ ลูก้า โมดริช ลงมาทำเกมสนับสนุน คาริม เบนเซม่า กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้าถล่มตาข่าย

         เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 5 นาทีเรอัล มาดริดบุกเข้าใส่ทันที เซร์คิโอ รามอส โหม่งลูกเตะมุมตั้งให้กับ คาริม เบนเซม่า แปด้วยซ้ายเฉี่ยวเสาออกไป

         สิบนาทีต่อมาโอซาซูน่าจำเป็นต้องเปลี่ยนเอา ตาโน่ บอนนีน ที่มีอาการบาดเจ็บออกแล้วให้ ดาบิด การ์เซีย ลงมาเล่นแทน

         เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 24 ราชันชุดขาวขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ คาริม เบนเซม่า จ่ายออกมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดไปซัดด้วยขวา ซัลวาตอเร่ ซิริกู นายทวารโอซาซูน่าปัดได้นิดหนึ่ง แต่บอลยังแรงพอเข้าประตูไป และเป็นประตูที่ 14 ของโรนัลโด้ ในลา ลีกาซีซั่นนี้

         ผ่านมา 32 นาทีโอซาซูน่าตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่โต้กลับเร็วขึ้นมา ฆวน ฟวนเตส จ่ายให้กับ เซร์คิโอ เลออน หลุดไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนชิพด้วยขวาข้ามตัว เกย์ลอร์ นาวาส นายทวารเรอัล มาดริด เข้าไปตุงตาข่าย

         สามนาทีต่อมาเรอัลน่าจะได้ประตูจากจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เปิดจากกราบขวาให้กับ คาริม เบนเซม่า สอดมาแปด้วยซ้ายจ่อๆ ติดเซฟของ ซัลวาตอเร่ ซิริกู ป้องกันไว้ได้ หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1

         มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 57 ราชันชุดขาวจำเป็นต้องเปลี่ยนเอา ดานีโล่ แบ็คขวาชาวบราซิเลียน ที่มีอาการบาดเจ็บขาซ้ายออกมาแล้วส่ง ฮาเมส โรดริเกซ ลงมาเล่นแทน พร้อมกับปรับตำแหน่งจากเล่นกองหลังห้าคนช่วงเริ่มเกมมาเป็นแบ็กโฟร์ยืนหลังสี่รายแทน

         มาถึงนาทีที่ 62 เรอัล มาดริดขยับนำ 2-1 จากจังหวะที่ คาริม เบนเซม่า ลากลุยเข้าเขตโทษ แต่โดน การ์ลอส แกลร์ก สกัดออกมาเข้าทางของ อีสโก้ วิ่งมาตะบันด้วยขวากลางกรอบเขตโทษบอลเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด

         ล่วงเลยมานาทีที่ 72 ทีมชุดขาวส่ง ลูกัส บาซเกซ ลงเล่นแทน คาริม เบนเซม่า แล้วมีโอกาสลุ้นประตูในสองนาทีต่อมา มาร์เชโล่ จ่ายทะลุให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ ซัลวาตอเร่ ซิริกู ปัดออกหลังไปได้ทัน จากลุกเตะมุม ฮาเมส โยนให้กับ รามอส โขกจากระยะแค่ 6 หลา เฉี่ยวเสาออกไป

         ท้ายเกม เรอัล มาดริด มาได้ประตูตอกย้ำชัยในช่วงทดเวลาเจ็บหลังจากจังหวะที่ มาเชโล่ แทงบอลต่อให้ ลูกัส บาซเกซ หลุดเข้าไปยกบอลหลบนายทวารเจ้าถิ่นเข้าไปแบบเหนือชั้น จบเกม เรอัล มาดริดบุกมาเอาชนะ โอซาซูน่า 3-1 เก็บสามแต้มสำคัญ ผงาดนำเป็นจ่าฝูงลา ลีกา ต่อไป

 
         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 

         โอซาซูน่า : ซัลวาตอเร่ ซิริกู - ตาโน่ บอนนีน (ดาบิด การ์เซีย น.15), นิโคไล วูยาดิโนวิช, ออยเอร์ ซานฆูร์โฆ่ (กัปตันทีม) - อเล็กซ์ เบเรนเกร์, โกรัน เคาซิช, ฟาอุสโต้ เตียนซ่า (ราอูล โลเอ้ น.61), ไฆเม่ โรเมโร่, ฆวน ฟวนเตส (การ์ลอส แกลร์ก น.53) - เอ็มมานูเอล ริวิแยร์, เซร์คิโอ เลออน

         เรอัล มาดริด : เคย์ลอร์ นาวาส - ดานิโล่ (ฮาเมส โรดริเกซ น.57), ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), นาโช่ เฟร์นานเดซ, มาร์เชโล่ วิเอยร่า - อีสโก้, คาเซมีโร่, ลูก้า โมดริช - คาริม เบนเซม่า (ลูกัส บาซเกซ น.71), คริสเตียโน่ โรนัลโด้

         ผู้ตัดสิน : อิ๊กนาซิโอ อีเกลเซียส บียานวยบา