ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » แอนฟิลด์สุดโหด! เจาะ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล รับมือ เซาธ์แฮมป์ตัน

แอนฟิลด์สุดโหด! เจาะ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล รับมือ เซาธ์แฮมป์ตัน

Posted 01/02/2020 by siamsport



ลิเวอร์พูล กำลังเดินหน้าแบบเต็มสูบเพื่อทำแต้มทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้มากที่สุดก่อนที่จะหยุดพักเบรกหนีหนาวเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเกมวันเสาร์นี้พวกเขามีคิวรับมือ เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งหากเก็บชัยชนะได้จะทำให้ทีมทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปไกลถึง 22 คะแนน เนื่องจาก "เรือใบสีฟ้า" ต้องลงแข่งวันอาทิตย์
    เกมนี้ถือเป็นการคืนสู่เหย้าของทั้งสองสโมสร โดยในฝั่ง ลิเวอร์พูล ก็มีผู้เล่นที่เคยสวมชุด "นักบุญ" มาแล้วหลายคน ขณะที่ "หงส์แดง" ก็เตรียมต้อนรับ แดนนี่ อิงส์ ที่กำลังโชว์ฟอร์มยิงประตูสุดร้อนแรงโดย รั้งอันดับ 3 ร่วมดาวซัลโวสูงสุดพรีเมียร์ลีก ซะด้วย
    กระนั้น "เดอะ เซนต์ส" คงต้องเจอกับงานสุดหินเพราะพวกเขาต้องมาเยือนถิ่นแอนฟิลด์ ที่ได้ชื่อว่ามีแฟนบอลพร้อมส่งเสียงดังสนั่นลั่นเมกะลูกหนัง แถมสถิติก็โหดเหลือเกิน เพราะยังสะกดคำว่า "แพ้" ไม่เป็นในเกมลีก ส่วนฤดูกาลนี้โหดยิ่งกว่าโหดเนื่องจากเก็บชัยเรียบวุธซะด้วย

 
1. เด็กเก่านักบุญรอต้อนรับ
    เป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล มักจะดึงนักเตะจาก เซาธ์แฮมป์ตันมาร่วมทีมหลายคน แต่หากเอาที่ยังเล่นอยู่ในสีเสื้อ "เดอะ เร้ดส์" ก็ได้แก่ ซาดิโอ มาเน่, อดัม ลัลลาน่า, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, เดยัน ลอฟเรน และ นาธาเนียล ไคลน์ เป็นต้น
    ในกรณีของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก็ผ่านการฝึกปรือฝีเกือกจากถิ่นเซนต์ แมรี่ส์ ก่อนจะไปแจ้งเกิดกับ อาร์เซน่อล และมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ ช่วงที่ผ่านมา แน่นอนว่าขุมกำลังที่ก้าวมานี้มีส่วนต่อผลงานชั้นยอดนับตั้งแต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียน
 

 
    สำหรับตอนนี้คงมีเพียง ไคลน์ กับ มาเน่ เท่านั้นที่ไม่มีโอกาสได้ลงเล่นในเกมรับมือทีมเก่า ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่ คล็อปป์ ว่าจะจัดใครลงเล่นตัวจริง และตัวสำรอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ฟาน ไดค์ ต้องเป็นตัวหลักในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก โดยยืนคู่กับ โจ โกเมซ ซึ่งทั้งสองคนเล่นร่วมกันได้อย่างแข็งแกร่งช่วยทีมเสียแค่ 1 ประตูจาก 9 เกมลีกที่ผ่านมา
    ขณะเดียวกัน อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น่าจะได้ลงเล่นตัวจริงอีกแมตช์ เพราะผลงานช่วงที่ผ่านมาสร้างความประทับใจให้กับนายใหญ่ชาวเยอรมัน แถมเกมที่ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็กด 1 ประตูด้วย ส่วน ปราการหลังเลือดดัตช์ ก็เป็นอีกคนที่น่าจะสร้างปัญหาให้กับเกมรับของ "นักบุญ" ทุกครั้งที่เจ้าบ้านได้เล่นลูกตั้งเตะ
    ฉะนั้นแมตช์นี้ เซาธ์แฮมป์ตัน คงต้องเปิดตำราเล่มเก่าหลายเล่มสมัยที่ผู้เล่นเหล่านี้เคยอยู่ในถิ่นเซนต์ แมรี่ส์ เพื่อจะได้หาแนวทางในการรับมือให้ได้
 
2. อิงส์กลับมาพร้อมฟอร์มโหด
    แดนนี่ อิงส์ อยู่กับ ลิเวอร์พูล 3 ฤดูกาล ลงเล่นทุกรายการ 25 เกมและยิงได้แค่ 4 ประตูเท่านั้น ที่สำคัญการที่ "หงส์แดง" มี 3 ประสานอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ จึงเป็นเรื่องยากมากที่ หัวหอกร้อยรอยสัก จะได้โอกาสสอดแทรกเป็นตัวจริง   
    กระนั้นเมื่อได้โอกาสจาก คล็อปป์ แต่ดูเหมือนนักเตะไม่สามารถฉกฉวยสิ่งเหล่านั้นมาได้ จึงทำให้เขาเป็นเพียงยางอะไหล่ที่ถูกลืมอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ อิงส์ ตัดสินใจโบกมือลาถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2018 เพื่อไปค้นหาฟอร์มเก่งของตัวเองกับ "นักบุญ"
 

