จากการที่แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเผยตัวเลขรายได้ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนหรือไตรมาสที่สาม ถึง 141 ล้านปอนด์ ซึ่งนอกจากสโมสรจะมีรายรับที่มากขึ้นจากปีก่อนแล้วยังทำให้ตัวเลขหนี้ของทีมลดลงอีกด้วย

ทั้งนี้ เดอะ มิร์เรอร์ สื่อดังจากอังกฤษ ได้วิเคราะห์ 5 ข้อ จากการที่ ปีศาจแเดง ประกาศตัวเลขรายได้ในครั้งนี้ ซึ่ง 5 ข้อนั้นจะมีอะไรบ้างไปชมกันได้เลย

1. หนี้ลดลง

นับตั้งแต่ตระกูลเกลเซอร์ เข้ามาเทคโอเวอร์แมนฯยูไนเต็ด หนี้ของทีมเพิ่มขึ้นอย่างบานเบอะ

เมื่อ 12 เดือนที่แล้วหลังเหตุการณ์ Brexit สโมสรมีหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 337.7 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขบัญชีล่าสุดของสโมสรมีหนี้ลดลงเหลือ 268.1 ล้านปอนด์ ซึ่งลดลงถึง 69.6 ล้านปอนด์ ในรอบปีที่ผ่านมา

   
2. แชมเปี้ยนส์ ลีก นำมาซึ่ง "กำไร" และ "ขาดทุน"

การกลับมาเล่นถ้วยใบใหญ่ของยุโรปอีกครั้งทำให้สโมสรทำกำไรจากค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ หากเทียบกับเมื่อปีที่แล้วที่ลงเล่นในถ้วยยูโรปา ลีก

อย่างไรก็ตาม การกลับคืนสู่เวที แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ทำให้สโมสรต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้น 17.7 เปอร์เซ็นต์ อีกด้วย

3. ชุดแข่งสวย เงินก็เข้ามา

หลังจากที่ โจ มูอิส นักข่าวชื่อดังจากแดนผู้ดี ได้จัดอันดับชุดแข่งที่สวยที่สุดของทีมในพรีเมียร์ลีก ปรากฎว่า ชุดแข่งชุดที่สามของปีศาจแดงได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดในบรรดาทีมจากลีกสูงสุด โดยเจ้าตัวให้ความเห็นถึงชุดแนวย้อนยุคนี้ว่า ชุดแข่งนี้ทำให้นึกถึงความทรงจำยุคของ ไบรอัน แม็คแคลร์ และ เคลย์ตัน แบล็คมอร์

ซึ่งสอดคล้องกับที่ วู้ดเวิร์ด ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ชุดแข่งตัวนี้ของ อาดิดาส ขายหมดเร็วที่สุดที่สโมสรเคยเปิดตัวออกมาเลยทีเดียว

4. จะมีเงินให้ มูรินโญ่ เสริมทัพ ในเดือนมกราคมนี้ ?

แม้ปีศาจแดงจะใช้จ่ายเงินมากมายเพื่อดึง โรเมลู ลูกากู, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ เนมันย่า มาติช ในช่วงซัมเมอร์ แต่พวกเขาก็สามารถได้เงินจากการปล่อยตัว อั๊ดนัน ยานาไซ รวมถึงได้ส่วนแบ่งจากการย้ายของ ไมเคิล คีน และ แดนนี่ ดริ๊งวอเตอร์ รวมกันถึง 17.2 ล้านปอนด์

โดยทาง คลิฟฟ์ แบล็ตตี้ ผู้บริหารด้านการเงินของทีมพูดถึงเรื่องการดึงตัวผู้เล่นในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาว่า จริงๆแล้วสโมสรได้วางตัวเลขค่าใช้จ่ายในการเสริมทัพไว้ที่ 95 ล้านปอนด์ ซึ่งรวมทั้งตลาดซัมเมอร์และในช่วงตลาดเดือนมกราคม

อย่างไรก็ตามทีมได้ใช้เงินไปถึง 127.8 ล้านปอนด์ในตลาดที่ผ่านมาทำให้ในช่วงตลาดที่จะถึงนี้(มกราคม) เราอาจจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆเลยหรือจะมีก็ต้องดูกันอีกที

ทั้งนี้ ปีศาจแดง ใช้เงินเสริมทัพไปกว่า 145 ล้านปอนด์ ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งหักจากเงินที่ได้รับมานั้นตัวเลขที่สโมสรใช้เงินไปก็คือประมาณ 127.8 ล้านปอนด์ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่ แบล็ตตี้ วางงบไว้ที่ 95 ล้านปอนด์

ซึ่งหากพิจารณาคำพูดของ แบล็ตตี้ แล้ว มูรินโญ่ คงต้องขายผู้เล่นออกไปก่อน จึงจะซื้อผู้เล่นหน้าใหม่เข้าสู่ทีมได้ในช่วงเดือนมกราคมนี้

5. กระแสตอบรับจากโซเชียล

อย่างที่รู้ว่า แมนฯยูไนเต็ด ได้เข้าสู่สังคมออนไลน์ อย่างจริงจัง แต่รู้หรือไม่ว่า ปีศาจแดง คือทีมสุดท้ายที่ได้เปิดบัญชีของ ทวิตเตอร์ อย่างเป็นทางการ

ในโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ยูไนเต็ด ใส่ใจในเรื่องของ โซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค เป็นอย่างมาก โดยทาง วู้ดเวิร์ด ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า " เรามีกระแสตอบรับจากโซเชี่ยลถึง 300 ล้านครั้งในช่วงในช่วง 4 เดือนแรกของฤดูกาลนี้ ซึ่งคิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ ของสโมสรในพรีเมียร์ลีก"

    ทั้งนี้ มีข่าวลือตลกๆว่า ทางพรีเมียร์ลีก จะใช้สื่อโซเชียล มีเดีย เป็นตัวตัดสิน หากทีมใดทีมหนึ่งมีคะแนนและผลต่างประตูเท่ากัน ในการจัดอันดับในลีก