หลังจากที่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ออกกฎควบคุมการเงิน (ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์) แล้วนั้น หลายคนก็อาจจะมองว่ามันไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับวงการฟุตบอลมากเท่าไหร่ เพราะหลายทีมทั่วโลกก็ยังใช้เงินกันอย่างสบายใจเฉิบตามเดิม
    อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วที่ผ่านมามันก็เคยมีการลงโทษทีมที่ละเมิดกฎนี้ไปบ้างแล้ว และตอนนี้มันก็อาจจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ในวงการฟุตบอลอีกครั้งด้วย หลังจากที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรมหาเศรษฐีแห่งเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส โดนฟ้องว่าละเมิดกฎด้านนี้จากการเสริมทัพเมื่อฤดูกาลก่อน

    ทั้งนี้ เดิมที ยูฟ่า จะมีคำตัดสินถึงเรื่องที่ว่า ปารีสฯ มีความผิดจริงหรือไม่เมื่อวันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่มันก็เลื่อนมาเป็นวันจันทร์ที่ 27 สิงหาคมนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) แทน ซึ่งวันนี้เราก็จะมาร่ายให้ฟังกันว่าคดีในครั้งนี้มันมีความเป็นมายังไง และอาจจะส่งผลกระทบต่อเรื่องอะไรบ้าง

    - กฎการเงินคืออะไร ?

    เผื่อมีบางคนไม่รู้ กฎควบคุมการเงินนั้นว่าง่ายๆ ก็คือการจำกัดให้แต่ละทีมห้ามใช้เงินในการเสริมทัพสูงกว่ารายได้ของแต่ละสโมสร โดย ยูฟ่า ออกกฎนี้มาก็เพื่อไม่ให้แต่ละทีมต้องถึงขั้นไปกู้เงินมาใช้จนส่งผลกับการทำให้ทีมล้มละลายนั่นเอง

    - ทำไม เปแอสเช ถึงโดนฟ้องว่าละเมิดกฎ ?
    ในฤดูกาลก่อน ปารีสฯ ทำให้โลกลูกหนังต้องฮือฮาเมื่อพวกเขายอมฉีกค่าสัญญาของ เนย์มาร์ ที่ บาร์เซโลน่า ตั้งเอาไว้ เพื่อดึงดาวเตะชาวบราซิเลียนมาร่วมทีม ถึงแม้ค่าฉีกสัญญาที่ว่าจะสูงถึง 222 ล้านยูโร (ประมาณ 8,880 ล้านบาท) ก็ตาม และมันก็ทำให้ เนย์มาร์ กลายเป็นเจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลกทันที นอกจากนี้ "เปแอสเช" ยังทำการยืม คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หัวหอกดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสมาจาก อาแอส โมนาโก ด้วย

    อย่างไรก็ตาม การดึงทั้ง 2 คนมาร่วมทีมมันทำให้เกิดปัญหาทันที เพราะแค่การใช้เงินซื้อ เนย์มาร์ มาร่วมทีมมันก็ดูเหมือนจะละเมิดกฎควบคุมการเงินอยู่แล้ว แต่นี่พวกเขายังมาควักกระเป๋าเพื่อ เอ็มบั๊ปเป้ อีก โดยถึงแม้ดีลของ เอ็มบั๊ปเป้ จะเป็นการยืมตัว แต่ ปารีสฯ ก็ทำเงื่อนไขซื้อขาดล่วงหน้าเอาไว้ด้วยที่ 180 ล้านยูโร (ประมาณ 7,200 ล้านบาท) จนทำให้มีการเชื่อว่าการทำสัญญายืมตัวมันเป็นเพียงมาตรการเพื่อเลี่ยงกฎเท่านั้น

    - ถ้าเกิด เปแอสเช ผิดจริงจะโดนลงโทษอะไร ?
    ตามปกติแล้ว ปารีสฯ ก็คงจะโดนปรับเงินเป็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นแค่นั้นมันก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตมากมายอะไร เพราะ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานของพวกเขามีเงินมากพอชนิดที่ว่าจำนวนค่าปรับมันเป็นเหมือนเพียงเศษเงินสำหรับเขา

    อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ยูฟ่า อาจจะสั่งให้ทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล ทำงบบัญชีให้เกิดความสมดุลโดยด่วน ไม่อย่างนั้นก็อาจจะโดนตัดสิทธิ์จากการลงเล่นรายการระดับทวีปยุโรป ซึ่งนั่นก็จะเป็นการบีบให้ ปารีสฯ ต้องขายนักเตะออกจากทีมไปโดยปริยาย

    - ถ้าเกิด เปแอสเช ถูกบีบให้ต้องขายนักเตะจริง คนไหนที่อาจโดนปล่อยออกจากทีม
    1. เนย์มาร์

    เป็นที่รู้กันดีว่า เรอัล มาดริด ให้ความสนใจในตัว เนย์มาร์ ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า แล้ว และถึงแม้รักแรกของ "ราชันชุดขาว" ที่มีให้ดาวเตะชาวแซมบ้าจะจบลงแบบไม่แฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังอยากได้ เนย์มาร์ มาร่วมทีมอยู่

    ทั้งนี้ แข้งวัย 26 ปี ก็อาจจะยอมย้ายออกจากถิ่น ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เช่นกัน ถึงแม้จะเพิ่งมาอยู่กับทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อนก็ตาม เพราะมีข่าวลืออยู่เรื่อยๆ ว่าเขาไม่มีความสุขกับชีวิตในเมืองหลวงของแดนน้ำหอมมากเท่าที่ควร แถมยังมีรายงานว่าความสัมพันธ์ของเขากับหลายคนในทีมก็อยู่ในขั้นย่ำแย่ด้วย อย่างเช่นกับ เอดินสัน คาวานี่ เป็นต้น

    2. คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

   
    ดาวเตะชาวฝรั่งเศสตกเป็นข่าวกับ เรอัล มาดริด ตั้งแต่ตอนที่เจ้าตัวยังอยู่กับ โมนาโก แล้ว หลังจากที่หัวหอกดาวรุ่งโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเกินห้ามใจ ก่อนที่สุดท้ายจะเป็น ปารีสฯ ที่ได้เขาไปครอง

    ถึงแม้ว่า ปารีสฯ อาจจะเรียกเงินก้อนโตเพื่อเป็นค่าตัวของ เอ็มบั๊ปเป้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธาน เรอัล มาดริด แม้แต่นิดเดียว และนั่นก็อาจทำให้ดาวเตะชาวฝรั่งเศสได้ย้ายไปโชว์ลีลาในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ก็เป็นได้

    3. อาเดรียง ราบิโอต์

    บาร์เซโลน่า ให้ความสนใจในตัว ราบิโอต์ มาพักหนึ่งแล้ว และถ้าเกิด ปารีสฯ โดนบทลงโทษสถานหนักแล้วล่ะก็ การขายเขาออกจากทีมก็น่าจะช่วยทีมได้เป็นอย่างดี โดยแข้งวัย 23 ปี น่าจะมีค่าตัวราว 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,250 ล้านบาท)

    4. ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์

    ถึงแม้จะเคยได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในอนาคตของวงการฟุตบอลเยอรมนีสมัยที่ยังอยู่กับ เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก แต่ดาวเตะวัย 24 ปีกลับไม่สามารถทำผลงานที่โดดเด่นกับ ปารีสฯ ได้ ขณะที่ในซีซั่นนี้ก็ยังไม่ได้เป็นตัวจริงในลีกเลยแม้แต่นัดเดียว และนั่นก็อาจจะทำให้ ปารีสฯ ปล่อยเขาออกจากทีมเพื่อแลกกับการได้เงินก้อนหนึ่ง ซึ่งทีมที่ให้ความสนใจในตัวเขามีอย่างเช่น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ชาลเก้ 04 และ แอร์เบ ไลป์ซิก เป็นต้น