แมนฯ ซิตี้ ไม่พลาดบุกเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 3-1 โดยเกมนี้ ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดสองประตูให้ทีมขึ้นนำ ก่อนจะมาโดนตามตีไข่แตกจาก ลูก้า มิเลโวเยวิช แต่ "เรือใบสีฟ้า" มาได้ประตูตอกฝาโลงจาก กาเบรียล เชซุส ท้ายเกม ส่งผลให้พวกเขาเก็บสามแต้มแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงก่อนที่ "หงส์แดง" มีคิวเปิดแอนฟิลด์ พบ เชลซี คืนนี้ ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 2562

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 2562
คริสตัล พาเลซ 1-3 แมนฯ ซิตี้

สนาม : เซลเฮิร์สท์ พาร์ค

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" ปรับทัพใหม่อีกรอบ ด้วยการเรียก ไคล์ วอล์คเกอร์, อิลคาย กุนโดกัน, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิง, เซร์คิโอ อเกวโร่ และ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ เป็น 11 คนแรก แทน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, ดานีโล่, จอห์น สโตนส์, ฟิล โฟเด้น, แฟร์นานดินโญ่ และ ริยาด มาห์เรซ

    ส่วน "อินทรีผงาด" เจ้าถิ่นของ รอย ฮ็อดจ์สัน เรียกใช้งาน คริสติยอง เบนเตเก้ หัวหอกทีมชาติเบลเยี่ยม เล่นเกมรุกแทน มิชี่ บาตชูอายี่ ขณะที่ สกอตต์ แดนน์ มาแทน เจมส์ ทอมกิ้นส์ กองหลังที่บาดเจ็บ

    ครึ่งแรกเริ่มเกมมาเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่บุกกดดันต่อเนื่อง แต่กลายเป็น พาเลซ ที่มีโอกาสจบสกอร์ก่อน ใน น.4 เมื่อ ลูก้า มิลิโวเยวิช ลองส่องไกลแต่บอลข้ามคานออกไป

    จากนั้น น.10 แมนฯ ซิตี้ พลาดได้ประตูขึ้นนำแบบเหลือชื่อเมื่อ ดาบิด ซิลบา หลุดไปถึงสุดเส้นหลังก่อนจะจ่ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ยืนอยู่หน้าปากประตูโล่งๆแต่กลับยิงออกไปแบบน่าตาเฉย

    อย่างไรก็ดี น.15 สเตอร์ลิง มาแก้ตัวได้สำเร็จเมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายทะลุช่องให้ปีกทีมชาติอังกฤษ   กระชากเข้าไปยิงแสกหน้า บิเซนเต้ ไกวต้า นายประตูพาเลซ เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้นส่ง "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นนำ 1-0

    "เรือใบสีฟ้า" หวิดได้ประตูที่สอง ใน น.32 ลีรอย ซาเน่ เลี้ยงแหวกแนวรับ พาเลซ เข้าไปยิงยัดเสาแรก แต่ ไกวต้า ปัดออกไปได้หวุดหวิด

    หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ บุกมานำ พาเลซ 1-0

    ครึ่งหลังเปิดฉากมายังเป็นทีมเยือนที่เปิดฉากบุกใส่อย่างหนักเหมือนเดิมและมาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 ใน น.63 ลีรอย ซาเน่ จ่ายยัดมาเสาสองให้ สเตอร์ลิง ที่ยืนอยู่โล่งๆแปด้วยซ้ายบอลเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม

    จากนั้น น.77 ยังเป็นโอกาสของ แมนฯ ซิตี้ สเตอร์ลิง จ่ายถวายพานกลับไปให้ อิลคาย กุนโดกัน ที่เติมขึ้นมาซัดหน้าเขตโทษแต่บอลข้านคานออกไป

    อย่างไรก็ตาม น.81 พาเลซ ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะฟรีคิกของ ลูก้า มิลิโวเยวิช ได้ปั่นหน้ากรอบเขตโทษเข้าไป

   พาเลซ มีฮึดขึ้นเล็กน้อยในช่วงที่เหลือ แต่ก็ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ แถมโดนลูกสามจากเกมสวนกลับใน น. 90 เดอ บรอยน์ จ่ายออกซ้ายให้ เชซุส ปั้มบอลกับกองหลังก่อนซัดเข้าไปตุงตาข่าย

    หมดเวลา แมนฯ ซิตี้ ชนะไป 3-1 ผลักแรงกดดันไปให้ลิเวอร์พูล อีกครั้ง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

พาเลซ : บีเซนเต้ กวาอีต้า, อารอน วาน-บิสซาก้า, มาร์ติน เคลลี่, สกอตต์ แดนน์, พาทริค ฟาน อานโฮลท์, เจมส์ แม็คอาเธอร์ (บาการี่ ซาโก้ น.85), ลูก้า มิลิโวเยวิช, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ (ชีคู คูตาเต้ น.22), แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ (มักซ์ ไมเยอร์ น.77), คริสติยอง เบนเตเก้, วิลฟรีด ซาฮา

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซ็อง ก็องปานี, เอมเมอริก ลาป๊อร์กต์, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน, ดาบิด ซิลบา (แบร์นาโด้ ซิลวา น.65), ราฮีม สเตอร์ลิง, เซอร์คิโอ อเกวโร่ (กาเบรียล เชซุส น.75), ลีรอย ซาเน่ (จอห์น สโตนส์ น.87)

ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ๊ตกินสัน