"เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เถลิงคว้าแชมป์บอลถ้วย เดเอฟเบ โพคาล สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ หลังบดเอาชนะ "อินทรีแดง-ดำ" ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ไปแบบหวุดหวิด 2-1 ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ซัดจุดโทษเป็นประตูชัยให้ทีมซิวแชมป์หลังเข้าชิงมาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา

ฟุตบอล เดเอฟเบ โพคาล นัดชิงชนะเลิศ
วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2560
แฟร้งค์เฟิร์ต (บุนเดสลีกา) 1 - ดอร์ทมุนด์ (บุนเดสลีกา) 2

        สนาม : โอลิมเปียสตาดิโอน เบอร์ลิน (สนามกลาง)

         ''อินทรีแดง-ดำ'' ผ่านเข้าชิงโพคาลครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 โดยวางให้ มาร์โค ฟาเบียน ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง ฮาริส เซเฟโรวิช และ อันเต้ เรบิช ขณะที่ ''เสือเหลือง'' ล่าแชมป์ฟุตบอลถ้วยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 ด้วยการให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ร่วมกันผลิตสกอร์กับ มาร์โค รอยส์

         ออกสตาร์ตไปได้เพียง 8 นาที ดอร์ทมุนด์ออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ลูคัสซ์ พิซเซ็ค จ่ายบอลเข้าไปทางขวาของเขตโทษให้ อุสมาน เดมเบเล่ สปีดไปรับแล้วล็อกหลบกองหลังแฟร้งค์เฟิร์ต แต่งมาเข้าเท้าซ้าย แล้วซัดบอลแสกหน้า ลูคัส ฮราเด็คกี้ เสียบสามเหลี่ยมเสาสองเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด

         หลังจากนั้น 4 นาที แฟร้งค์เฟิร์ตมาได้ฟรีคิกระยะกว่า 40 หลา เขี่ยเปลี่ยนมาให้ มาร์โค ฟาเบียน ยิงด้วยขวา แต่บอลไปติดบล็อกแนวรับเสือเหลือง

         ผ่าน 20 นาทีแรก ดอร์ทมุนด์มาได้ลุ้นอีกครั้ง ชินจิ คางาวะ พาบอลโต้ขึ้นมาทางซ้าย แล้วจ่ายขวางสนามมาให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง รับแล้วล็อกมาเข้าเท้าซ้าย ซัดจากหน้าเขตโทษ แต่บอลยังติดบล็อก

         จังหวะถัดมาแฟร้งค์เฟิร์ตเกือบจะได้เหมือนกัน มาร์ก บาร์ตร้า พยายามครองบอลบริเวณสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายในเขตโทษ แต่เสียบอลไปให้ มิยัต กาซิโนวิช เก็บไปยิงด้วยขวา แต่บอลตรงตัว เบือร์กี้ เซฟได้

         เลยมาถึงนาทีที่ 29 แฟร้งค์เฟิร์ตตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จ กองหลังเสือเหลืองเช็กล้ำหน้ากันพลาด โดน มิยัต กาซิโนวิช แทงบอลออกซ้ายให้ อันเต้ เรบิช หลุดเข้ามาในเขตโทษ เอี้ยวตัวยิงด้วยขวา ส่งบอลสวนตัว เบือร์กี้ ตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด

         ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 39 ทีมอินทรีเกือบจะพลิกนำ อันเต้ เรบิช ชิ่งบอลเข้าช่องให้ ฮาริส เซเฟโรวิช หลุดขึ้นไปทางขวาของเขตโทษ แล้วซัดด้วยซ้าย บอลผ่านมือ เบือร์กี้ ไปแล้ว แต่ชนโคนเสาไม่ได้ประตู ครบ 45 นาทีแรก สกอร์บอร์ดที่โอลิมเปีย สตาดิโอน ถูกตรึงเอาไว้ที่ 1-1
 
