ถือเป็นเป้าหมายการเสริมทัพที่ทำหลายคนแปลกใจเหมือนกับ สำหรับกรณีของ อิสลาม สลิมานี่ กองหน้า เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ตอนนี้ไปเล่นกับ อาแอส โมนาโก ด้วยสัญญายืมตัว หลังจากที่เขาตกเป็นเป้าหมายของทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2 ทีมดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

    ว่ากันว่า สลิมานี่ เองก็ต้องการย้ายทีมมากๆ จนถึงขั้นแจ้งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรู้ว่าเขาต้องการยกเลิกสัญญายืมตัวกับ โมนาโก ก่อนกำหนดด้วย ทั้งที่ตอนแรกเจ้าตัวมีสัญญาที่ต้องอยู่กับ โมนาโก จนกระทั่งจบฤดูกาลนี้ และที่ผ่านมาก็ทำผลงานได้น่าประทับใจกับ โมนาโก ด้วยการทำไป 7 ประตู จากการลงเล่นในลีก 13 นัด

    ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ สเปอร์ส ต่างก็จำเป็นต้องลงตลาดหาหัวหอกคนใหม่อย่างเร่งด่วน หลังจากที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้า "ปีศาจแดง" และ แฮร์รี่ เคน ดาวยิง "ไก่เดือยทอง" ต่างก็โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานจนต้องพักเป็นเวลานานทั้งคู่ คำถามคือสำหรับ สลิมานี่ แล้วนั้น ตัวเลือกไหนที่น่าสนใจมากกว่ากัน ?

- โอกาสการได้ลงเล่น
    การที่ทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส ตามจีบ สลิมานี่ เพราะต้องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มันหมายความว่าถ้ามองเฉพาะปัจจุบัน พวกเขาต่างก็คิดว่า สลิมานี่ เป็นเพียงอะไหล่คนหนึ่งเท่านั้ ถ้าเกิด แรชฟอร์ด และ เคน หายเจ็บจนกลับมาลงเล่นให้ทีมได้ โอกาสลงเล่นของ สลิมานี่ ก็จะลดน้อยลงไป

    ถึงกระนั้น หากเปรียบเทียบในกรณีที่ทั้ง แรชฟอร์ด กับ เคน กลับมาลงเล่นให้ต้นสังกัดของตัวเองได้แล้วล่ะก็ การอยู่กับ สเปอร์ส ก็อาจจะทำให้ สลิมานี่ มีโอกาสลงเล่นเยอะกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะในรายของ แมนฯ ยูไนเต็ด มันยังมีทั้ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ เมสัน กรีนวู้ด ที่ต่างก็เล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าได้ แถม โซลชา ยังผลักดัน กรีนวู้ด สุดๆ ด้วย

     ในทางกลับกัน ขุมกำลังชุดปัจจุบันของ สเปอร์ส นั้น นอกจาก เคน แล้วก็มีเพียง ซน ฮึง-มิน แค่คนเดียวที่พอจะยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าได้ แถมเอาจริงๆ แล้วดาวเตะชาวเกาหลีใต้ยังเหมาะกับการเป็นตัวริมเส้นมากกว่าอีกต่างหาก เปรียบเทียบง่ายๆ ก็คือถ้าไป สเปอร์ส สลิมานี่ ก็จะเป็นเหมือนตัวเลือกที่ 2 ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า ในกรณีที่นักเตะทุกคนฟิตพร้อมลงเล่น ส่วนถ้าไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาอาจจะเป็นตัวเลือกลำดับที่ 4 ซะด้วยซ้ำ

    สรุป : ยกนี้ สเปอร์ส ดูดีกว่า

- คุณภาพเกมรุก
    แน่นอนว่าถ้าเป็นสมัยก่อน สเปอร์ส คงชนะแบบไร้ข้อโต้แย้ง เพราะช่วงหลายฤดูกาลก่อนหน้านี้ สเปอร์ส ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มีเกมรุกที่ดุดัน พร้อมกับมีจอมปั้นเกมชั้นยอดอย่าง คริสเตียน เอริคเซ่น อีกต่างหาก

     อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันมันต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง เอริคเซ่น ย้ายไปซบ อินเตอร์ มิลาน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนทำให้กองกลางตัวรุกของทีมเหลือเพียง เดเล่ อัลลี่ ซึ่ง อัลลี่ เป็นกองกลางประเภทชอบบุกขึ้นหน้าแล้วหาโอกาสยิงมากกว่าการจ่ายบอล อย่างคนที่ทำแอสซิสต์มากที่สุดของทีมในฤดูกาลนี้ยังเป็น ซน ที่ทำไป 9 แอสซิสต์เลย ส่วนอันดับ 2 ก็ไม่ใช่นักเตะในตำแหน่งกองกลาง แต่เป็น แซร์จ ออริเย่ร์ แบ็กขวาชาวไอวอรี่ โคสต์ ที่ทำไป 7 หน

