เจอร์เก้น คล็อปป์ แสดงให้โลกได้เห็นถึงความใจเด็ดของเขาในการจัดทีมชุดเด็กผสมชุดเก่าลงเล่นในเกมระดับเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ฉบับ เอฟเอ คัพ ปะทะ เอฟเวอร์ตัน แม้ว่าจะต้องเหนื่อยพอสมควรกว่าจะเก็บชัยชนะได้ แต่ก็ทำให้ได้เห็นศักยภาพของผู้เล่นวัยกระเต๊าะว่ายอดเยี่ยมขนาดไหน
    ไฮไลท์อีกอย่างในเกมนี้ก็คือการลงเล่นเปิดตัวของ  ทาคุมิ มินามิโนะ ที่สวมบทหน้าเป้าในเกมนี้ แม้ว่าฟอร์มจะไม่หวือหวา แต่เจ้าตัวก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทักษะและความคล่องตัวของเขา สามารถเอาตัวรอดกับการเล่นในลีกที่เข้มข้น เน้นเรื่องสภาพร่างกายได้สบายๆ

    สำหรับบรรดาแข้งละอ่อนที่ได้เล่นตัวจริง และตัวสำรองไม่ว่าจะเป็น เคอร์ติส โจนส์ล ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, เปโดร ชิริเบย่า, นาธาเนียล ฟิลิปส์, ยาสเซอร์ ลารูซี่ และ เรียนห์ บริวสเตอร์ ต่างก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีศักยภาพพร้อมที่จะสอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวหลักในอนาคตได้

1. อาเดรียน ยังคงสำคัญกับทีมเสมอ
    เมื่อตอนที่ ลิเวอร์พูล ตกลงปล่อย ซิมง มิโญเลต์ กลับไปเล่นในประเทศเบลเยียมบ้านเกิดเมื่อเดือนสิงหาคม สาวก "เดอะ ค็อป" รู้สึกกังวลพอสมควรว่าทีมจะหานายทวารยางอะไหล่คนไหนมาแทนที่ ครั้นจะไปเรียก ลอริส คาริอุส กลับมานั่งที่ซุ้มม้านั่งสำรอง ก็ทำให้แฟนบอลคงรู้สึหลอนกับฟอร์มของเขาแน่นอน

    สุดท้าย "หงส์แดง" ตัดสินใจคว้าตัว อาเดรียน มาแบบฟรีเอเยนต์เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นมือ 2 ของ อลีสซง เบ็คเกอร์ หลังจากที่เจ้าตัวยังว่างงานนับตั้งแต่ที่อำลา เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ประมาณ 2 เดือน โดย โกล์ชาวสแปนิช ทำหน้าที่ได้ดีในการเฝ้าเสาแทน นายด่านทีมชาติบราซิล ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงานตั้งแต่เกมเปิดซีซั่น

    ยังไม่หมดแค่นั้นเขายังสวมบทฮีโร่เซฟจุดโทษนำ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ด้วย อย่างไรก็ตามเจ้าต้วรู้ชะตาชีวิตอยู่แล้วว่าเมื่อ อลีสซง หายเจ็บก็ต้องกลับมาเป็นมือ 1 เหมือนเดิม แต่เขาก็ยังคงมุ่งมั่นและเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา หาก คล็อปป์ เรียกใช้งาน

    ในเกมนี้ อาเดรียน แสดงให้เห็นแล้วว่าเขายังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีมจริงๆ โดยเขาโชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟถึง 3 ครั้งในครึ่งแรกช่วยให้ "เดอะ เร้ดส์" ยังคงสกอร์ 0-0 ในช่วง 45 นาที ก่อนที่ครึ่งหลัง เคอร์ติส โจนส์ จะยิงประตูสุดสวยเป็นประตูชัยในเกมนี้

    ฉะนั้นต้องบอกเลยว่าหาก อาเดรียน ไม่ดีพอ เกมนี้ทีมที่จะน้ำตาตกอาจจะเป็น ลิเวอร์พูล ก็เป็นได้ !!! แน่นอนว่าแฟนบอล "หงส์แดง" คงแฮปปี้กับผลงานของเขา เพราะไว้วางใจได้เสมอ
 