 
    เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา อิงส์ ทำผลงานได้ดีกับ "เดอะ เซนต์ส" เมื่อลงเล่น 25 เกมยิงไป 8 ประตูจากทุกรายการ แต่สำหรับซีซั่นนี้ดูเหมือนนักเตะจะเข้าใจระบบการเล่นของต้นสังกัดมากขึ้นก็เลยระเบิดฟอร์มสุดยอดตะบันไป 14 ประตูในเกมลีกเมืองผู้ดี และรวมทุกรายการซัดไปแล้ว 16 ประตู
    ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ คล็อปป์ จะกล่าวชื่นชมผลงานของ ดาวเตะเลือดผู้ดี ในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะความเฉียบคมในกรอบเขตโทษ ซึ่งงานนี้ ฟาน ไดค์ กับ โจ โกเมซ และ อลิสซง เบ็คเกอร์ คงต้องเจองานหนักแน่นอน หากปล่อยให้ อิงส์ มีโอกาสจบสกอร์ !!
 
3.  มินามิโนะ ลุ้นตัวจริงเกมแรกพรีเมียร์ลีก
    แน่นอนว่าตอนนี้ ลิเวอร์พูล ต้องขาด มาเน่ ในเกมดวล เซาธ์แฮมป์ตัน วันเสาร์นี้ ฉะนั้นในแผงแนวรุกทีมมีเพียง ฟีร์มีโน่ และ ซาลาห์ ยืนเป็นตัวหลัก ส่วนแนวรุกอีกตัวก็ต้องเป็น ดิว็อค โอริกี้ แต่ดูเหมือน คล็อปป์ ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ใช้งานนักเตะหรือไม่ เพราะตอนนี้ยังมีปัญหาบาดเจ็บอยู่เลย
    โอริกี้ ได้รับโอกาสลงเล่นเคียงข้าง "บังโม" และ "บ็อบบี้" ในเกมลีกนัดล่าสุดที่บุกไปทุบ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เกมตกค้างเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าตัวทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะการเรียกจุดโทษให้ทีมในช่วงครึ่งแรก ช่วยปลดล็อกการเล่นให้ง่ายขึ้น
 

 
    อย่างไรก็ตาม ดาวยิงชาวเบลเยียม โดนเปลี่ยนตัวออกในช่วง 20 นาทีสุดท้าย โดยเหตุผลเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บ และล่าสุด คล็อปป์ ระบุว่านักเตะยังต้องพักฟื้นเพราะมีปัญหาเรื่องตะคริว ฉะนั้นยังไม่แน่ว่าจะได้ลงสนามในเกมรับมือ เซาธ์แฮมป์ตัน หรือเปล่า แถม เจมส์ มิลเนอร์ และ เซอร์ดาน ชากีรี่ ก็ยังไม่ฟิต
    ด้วยเหตุนี้ทำให้มีความเป็นได้ว่า คล็อปป์ อาจจะให้โอกาส ทาคูมิ มินามิโนะ ลงเล่นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกเกมแรก โดยทำหน้าที่ประสานงานกับ ฟีร์มีโน่ และ ซาลาห์ ขณะเดียวกันในแดนกลางน่าจะยังคงเป็น 3 กำลังหลักได้แก่ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
 
4. แอนฟิลด์ดินแดนต้องห้ามทีมเยือน
    แอนฟิลด์ เป็นสนามที่บรรดาทีมเยือนต่างหวาดหวั่น เพราะสาวก "เดอะ ค็อป" พร้อมที่จะเข้ามาให้กำลังใจทีมรักเต็มพื้นที่สนาม และลองนึกถึงเสียงตะโกนที่ดังสนั่น จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าบรรดาอาคันตุกะจะรู้สึกยังไงเมื่อเจอกับสถานการณ์แบบนั้น
    สำหรับฤดูกาลนี้ในเกมพรีเมียร์ลีก "หงส์แดง" เก็บชัยชนะเรียบวุธ ในแอนฟิลด์ แต่หากมองย้อนไปกลับไปอีก พวกเขาไม่แพ้ใครกับการเล่นในบ้านเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ตั้งแต่ปี 2017 โดยเกมสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล ต้องพบกับความเศร้าก็คือการโดน  คริสตัล พาเลซ บุกมาลูบคม 1-2 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2017
 