         ครึ่งหลัง โธมัส ทูเคิ่ล เปลี่ยนตัวทันที มาร์โค รอยส์ ที่บาดเจ็บ และ มาร์เซล ชไมลเซอร์ ออกจากสนามแล้วให้ คริสเตียน ปูลิซิช และ กอนซาโล่ กาสโตร ลงเล่นแทน

          กลับมาเตะได้ 5 นาที ดอร์ทมุนด์ ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ ชินจิ คางาวะ หลุดขึ้นไปทางซ้ายของเขตโทษ แล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านบอลไปทางเสาสอง โอบาเมย็อง จะชาร์จ แต่ไม่โดน บอลเฉี่ยวเสาออกหลังไป

         หลังจากนั้นนาทีที่ 65 เป็น ดอร์ทมุนด์ ที่ได้ลุ้นต่อเนื่อง อุสมาน เดมเบเล่ กระดกบอลจากทางขวาของเขตโทษข้ามไปให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กระโดดเอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยขวา บอลโดนเคลียร์ออกมาจากเส้นได้อย่างหวุดหวิด

         นาทีต่อมา เสือเหลืองมาได้จุดโทษ หลังจากที่ ลูคัส ฮราเด็คกี้ เกี่ยว คริสเตียน ปูลิซิช ล้มลงในเขตโทษ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง รับหย้าที่สังหาร ชิพแบบปาเนนก้าข้ามตัว ฮราเด็คกี้ เข้าประตูไปให้ ดอร์ทมุนด์ กลับมานำ 2-1

         เลย 70 นาที แฟร้งค์เฟิร์ต หวิดจะได้ประตู ฮาริส เซเฟโรวิช ครองบอลในเขตโทษ แล้วพักคืนหลังให้ อเล็กซานเดอร์ ไมเออร์ ยิงด้วยขวา แต่บอลติดบล็อกแนวรับดอร์ทมุนด์ ยังตีเสมอไม่สำเร็จ

         ช่วงท้ายเกม ดอร์ทมุนด์ พลาดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะทิ้งบอลยาวขึ้นหน้าให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง สปีดไปรับพาเข้าเขตโทษ โดนกองหลังมาพัวพันแต่ยังเก็บบอลได้ ปั่นด้วยขวาจากทางซ้ายของเขตโทษ บอลโค้งไปชนสามเหลี่ยมเสาสองออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ ครบ 90 นาที ดอร์ทมุนด์ เชือด แฟร้งค์เฟิร์ต 2-1 คว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล ไปครองเป็นสมัย 4 หลังจากที่รอมานานถึง 5 ปี และเป็นโทรฟี่แรกของ โธมัส ทูเคิ่ล ในฐานะเทรนเนอร์ดอร์ทมุนด์ด้วย
 

        รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

         แฟร้งค์เฟิร์ต : ลูคัส ฮราเด็คกี้ - ไมเคิ่ล เฮคเตอร์, เฆซุส บาเยโฆ่, ดาวิด อบราฮัม - ทิโมธี แชนด์เลอร์ (กัปตันทีม) (อเล็กซานเดอร์ ไมเออร์ น.72), สโลโบดาน เมโดเยวิช (ทาเล็บ ทาวาธา น.56), มิยัต กาซิโนวิช, บาสเตียน อ็อคซิปก้า - มาร์โค ฟาเบียน (แดนนี่ บลูม น.79) - ฮาริส เซเฟโรวิช, อันเต้ เรบิช

         ดอร์ทมุนด์ : โรมัน เบือร์กี้ - มัทธีอัส กินเทอร์, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, มาร์ก บาร์ตร้า (เอริค ดวร์ม น.76) - ลูคัสซ์ พิซเซ็ค, ชินจิ คางาวะ, ราฟาแอล เกร์เรยโร่, มาร์เซล ชเมลเซอร์ (กัปตันทีม) (กอนซาโล่ กาสโตร น.46) - อุสมาน เดมเบเล่ - มาร์โค รอยส์ (คริสเตียน ปูลิซิช น.46), ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

         ผู้ตัดสิน : เดนิซ อายเตคิน