2. เอลเลียตต์ คุณภาพคับแก้ว
    หลังจากได้ลงเล่นตัวจริงให้กับ ลิเวอร์พูล ชุดละอ่อนในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพ ที่โดน แอสตัน วิลล่า ถลุงยับเมื่อเดือนที่ผานมา ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ได้รับโอกาสทองจาก นายใหญ่ชาวเยอรมัน ให้ลงเล่นในเกมสำคัญศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ฉบับเอฟเอ คัพ

    ผลงานของเจ้าหนูผมจุก แสดงให้เห็นแล้วว่าทำไม คล็อปป์ และทีมสตาฟฟ์ ถึงตัดสินใจเซ็นสัญญาเขามาจาก ฟูแล่ม เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา เพราะในเกมนี้มีหลายจังหวะที่ ดาวเตะวัย 16 ปีโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในการเล่นงานลูก้าส์ ดีญ 

    เอลเลียตต์ เป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ เขาสามารถพาบอลลุยเข้าไปในพื้นที่แคบๆ พร้อมที่จะเรียกบอลจากผู้เล่นเก๋าๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังพร้อมที่จะลากบอลจี้คู่แข่ง และวิ่งทะลุทะลวงเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายเพื่อป่วนแนวรับของเอฟเวอร์ตันให้สับสน

    อย่างไรก็ตามสำหรับตอนนี้นักเตะคงจะต้องพัฒนาในเรื่องสภาพร่างกายให้แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ แต่กระนั้นหากมองในแง่ของเทคนิค และหัวจิตหัวใจนักสู้ ต้องบอกเลยว่าเจ้าหนูรายนี้มีอนาคตสดใสภายใต้การกุมบังเหียนของเจอร์เก้น คล็อปป์ แน่นอน

3. โจนส์ ยิ่งเล่นยิ่งเหนือชั้น
    ฟอร์มของ เคอร์ติส โจนส์ ต้องบอกเลยว่าเด็ดดวงโดนใจเหลือเกิน โดยนักเตะเพิ่งจะได้รับการต่อสัญญาใหม่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้เขาจะอยู่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ ไปจนถึงปี 2024 แน่นอนว่านี่คือหนึ่งในแข้งดาวรุ่งสายพันธุ์สเกาเซอร์ที่ฟอร์มโดดเด่นมาตลอดตั้งแต่ชุดเยาวชน และระดับยู-23 ปี

    โจนส์ วัย 18 ปี ซัดไป 13 ประตูจากการเล่น 16 เกมในศึกยูฟ่า ยูธ ลีก และ พรีเมียร์ลีก 2 (ลีกระดับเยาวชน) ในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตามนักเตะมีโอกาสได้ลงเล่นทีมชุดใหญ่ในฐานะตัวสำรองบางเกม แต่กระนั้นก็ยังไม่ได้ฉายแววความเป็นแข้งอนาคตใหม่ของ "เดอะ เร้ดส์" มากนัก

    อย่างไรก็ตาม สำหรับเกมนี้ต้องยอมรับว่า โจนส์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในแผงกองกลางซึ่งเล่นได้แข็งแกร่ง และมีการเคลื่อนที่หาตำแหน่งอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังดันเกมเพื่อคอยสนับสนุนแนวรุก 3 ประสาน ผลงานแบบนี้แสดงให้เห็นว่านักเตะมีความรับผิดชอบสูง

    สำหรับประตูโทนในเกมนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นการยิงที่สวยสดงดงามอย่างแท้จริง และยังแสดงให้เห็นถึงเซนต์ลูกหนังของ โจนส์ เมื่อเขาได้บอลจาก ดิว็อค โอริกี้ และเจ้าตัวรู้ทันทีว่าจะต้องทำอะไร จากนั้นก็อย่างที่ทุกๆ คนได้เห็นเต็มสองตากันไปแล้ว เชื่อว่านักเตะรายนี้ยังมีของดีที่จะแสดงให้เห็นอีกเยอะแน่นอน คอยดูกันให้ดีๆ

4.  มินามิโนะ เปิดตัวเบาๆ แต่น่าพอใจ
    ก่อนหน้านี้การเซ็นสัญญากับ ทาคุมิ มินามิโนะ  ถือเป็นเรื่องทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อย่างมาก และแน่นอนว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลทั่วโลก โดยเฉพาะชาวเอเชีย อยากเห็นดาวเตะแดนอาทิตย์ ได้ลงเล่นเปิดตัวกับยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ อย่างมาก

