เกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จบลงที่ชัยชนะ ของทีมเชลซี ที่เฉือนชนะแมนฯยูไนเต็ดไป 1-0

ก่อนเกมจะเริ่ม เชลซีโดนวิจารณ์หนัก หลังแพ้โรม่ามาอย่างขาดลอย 3-0 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ แต่หลังจากที่ลงเล่นเข้าจริงๆ กับแมนฯยูไนเต็ด พวกเขาทำได้ดีมาก และเอาชนะไปได้อย่างสวยงาม โดยไม่เสียประตู 

นี่คือ 5 ประเด็นใหญ่ที่เราเห็นจากเกมนัดนี้

1) ก็องเต้ เป็นคีย์แมนที่เชลซีขาดไม่ได้

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไม่ได้ลงเล่นให้เชลซี ติดกันมาหลายนัด มันส่งผลให้ทีมขาดผู้เล่นที่คอยตัดบอลในแดนกลาง พวกเขาปล่อยเนมานย่า มาติช พ้นทีมในราคา 40 ล้านปอนด์ เท่ากับว่า กองกลางตัวรับธรรมชาติที่ไว้ใจได้เหลือแค่เอ็นโกโล่ ก็องเต้คนเดียวเท่านั้น

เชส ฟาเบรกาส เป็นตัวรุก เขาไม่มีเซนส์เรื่องเกมรับนัก ขณะที่ ติเอมูเอ้ บากาโยโก้ ก็ยังใหม่มากกับพรีเมียร์ลีก เขาต้องมีเวลาปรับตัวสักระยะ ดังนั้น ก็องเต้ ต้องแบกภาระในตำแหน่งนี้คนเดียว

ถ้าก็องเต้ลงไม่ได้ ทีมก็จะเสียสมดุล เพราะไม่มีคนคอยประคอง และเบรกเกมของคู่แข่ง มีอยู่บางช่วง คอนเต้ เคยดันเอาดาวิด ลุยซ์ ขึ้นมายืนเป็นกลางรับแทน แต่ก็เห็นแล้วว่า ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่กับตำแหน่งนี้

ดังนั้นสื่งที่แฟนเชลซี ต้องภาวนาที่สุด คือก็องเต้ ห้ามเจ็บ ห้ามป่วยเด้ดขาด ถ้าร่างกายไหว ต้องลงทุนัด

2) โมราต้า เฉียบคมกว้าลูกากู

สองคนนี้ จะถูกนำมาเปรียบเทียบกันเป็นประจำ เพราะ โมราต้า เคยเป็นเป้าหมายแรกของแมนฯยูไนเต็ดมาก่อน แต่สุดท้ายก็ล้มการเจรจา เพราะมองว่า มาดริด โก่งราคาจนเกินไป และเอาเงินไปจ่ายซื้อ โรเมลู ลูกากูจากเอฟเวอร์ตันเข้ามาแทน

พอแมนฯยู ไม่ซื้อ เชลซี เข้ามาติดต่อ และคราวนี้ โมราต้า กับ เรอัล ตอบโอเค นักเตะเลยย้ายมาเชลซีได้ตามข่าว

โมราต้า ในเกมนี้ โหม่งบอลย้อนทาง ดาบิด เด เกอา เข้ามุมประตูไปอย่างสวยงาม และเป็นประตูชัย ของสิงห์บลูส์เลยด้วย ขณะที่ลูกากู ตลอดทั้งเกม ได้ยิงจะจะแค่ครั้งเดียว แต่ก็ไม่ได้ลุ้นอะไร

อาจจะยังวัดไม่ได้มาก ว่าอนาคต สองคนนี้ ใครจะประสบความสำเร็จกว่ากัน แต่ถ้าวัดกันจากฟอร์มเมื่อเกมล่าสุด นัดนี้โมราต้า

3) เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เป็นตัวอันตรายกว่าที่คิด

เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เป็นนักเตะที่เล่นได้มีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง ในระบบกองหลัง 3 คน เขาสามารถยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็กได้ แต่ก็ยืดหยุ่นฉีกมาเล่นเป็นวิงแบ็กขวา หรือ ซ้ายได้ด้วย

อัซปิลิกวยต้า ซีซั่นนี้ แอสซิสต์ไปแล้ว 5 ลูก ในพรีเมียร์ลีก มีแค่ดาบิด ซิลบา กับ เควิน เดอ บรอยน์ เท่านั้น ที่แอสซิสต์มากกว่าเขา ซึ่งสองคนด้านบน ก็เป็นมิดฟิลด์ตัวรุก

ในบรรดากองหลังทั้งพรีเมียร์ลีก ไม่มีใครทำแอสซิสต์ได้ดี เท่าอัซปิลิกวยต้าอีกแล้ว และที่น่าสนใจก็คือ ใน 5 แอสซิสต์ที่ทำได้ มีถึง 3 ลูก ที่เขาเปิดบอลให้โมราต้า เป็นคนโหม่งประตู เรียกได้ว่าเป็นความเข้าขาของสองดาวเตะสเปนอย่างแท้จริง

4) แมนฯยูไนเต็ดไม่ถูกโฉลกกับเชลซี

สถิติเปิดเผยว่า นับตั้งแต่เข้ายุคพรีเมียร์ลีก เชลซี ชนะแมนฯยูไนเต็ดได้ถึง 18 ครั้ง เป็นทีมที่ชนะ แมนฯยู ได้เยอะที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นการเจอกันที่ไหน โค้ชคนใด พอดวลกันทีไร เชลซีมักจะเล่นได้ดีเสมอ เกมนี้ก็เช่นกัน

โดยเฉพาะถ้านับในสแตมฟอร์ดบริดจ์บ้านของเชลซี อย่างเดียว  7 เกมหลังสุดที่เจอกัน แมนฯยูไนเต็ด ชนะไม่ได้เลย 

5) ชัยชนะของเชลซี ทำให้แมนฯซิตี้ ทางสะดวก

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา 11 นัด เขาชนะ 10 เสมอ 1 แพ้ 0 เป็นทีมที่ฟอร์มสม่ำเสมอมาก มี 31 แต้ม และมีสถิติยิงได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก

แมนฯซิตี้ เจอกับทีมใหญ่ไปหลายทีมแล้ว ชนะลิเวอร์พูล ชนะอาร์เซน่อล และชนะเชลซีด้วย จนดูเหมือนตอนแรก จะมีแค่แมนฯยูไนเต็ด ที่สามารถลุ้นแชมป์ลีกในปีนี้กับซิตี้ได้

แต่ผลการแข่งขันเมื่อสุดสัปดาห์ ทำให้ เรือใบสีฟ้า มีแต้มห่างจากแมนฯยูไนเต็ด เพิ่มเป็น 8 คะแนนแล้ว โอกาสลุ้นไล่จี้ ก็ยากขึ้นทุกที

โดยเกมสำคัญของฤดูกาลนี้ จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคม แมตช์ที่แมนฯยูไนเต็ด จะเปิดบ้าน พบกับแมนฯซิตี้ ซึ่งถ้าหากเกมนั้น แมนฯยูไนเต็ด ยังไม่สามารถเอาชนะได้อีก ก็แทบจะตัดปีศาจแดงออกจากวงโคจรได้เลยเหมือนกัน