ปรีวิวฟุตบอลลา ลีกา สเปน (นัดตกค้าง ฤดูกาล 2016-17)

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560

บาเลนเซีย - เรอัล มาดริด

ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 3 (เวลา: 00.45 น.)

สนาม : เอสตาดิโอ เมสตาย่า, (บาเลนเซีย)

          เกมนี้เป็นนัดตกค้างมาจากนัดที่ 16 ของฤดูกาลที่เลื่อนมา เนื่องจากเรอัล มาดริด ต้องเดินทางไปทำศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ทำให้ต้องมาหวดแข้งกันในวันพุธนี้แทน
 
          ซัลบาดอร์ กอนซาเลซ โบโร่ เทรนเนอร์ของ ''ไอ้ค้างคาว'' บาเลนเซีย พาทีมเก็บ 4 แต้ม จาก 2 เกมหลังสุด โดยไม่เสียประตูด้วย

          ความพร้อมเกมนี้ต้องขาด ซานตี มีน่า กับ โรดรีโก้ โมเรโร่ สองแนวรุกตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ ขณะที่ โฆเซ่ กาย่า แบ็กซ้ายยังต้องรอประเมินสภาพความฟิตอีกครั้ง ทว่า กิลแยร์เม่ ซิเกยร่า พร้อมลงเสียบแทน ส่วนการ์ลอส โซเลร์ จะหวนคืนสู่ทีมตัวจริงแทน มูนีร์ เอล อัดดาดี้

          แผงหลังวางใจให้ มาร์ติน มอนโตย่า, เอเซเกล การาย, เอเลียควิม ม็องกาล่า และ โฆเซ่ กาย่า ลงประจำการ

          ขยับมาดูแดนกลาง วาง การ์ลอส โซเลร์, ดาเนียล ปาเรโฆ่ และ เอ็นโซ่ เปเรซ ลงทำเกม ส่วนสามประสานแดนหน้าส่ง ฟาเบียน โอเรยาน่า, ซิโมเน่ ซาซ่า และ นานี่ ลงขยี้ตาข่าย

          ทางด้าน ''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด จ่าฝูงลา ลีกา สเปน ชนะถึง 12 นัด จาก 14 เกมหลังสุดที่ทำศึกลา ลีกา

          ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสของเรอัล มาดริด ต้องขาด ดานีโล่ แบ็กขวาชาวบราซิลที่เจ็บข้อเท้า แต่ได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์เบอร์หนึ่งของทีมกลับมาลงฝึกซ้อมตามปกติ ฟิตพร้อมลงสนาม

          ขณะที่ เซร์คิโอ รามอส, ลูก้า โมดริช, คาริม เบนเซม่า, ลูก้า โมดริช และ เกย์ลอร์ นาวาส ที่ได้พักจากเกมล่าสุดในลีกกับเอสปันญ่อลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมหวนคืนสู่ทีมตัวจริง ส่วน แกเร็ธ เบล สตาร์ทีมชาติเวลส์ที่หายเจ็บกลับมาแล้วและพังประตูได้ด้วยในเกมล่าสุดนั้น ยังเป็นแค่สำรอง

          ในแนวรับวาง ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส และ มาร์เชโล่ วิเอยร่า ลงประจำการ ส่วนแดนกลางส่ง ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่ และ โทนี่ โครส ลงคุมเกม

          สามประสานแดนหน้าให้ ฮาเมส โรดริเกซ ดาวเตะชาวโคลอมเบียออกสตาร์ตเป็นตัวจริงลงล่าตาข่ายร่วมกับ คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

          บาเลนเซีย : ดีเอโก้ อัลเวส - มาร์ติน มอนโตย่า, เอเซเกล การาย, เอเลียควิม ม็องกาล่า, โฆเซ่ กาย่า - การ์ลอส โซเลร์, ดาเนียล ปาเรโฆ่ (กัปตันทีม), เอ็นโซ่ เปเรซ - ฟาเบียน โอเรยาน่า, ซิโมเน่ ซาซ่า, นานี่

          เรอัล มาดริด : เกย์ลอร์ นาวาส - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), มาร์เชโล่ วิเอยร่า - ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่, โทนี่ โครส - ฮาเมส โรดริเกซ, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ผู้ตัดสิน : ริการ์โด้ เด บูร์โกส เบงโกเอตเชีย

ข้อมูลน่าสนใจก่อนเกม

          - บาเลนเซียชนะแค่ครั้งเดียวจาก 14 เกมลีกหลังสุดที่พบเรอัล มาดริด (เสมอ 5 แพ้ 8) ด้วยสกอร์ 2-1 เมื่อมกราคม 2015 ในยุค นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้

          - ชัยชนะดังกล่าวของบาเลนเซียเป็นการหยุดสถิติชนะติดต่อกัน 22 นัดของเรอัล มาดริดในทุกรายการ

          - เรอัล มาดริดชนะบาเลนเซีย 5 จาก 7 เกมลีกหลังสุดที่เมสตาย่า อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ชนะใน 2 เกมหลังที่มาเยือน (เสมอ 1 แพ้ 1)

          - เรอัล มาดริดยิงประตูได้ตลอด 42 เกมหลังสุดในทุกรายการ เป็นสถิติดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

          - หลังเสีย 7 ประตูจาก 2 เกมลา ลีกาก่อนหน้านี้ บาเลนเซียทำคลีนชีตใน 2 เกมลีกหลังสุด (ชนะ 1 เสมอ 1) อย่างไรก็ดี ''ไอ้ค้างคาว'' ไม่สามารถเก็บคลีนชีต 3 นัดซ้อน นับตั้งแต่เมษายน 2015

          - คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำ 7 ประตูจาก 7 เกมลีกหลังสุดที่พบบาเลนเซีย

          - เรอัล มาดริดเป็นทีมที่ได้ประตูจากลูกโหม่งมากที่สุดในลีกท็อปไฟว์ยุโรปฤดูกาลนี้ (14 ลูก เท่าโมนาโก)

          - อัลบาโร่ โมราต้า ยิงประตูได้ทุก 104 นาทีในลา ลีกาฤดูกาลนี้ เป็นอัตราดีที่สุดต่อจาก ลิโอเนล เมสซี่ (85.68) และ หลุยส์ ซัวเรซ (93.56) จากบรรดาผู้เล่นที่ยิงได้อย่างน้อย 3 ประตู

          - คาเซมิโร่ เป็นผู้เล่นกองกลางในลีกท็อปไฟว์ยุโรปที่มีค่าเฉลี่ยชนะในการดวลคู่แข่งต่อ นาทีดีที่สุด (6.89 นาที) นับจากผู้เล่นที่ชนะในการปะทะอย่างน้อย 100 ครั้ง

          - 17 จาก 23 แต้มที่บาเลนเซียได้ในฤดูกาลนี้ เกิดขึ้นในช่วง 10 เกมที่โบโร่คุมทีม โดยช่วงที่อาเยสเตรานและปรันเดลลี่คุมบาเลนเซียได้แค่ 6 แต้มจาก 12 เกม