    การลงเล่นครั้งแรกในเกมใหญ่ระดับเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ปะทะ เอฟเวอร์ตัน แม้จะเป็นในศึกเอฟเอ คัพ แต่ก็เต็มไปด้วยความกดดันมหาศาล โดย มินามิโนะ อาจจะเล่นไม่ค่อยออกในช่วงต้นเกมแต่ก็มีโอกาสโชว์ทักษะการจับบอล และแสดงให้เห็นการเล่นที่ทุ่มเท

    ขณะเดียวกันหากมองกันอย่างละเอียดจะเห็นได้ว่า มินามิโนะ มีโอกาสสร้างสรรค์เกม และเชื่อมเกมกับบรรดาเพื่อนร่วมทีมเยอะมากซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจกับการเล่น 45 นาทีแรก ส่วนในครึ่งหลังนักเตะแดนซามูไร ค่อนข้างฟอร์มเงียบไปหน่อยก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงนาทีที่ 70

    แม้จะมีหลายคนเป็นห่วงเรื่องรูปร่างที่ค่อนข้างเล็กของ มินามิโนะ อย่างไรก็ตามหากมองในแง่บวก ฟอร์มการเล่นเปิดตัวในแมตช์ที่สุดหินแบบนี้ แถมยังเล่นร่วมกับทีมชุดเด็กผสมแข้งเก่า ถือว่าค่อนข้างสอบผ่าน และน่าจะทำให้ ลิเวอร์พูล ยิ้มได้ เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขามีตัวเลือกในเกมรุกชั้นดีเพิ่มขึ้น

5. วัน(ของ)เด็ก
    คล็อปป์ ตัดสินใจส่งผู้เล่นดาวรุ่งลงเล่นหลายคนในเกมใหญ่แบบนี้ โดยสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเขามีความเชื่อมั่นในตัวของผู้เล่นวัยกระเต๊าะ ในขณะเดียวกันยังเป็นการบ่งบอกว่าศูนย์ฝึกเยาวชน "เดอะ เร้ดส์" มีขุมกำลังดาวรุ่งชั้นดีที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่หากเกิดอาการเดี้ยง หรือฟอร์มหลุด

    เริ่มกันที่ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ลงเล่นแบ็กขวา โดยต้องบอกว่านักเตะรายนี้พัฒนาอย่างรวดเร็ว แถมสไตล์การเล่นก็คล้ายๆ กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่สำคัญสภาพร่างกายก็แข็งแกร่งซะด้วย โดยนักเตะมีโอกาสได้เปิดบอลจากริมเส้นหลายครั้ง รวมทั้งการวิ่งเติมเกมบุกทางกราบ

    ขณะเดียวกันก็เล่นเกมรับได้ดุดันและรับมือกับ ริชาร์ลิซอน ได้ดี แถมยังมีจังหวะการเล่นเกมรับที่โดดเด่นมากๆ ในการดวลกับผู้เล่น "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" แบบตัวต่อตัว บริเวณเขตโทษ ก่อนที่จะช่วยเคลียร์จังหวะดังกล่าวได้สำเร็จ ส่วนอีกรายก็คือ เอลเลียตต์ ต้องบอกว่าผลงานเยี่ยมมากๆ สามารถสลับไปเล่นปีก, เชื่อมเกม และปั่นป่วนเกมรับ เอฟเวอร์ตัน ได้เรื่อยๆ ฟอร์มของเจ้าหนูหัวจุก ราวกับผู้เล่นวัย 26 ปี ไม่ใช่แค่ 16 ปีตามบัตรประชาชน

    ส่วนคนสุดท้าย โจนส์ ต้องบอกเลยว่านักเตะรายนี้อนาคตสดใสมากๆ ผลงานของเขาในเกมนี้สมบูรณ์แบบ ทั้งการครองบอล และการผ่านบอล รวมทั้งการยิงประตู ทุกอย่างสุดยอดเกินจะบรรยาย งานนี้แฟนบอลิเวอร์พูล คงจะได้เห็นเจ้าตัวในทีมชุดใหญ่มากขึ้นแน่นอน