ศึกเอล กลาซิโก้ เกมนี้จบลงไม่สนุกเท่าที่ควรหลัง "เจ้าบุญทุ่ม" เปิดบ้านเสมอ "ราชันชุดขาว" แบบโนสกอร์ 0-0 โดย ไฮไลท์ของเกมหนีไม่พ้น "วีเออาร์"0 ที่ริบสกอร์ของ แกเร็ธ เบล ช่วยให้ แชมป์เก่ายังครองจ่าฝูง มี 36 คะแนนเท่ากัน แต่ บาร์เซโลน่า ประตูได้เสียดีกว่า ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน คืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : คัมป์ นู

    เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กุนซือ "เจ้าบุญทุ่ม" เตรียมส่งทัพใหญ่ลงสนามบู๊ศึกเอล กลาซิโก้ ในคืนนี้ เกมรุก ลิโอเนล เมสซี่, อองตวน กรีซมันน์ และ หลุยส์ ซัวเรซ ลงประสานงาน หลังจากที่ยังคงนำเป็นจ่าฝูงต่อไปอีกสัปดาห์

ทางด้าน ซีเนดีน ซีดาน ซึ่งพาทีม "ราชันชุดขาว" เสมอหวุดหวิดในช่วงท้ายเกม จะได้ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ แบ็กซ้ายฝรั่งเศสพ้นโทษแบนกลับมาแล้ว และเตรียมส่งลงสนามทันที เนื่องจากมาร์เซโล่ยังมีอาการบาดเจ็บ 

    เริ่มต้นเกมได้ 4 นาทีเป็น บาร์เซโลน่า ทักทายก่อนจากบอลยาวของ ลิโอเนล เมสซี่ ครอสข้ามแนวรับให้ จอร์ดี้ อัลบา หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนจ่ายเร็วเข้าในแต่บอลแรงย้อนหลัง หลุยส์ ซัวเรซ ออกข้างไป

    ต่อมานาทีที่ 10 โอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกของเกมเป็นของ "ราชันชุดขาว" จากจังหวะลุยของ อีสโก้ สอดเข้าเขตโทษก่อนไขว้บอลลอดขา เคราร์ด ปีเก้ มาเข้าทาง คาริม เบนเซม่า ตวัดเร็วด้วยซ้ายติดเซฟ มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น

    7 นาทีต่อมา เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูออกนำจากลูกสูตรเตะมุมทางขวาเล่นสั้นให้ ดานี่ การ์บาฆาล ครอสมาเข้าเข้าหัว คาเซมีโร่ โขกย้อนทาง แทร์ ชเตเก้น แต่ไปติด เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ ยืนคุมเส้นช่วยทีมเอาไว้ได้

    นาทีที่ 25 ทีมเยือน ยังทำได้ดีกว่าคราวนี้เป็น คาริม เบนเซม่า หลุดเข้ามาทางขวาก่อนปาดเข้าในไปติด แทร์ ชเตเก้น แต่บอลมาเข้าทาง คาเซมีโร่ เก็บตกก่อนปั่นโค้งด้วยขวาก็ยังไม่ผ่านมือ แทร์ ชเตเก้น พุ่งปัดออกไปได้

    5 นาทีต่อมา เจ้าถิ่น ตอบโต้บ้างจากจังหวะสวนกลับและเป็น จอร์ดี้ อัลบา ได้ครอสอีกครั้งบอลไปติดปลายมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดมาเข้าทางผู้เล่น บาร์เซโลน่า ตามซ้ำไปติดบล็อค เซร์คิโอ รามอส หน้าปากประตู

    ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที บาร์เซโลน่า พลาดโอกาสทองเป็น ลิโอเนล เมสซี่ ยกบอลข้ามแนวรับให้ จอร์ดี้ อัลบา หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลกับ ติโบต์ กูร์กตัวส์ แต่จังหวะยิงโดนไม่ดีบอลผ่านหน้าประตูออกหลังเหลือเชื่อ

 5 นาทีต่อมา เจ้าถิ่น ตอบโต้บ้างจากจังหวะสวนกลับและเป็น จอร์ดี้ อัลบา ได้ครอสอีกครั้งบอลไปติดปลายมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดมาเข้าทางผู้เล่น บาร์เซโลน่า ตามซ้ำไปติดบล็อค เซร์คิโอ รามอส หน้าปากประตู

    ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที บาร์เซโลน่า พลาดโอกาสทองเป็น ลิโอเนล เมสซี่ ยกบอลข้ามแนวรับให้ จอร์ดี้ อัลบา หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลกับ ติโบต์ กูร์กตัวส์ แต่จังหวะยิงโดนไม่ดีบอลผ่านหน้าประตูออกหลังเหลือเชื่อ

    นาทีที่ 44 เรอัล มาดริด ออกหมัดบ้างเป็น แฟร์กล็องด์ เมนดี้ เอาชนะ เนลสัน เซเมโด้ ก่อนเปิดเข้าในไปติดหัว เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ โขกมาเข้าทาง เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ตามเข้าตะบันด้วยขวาติดเซฟ แทร์ ชเตเก้น อีกครั้ง

    หมดครึ่งเวลาแรก บาร์เซโลน่า 0 เรอัล มาดริด 0

    กลับมาลงสนามนาทีที่ 60 บาร์เซโลน่า พลาดโอกาสทองบ้างเป็น อองตวน กรีซมันน์ หลุดเข้าเขตโทษก่อนยกบอลหลบแนวรับ เรอัล มาดริด จ่ายต่อเข้าในให้ ลิโอเนล เมสซี่ สอดมาซัดระยะไม่ถึง 5 หลาติดบล็อค เซร์คิโอ รามอส

    นาทีที่ 66 คาเซมีโร่ ไปเสียท่าหวด หลุยส์ ซัวเรซ ล่วงลงไป เจ้าถิ่น ได้ฟรีคิกระยะโปรด ลิโอเนล เมสซี่ ยิงไม่ดีไปติดกำแพงก่อนจังหวะต่อเนื่อง "ราชันชุดขาว" สวนคืนเป็น เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ จ่ายให้ แกเร็ธ เบล ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษบอลถากข้างตาข่ายออกหลังไป

   ต่อมานาทีที่ 73 เรอัล มาดริด ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายสำเร็จจากจังหวะเข้าตามเข้าชาร์จของ แกเร็ธ เบล แต่ผู้ตัดสินใช้ "วีเออาร์" ริบสกอร์คืนหลังมองว่าเป็นการล้ำหน้าของ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ไปก่อนแล้ว

    ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมเล่นรัดกุม โอกาสลุ้นทำประตูมีน้อย จบเกม บาร์เซโลน่า 0 เรอัล มาดริด 0 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้มโดยเป็น "เจ้าบุญทุ่ม" รักษาจ่าฝูงด้วยผลประตูได้เสีย

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง

    บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น - เนลสัน เซเมโด้ (อาร์ตูโร่ วิดัล น.55), เคราร์ด ปีเก้, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, จอร์ดี้ อัลบา - เซร์จี้ โรเบร์โต้, เฟร็งกี้ เดอ ยอง, อิวาน ราคิติช - ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, อองตวน กรีซมันน์ (อันซู ฟาติ น.83)

    เทรนเนอร์ : เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้

    เรอัล มาดริด (4-4-2) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ดานี่ การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ - เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ (ลูก้า โมดริช น.80), เอ็นริเก้ คาเซมีโร่, โทนี่ โครส - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, อีสโก้ (โรดริโก้ โกเอส น.80)

    เทรนเนอร์ : ซีเนดีน ซีดาน