"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โอกาสทะยานเข้าสู่รอบรองชนะเลิศมีค่อนข้างสูง หลังเกมแรกที่แอนฟิลด์ไล่บดเอาชนะ 2-0 กุมความได้เปรียบก่อน แม้เกมนี้จะบุกไปเยือนปอร์โต้แต่ไม่หวั่น พร้อมจัดสามประสานสุดห้าวนำโดย ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์ดต้ ฟีร์มีโน่และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่พร้อมจะบุกย้ำชัยอีกครา พลาดไม่ได้ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง คืนวันพุธที่ 17 เมษายน นี้ เริ่มแข่งขันเวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง
วันพุธที่ 17 เมษายน 2562
ปอร์โต้ (2/โปรตุเกส) - ลิเวอร์พูล (1/อังกฤษ) 
เริ่มแข่งขันเวลา 02.00 น.
(ผลนัดแรก ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0)

สนาม : เอสตาดิโอ โด ดราเกา
แซร์โจ้ คอนไซเซา เทรนเนอร์เอฟซี ปอร์โต้ พาทีมออกไปแพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 ในนัดแรก ก่อนถล่มปอร์ติโมเนนเซ่ 3-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะนัดที่ 3 ในรอบ 5 เกม

ในลีกต้องลุ้นแชมป์อย่างหนักในโค้งสุดท้าย ส่วนเกมนี้หลังพิงฝาด้วย เพราะแพ้มาในเกมแรก แถมไม่อาจยิงประตูในฐานะทีมเยือนได้

สภาพทีมเกมนี้ ที่แน่ๆ คอนไซเซาจะได้ทั้ง เปเป้ และ เอคตอร์ เอร์เรร่า พ้นโทษแบนกลับมาเสริม แต่ยังไม่มี แว็งซ็องต์ อบูบาการ์ ที่บาดเจ็บ

นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม แกนหลักประจำทีมรายอื่นๆ อย่าง อีเกร์ กาซียาส, เอแดร์ มิลิเตา, อเล็กซ์ เตลเลส, โอตาวินโญ่, มุสซ่า มาเรก้า และ ติกินโญ่ ยังพร้อมช่วยทีมตามปกติ

คาดว่าแนวรุกเตรียมใช้ มุสซ่า มาเรก้า และ ติกินโญ่ โซอาเรส ประสานงานร่วมกัน

ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ลิเวอร์พูล พาทีมชนะ เอฟซี ปอร์โต้ 2-0 ในนัดแรก ก่อนอัดเชลซีด้วยสกอร์เดียวกัน ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 7 นัดติด และยังยืนหยัดเป็นจ่าฝูงในพรีเมียร์ลีกอย่างต่อเนื่องด้วย

สภาพทีมเกมนี้ที่แน่ๆ คล็อปป์จะได้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายตัวหลักพ้นโทษแบนกลับมา ประจำการเช่นเดิม

ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เดี้ยงเล็กน้อยมาจากเกมล่าสุด ต้องรอทดสอบความฟิต

แต่แกนหลักรายอื่นๆ ยังพร้อมช่วยทีมตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, ฟาบินโญ่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่

คาดกันว่าในแดนกลางจะใช้บริการ ฟาบินโญ่ กับ นาบี เกอิต้า ที่โชว์ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม         

เอฟซี ปอร์โต้ (4-4-2) : อีเกร์ กาซียาส - เอแดร์ มิลิเตา, เปเป้, เฟลิเป้, อเล็กซ์ เตลเลส - โอตาวินโญ่, ดานิโล่ เปเรยร่า, เอคตอร์ เอร์เรร่า, เฮซุส โกโรน่า - มุสซ่า มาเรก้า, ติกินโญ่ โซอาเรส 

เทรนเนอร์ : แซร์โจ้ คอนไซเซา

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, นาบี เกอิต้า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่

เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

ผู้ตัดสิน : ดานนี่ มัคเคลี่ (ฮอลแลนด์)

เกร็ดน่าสนใจ
- ปอร์โต้มีสถิติไม่ดีเลยในการเจอทีมอังกฤษ โดย 7 เกมหลังสุด เสมอ 3 แพ้ 4
- อย่างไรก็ตาม ปอร์โต้ชนะรวดทั้ง 4 เกมเหย้าในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ และนับรวม 15 นัดหลัง ชนะไป 8 แพ้ 5
- ปอร์โต้พลิกสถานการณ์เข้ารอบได้เพียง 5 จาก 21 ครั้งที่แพ้ก่อนในเลกแรก แต่หนล่าสุดสดๆ  ร้อนๆ พวกเขาสมหวังในการเจอ โรม่า รอบที่แล้ว (แพ้ 1-2 เยือน, ชนะต่อเวลา 3-1 เหย้า)
- ลิเวอร์พูลชนะเกมน็อกเอาต์ยุโรปมา 9 หนรวดนับรวมรอบคัดเลือก โดยหนสุดท้ายที่ปราชัยต้องย้อนไปในยูโรปา ลีก ซีซั่น 2014-15 ที่แพ้ดวลจุดโทษเบซิคตัส ตกรอบ 32 ทีมสุดท้าย
- หงส์แดงมีสถิติชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 4 ในทริปเยือนโปรตุเกส แต่ที่ชนะปอร์โต้ 5-0 เมื่อซีซั่นที่แล้วคือครั้งแรกในรอบ 8 หนหลัง
- ลิเวอร์พูลลอยลำได้ตลอด 31 ครั้งล่าสุดที่คว้าชัยได้ในเกมยุโรปเลกแรก
- ผลปราชัยต่อลิเวอร์พูลในเลกแรกเป็นเพียงครั้งที่ 2 ที่ปอร์โต้แพ้ใน 12 เกมล่าสุดทุกรายการ (ชนะ 9 เสมอ 1)
- ปอร์โต้ชนะ 19 จาก 22 เกมเหย้าล่าสุดทุกรายการ (เสมอ 2 แพ้ 1) โดยคว้าชัยทั้ง 3 นัดหลัง
- ลิเวอร์พูลไร้พ่าย 16 เกมรวดทุกรายการ (ชนะ 11 แพ้ 5) นับตั้งแต่แพ้ตกรอบ 3 เอฟเอ คัพ ด้วยน้ำมือวูล์ฟแฮมป์ตัน เมื่อ 7 มกราคม โดยชนะตลอด 7 เกมล่าสุดด้วย
- เฉพาะเกมเยือน ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังไม่แพ้ 7 เกมรวด (ชนะ 4 เสมอ 3) โดยชนะทั้ง 3 นัดหลัง
- ซาดิโอ มาเน่ พังตาข่ายได้ 8 จาก 9 เกมล่าสุดที่ลงสนามให้ลิเวอร์พูล