    สิ่งนั้นแสดงให้เห็นว่าในฤดูกาลนี้ สเปอร์ส มีปัญหาด้านการขึ้นเกมจากบรรดามิดฟิลด์ตัวกลางในระดับหนึ่งตั้งแต่แรกแล้ว และพอขาด เอริคเซ่น ไป มันก็จะส่งผลเสียกับเรื่องดังกล่าวมากขึ้น ปัจจัยที่จะทำให้ สเปอร์ส ยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ กลับมามีความสร้างสรรค์ในการเล่นมากเหมือนยุคของ โปเช็ตติโน่ หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ปีกคนใหม่ที่คว้ามาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น

    ถึงกระนั้น ทางฝั่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้ดีกว่ากันเท่าไหร่ เพราะตลอดช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้พวกเขาขาดความสร้างสรรค์จากแผงกลางอย่างมาก เนื่องจาก ปอล ป็อกบา ตัวความหวังในการปั้นเกมดันเจ็บเรื้อรังจนซีซั่นนี้แทบไม่ได้ลงเล่นเลย และพอจะไปพึ่ง เจสซี่ ลินการ์ด, ฆวน มาต้า หรือ อันเดรียส เปเรยร่า ก็ไม่ถึงขั้นฝากผีฝากไข้ได้อย่างต่อเนื่อง

    ด้วยเหตุนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด จึงทุ่มสุดตัวกับการดึง บรูโน่ แฟร์นันด์ส มิดฟิลด์จอมปั้นเกมมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าการได้เขามาร่วมทีมมันมีโอกาสที่จะทำให้เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีความสร้างสรรค์มากขึ้น แต่มองอีกมุมหนึ่ง ถ้าวันไหน แฟร์นันด์ส ลงเล่นไม่ได้ เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็อาจจะเจอปัญหาอีกครั้ง

จะบอกว่าทั้งเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส มีปัญหาเท่ากันก็คงไม่ผิดนัก

    สรุป : ยกนี้เสมอ

- โอกาสประสบความสำเร็จ
    โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์หลายต่อหลายครั้งว่าการกุมบังเหียน "ปีศาจแดง" ของเขามันเป็นโปรเจกต์ระยะยาว และมีโอกาสที่จะต้องใช้เวลานานพอตัวกว่าที่จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่ได้ ซึ่งฟอร์มที่ผ่านมาของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แถมถ้าว่ากันตามตรงแล้วมันยังดูมีโอกาสริบหรี่ที่โปรเจกต์ของ โซลชา จะได้เกรด A ด้วย เพราะจนถึงตอนนี้ทีมของเขายังดูไม่มีทรงในการเล่นดีเท่าที่ควร

     อีกฟากหนึ่ง โชเซ่ มูรินโญ่ คือกุนซือที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนสามารถคว้าแชมป์ได้กับทุกทีมที่เขาไปทำงานให้ หากนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวทำงานกับ เอฟซี ปอร์โต้ จนมักจะมีคนให้คำนิยามถึงเขาบ่อยๆ ว่า "ใครอยากได้แชมป์ ก็ต้องดึง มูรินโญ่ ไปคุมทีม"

    แน่นอนว่าช่วงที่ผ่านมาความน่าเชื่อถือในด้านนี้ของ มูรินโญ่ น้อยลงไป หลังจากผลงานของเขาในช่วงท้ายๆ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มันน่าผิดหวัง, เคยพา เชลซี ไปอยู่เหนือโซนตกชั้นแบบที่มีคะแนนมากกว่าโซนแดงนิดเดียวจนทำให้โดนไล่ออก และตอนนี้ผลงานกับ สเปอร์ส ก็ยังไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร

    อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาของเขากับ สเปอร์ส มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าเขาได้มีเวลาทำทีมอย่างเต็มที่ในช่วงซัมเมอร์นี้แล้วล่ะก็ สเปอร์ส ก็มีโอกาสที่จะมีลุ้นแชมป์รายการใดรายการหนึ่งในเร็วๆ นี้เหมือนกัน

    สรุป : ยกนี้ สเปอร์ส ดูดีกว่า

    รวมคะแนน : ภาษีของ สเปอร์ส ดูดีกว่าเยอะ แถมฤดูกาลนี้ทีมของ มูรินโญ่ ยังอยู่บนเส้นทางของการเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย ซึ่งกรณีหลังก็อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องอกหักก็ได้