 
    เกมนี้ คล็อปป์ มีการกระตุ้นให้แฟนบอล "หงส์แดง" เดินทางเข้ามาชมเกมนี้กันแบบอุ่นหนาฝาคลั่งกันอีกครั้ง และแน่นอนว่าต่อให้นายใหญ่เลือดเบียร์ไม่เรียกร้อง แฟนบอลพันธุ์แท้ก็พร้อมควักกระเป๋าจ่ายเงินเข้ามาชมเกมในสนามแน่นอน
    งานนี้บอกเลยว่า เซาธ์แฮมป์ตัน คงต้องเจอพลังเสียงเชียร์ดังสนั่นจนขาสั่นเหมือนกับหลายๆ ทีมในลีกที่โดนมาแล้วจนเล่นไม่ออก ฉะนั้นสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า แฟนบอล "หงส์แดง" คือผู้เล่นคนที่ 12 ที่สำคัญมากๆ และมีส่วนต่อความสำเร็จของทีมในช่วงที่ผ่านมา, ปัจจุบัน และในอนาคต
 
5. กดดัน แมนฯ ซิตี้
    ตอนนี้หลายคนเริ่มยอมรับแล้วว่าโทรฟี่พรีเมียร์ลีก น่าจะไปอยู่ในตู้โชว์ของ ลิเวอร์พูล เพราะตอนนี้ก่อนเกมพบ เซาธ์แฮมป์ตัน พวกเขามีแต้มนำห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 19 คะแนน ที่สำคัญในแมตช์รับมือ "เดอะ เซนต์ส" ทีมของคล็อปป์ ลงเล่นวันเสาร์ ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" มีโปรแกรมวันอาทิตย์
 

 
    ฉะนั้น คล็อปป์ คงสั่งให้ลูกทีมเน้นเป็นพิเศษเพราะการเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ จะทำให้ทีมทิ้งห่างทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไปถึง 22 แต้ม ที่สำคัญ แมนฯ ซิตี้ ต้องออกไปเยือน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถือว่าเป็นงานที่สุดหินสำหรับพวกเขาเลยทีเดียว
    ยิ่งไปกว่านั้นการที่โดนทิ้งห่างไปไกลสุดกู่ขนาดนี้ ยิ่งทำให้ แมนฯ ซิตี้ อาจจะมีอาการเสียสมาธิ จนทำให้เล่นหลุดเอาได้ง่ายๆ เพราะเชื่อว่านักเตะของ "เป๊ป" คงลุ้นให้ ลิเวอร์พูล สะดุดในหลายๆ เกม แต่ไม่สำเร็จ และหากเกมกับ "นักบุญ" เจ้าบ้านชนะ คงทำให้แข้ง "เรือใบสีฟ้า" ใจเสีย เพราะยิ่งเล่นยิ่งโดนทิ้งห่าง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ธอมป์สันเผยสาเหตุลิเวอร์พูลเมินโรนัลโด้
    ฟิล ธอมป์สัน อดีตมือขวาของ เชราร์ด อุลลิเย่ร์ ในช่วงที่ อุลลิเย่ร์ กุมบังเหียน ลิเวอร์พูล บอกว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาไม่เซ็นสัญญากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นเพราะ โรนัลโด้ เคยต้องการค่าเหนื่อยถึง 1 ล้านปอนด์ต่อปี ทั้งที่ตอนนั้นยังเป็นเพียงแข้งดาวรุ่ง พร้อมรับ อึ้งเหมือนกันที่ค่าตัวตอนย้ายไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ของ โรนัลโด้ พุ่งสูงจากที่ตัวเองเคยรู้ถึงราว 3 เท่า
  • ต๊อตติชู1แข้งลิเวอร์พูลเปลี่ยนเกมได้ทุกเมื่อ
    ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ อดีตแข้งคนเก่งของ โรม่า ออกโรงสรรเสริญ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีก ลิเวอร์พูล ว่าเก่งจนสามารถเปลี่ยนเกมได้ตลอดเวลา พร้อมเชื่อ ถ้าเกิด ซาลาห์ ยังทู่ซี้อยู่กับ โรม่า ต่อไป ดาวเตะชาวอียิปต์ก็คงแทบจะไม่มีหวังได้สัมผัสกับแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก
  • แมตช์ต่อแมตช์ ก่อนเกมชี้ชะตาแชมป์ ลิเวอร์พูล VS แมนซิตี้
    สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ในเวลานี้ค่อนข้างจะได้เปรียบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างมาก เมื่อ "หงส์แดง" เก็บชัยชนะไปแล้ว 23 แมตช์เสมอ 1 เกมจากทั้งหมด 24 เกมส่งผลให้เก็บแต้มไปแล้ว 70 คะแนน ทิ้งห่าง "เรือใบสีฟ้า" ไปไกลสุดกู่ถึง 19 แต้มในเวลานี้ มีลุ้นที่จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกในรอบ 30 ปี
  • โชว์สกิล!เอลเลียตต์ยิงสุดสวยช่วยลิเวอร์พูลยู-23ไม่แพ้
    ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ปีกอนาคตไกลของ ลิเวอร์พูล ทำประตูสุดสวยด้วยท่าจักรยานอากาศได้ พร้อมกับช่วยให้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีของ ลิเวอร์พูล เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของ พรีเมียร์ลีก อินเตอร์เนชันแนล คัพ ได้ด้วย

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »