ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ป็อกบา กำลังกลับมา! แมนฯ ยูไนเต็ด ควรจัดแผงกลางยังไง

ป็อกบา กำลังกลับมา! แมนฯ ยูไนเต็ด ควรจัดแผงกลางยังไง

Posted 03/03/2020 by siamsport

นี่นับเป็นช่วงที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีโปรแกรมสำคัญติดต่อกันหลายนัด อย่างเช่นเกม เอฟเอ คัพ รอบ 5 กับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคมนี้, เกมลีกนัดแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคมนี้, เกมลีกกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วันที่ 15 มีนาคมนี้ รวมถึงเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายทั้ง 2 นัดกับ แอลเอเอสเค ลินซ์ ทีมจากออสเตรีย ในวันที่ 12 กับ 19 มีนาคมนี้ เป็นต้น
    ทั้งนี้ ช่วงนี้อาจจะเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2019-20 ก็ได้ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องปวดหัวว่าจะจัดแผงกลางยังไงด้วยเหตุผลในแง่บวก หลังจากที่ 3 กองกลางตัวหลักในช่วงที่ผ่านมาอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เฟร็ด และ เนมานย่า มาติช ทำผลงานได้โดดเด่น ขณะที่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็กลับมาลงสนามได้พักหนึ่งแล้วแถมยังเล่นได้ดีอีก นอกจากนี้ ปอล ป็อกบา ก็ยังอาจจะกลับมาช่วยทีมได้ในเร็วๆ นี้ด้วย

    คำถามคือในช่วงสำคัญแบบนี้นั้น แผงกลางแบบไหนที่จะส่งผลดีกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากที่สุด ? โดยจะพิจารณาด้วยการยึดระบบ 4-3-3 ที่ โซลชา ชอบใช้งานเป็นหลัก และจะขอมองข้าม เจสซี่ ลินการ์ด กับ อันเดรียส เปเรยร่า ไปก่อน หลังจากทั้งคู่ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอในช่วงที่ผ่านมา


    - ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ
    ขุมกำลังในทีมชุดใหญ่ ณ ปัจจุบันของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะที่เล่นเป็นกองกลางตัวรับได้ 3 คน นั่นคือ แม็คโทมิเนย์, มาติช และ เฟร็ด แต่รายหลังสุดเหมาะกับบทบาทมิดฟิลด์ห้องเครื่องที่คอยเชื่อมเกมมากกว่า ดังนั้นตัวเลือกในตอนนี้จึงเหลือเพียง แม็คโทมิเนย์ ลูกหม้อขวัญใจ "เร้ด อาร์มี่" กับ มาติช ผู้ที่มีประสบการณ์สูง

 


 

    ถ้าวัดกันที่ผลงานตลอดทั้งฤดูกาลนั้น แทบไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า แม็คโทมิเนย์ คือคนที่ทำผลงานได้ดีแบบคงเส้นคงวามากที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ความขยันในการวิ่งไล่และการตัดเกมของเขามันโดดเด่นมากๆ จนช่วยทีมเอาไว้ได้หลายหน และช่วงแรกๆ ที่ แม็คโทมิเนย์ เจ็บตรงหัวเข่านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเหมือนกัน

    ขณะที่ มาติช เหมือนนกฟีนิกซ์ที่กำลังจะเกิดใหม่อย่างเต็มตัว เพราะหลังจากเคยส่อแววว่าจะหมดอนาคตกับทีมจนถึงขั้นตกเป็นข่าวย้ายทีมอย่างหนักในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่พักหลังๆ เขาทำผลงานได้ดีจนได้รับคำชมจากกูรูหลายคน ยกตัวอย่างเช่นนัดล่าสุดกับ เอฟเวอร์ตัน ที่เขาสกัดโดนบอล 4 หน จากการพยายามเข้าสกัด 4 ครั้ง เรียกได้ว่าเปอร์เซ็นต์การพุ่งเสียบโดนบอลอยู่ที่ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม แถมยังตัดบอลโดยที่ไม่ต้องพุ่งเสียบได้อีก 4 หน

 


 

    ถ้าเป็นตอนต้นฤดูกาลนี้นั้น ยังไง แม็คโทมิเนย์ ก็น่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแน่นอน แต่เขาเพิ่งหายเจ็บกลับมาจนทำให้ยังน่าจะต้องใช้เวลาสักนิดในการทำให้ตัวเองฟิตเต็มถัง ดังนั้นแม้ว่าอาจจะมีความเสี่ยงจากการที่ มาติช จะวิ่งไล่ตัวรุกของคู่แข่งไม่ทัน แต่เขาก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับในช่วงนี้

    - ตำแหน่งห้องเครื่อง
    ถ้าตอนเริ่มฤดูกาลใหม่ๆ ใครบอกว่า เฟร็ด จะทำผลงานได้ดีจนกลายเป็นคนสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ ก็คงโดนหัวเราะเยาะใส่ เพราะตอนต้นซีซั่นเขายังเล่นได้น่าผิดหวังจนทำให้โดน "เร้ด อาร์มี่" ด่าอย่างรุนแรงอยู่เลย

 


 

    อย่างไรก็ตาม ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เฟร็ด แสดงให้เห็นว่าทำไมเขาถึงคู่ควรกบการที่มีค่าตัว 59 ล้านยูโร เพราะเจ้าตัวทำผลงานได้โดดเด่นรอบด้านทั้งเกมรับและเกมรุก จนกลายเป็นคนที่ทีมขาดไม่ได้ไปแล้ว อย่างนัดล่าสุดกับ เอฟเวอร์ตัน เขาก็ผ่านบอลระยะไกลเข้าเป้า 3 ครั้ง, เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 3 หน, เรียกฟาวล์ได้ 2 ครั้ง

 


 

    จริงอยู่ว่าถ้าวัดกันที่ความสามารถล้วนๆ แล้วนั้น ป็อกบา คือมิดฟิลด์ตัวห้องเครื่องที่ดีที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่การที่เขาเจ็บหนักจนพักไปนานทำให้มันอาจจะเสี่ยงไปหน่อยถ้าจะฝืนใช้งานเขาในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ เฟร็ด ยังน่าจะช่วย มาติช ในด้านเกมรับได้ดีกว่า ป็อกบา ด้วย เพราะดาวเตะชาวฝรั่งเศสน่าจะยังไม่สามารถวิ่งแบบเต็มที่ได้

    - ตำแหน่งกองกลางตัวรุก
    ต่อให้ ป็อกบา จะเป็นคนที่ผ่านบอลได้ดีมากแค่ไหน แต่อย่างที่หลายคนบอกอยู่เสมอว่าเขาไม่ใช่กองกลางตัวรุกตามธรรมชาติ แม้ว่าจะพอเล่นได้ แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาจะแสดงศักยภาพที่ดีที่สุดออกมาได้

 


 

    ยิ่งไปกว่านั้น แฟร์นันด์ส ก็กำลังฟอร์มร้อนแรงสุดขีดอีกต่างหาก ดังนั้นมันจึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะทำให้ดาวเตะชาวโปรตุกีสไม่ควรจะได้เป็นตัวจริงในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ นัดแรกของเขา

    - แล้วถ้าใช้กองกลาง 4 คนล่ะ ?
    ในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน โซลชา ตัดสินใจเปลี่ยนแผนจาก 4-3-3 ที่ใช้บ่อยๆ มาเป็นรูปแบบที่คล้ายกับแผน 4-4-2 ไดมอนด์ โดยสาเหตุสำคัญก็คือเพื่อที่จะให้ทั้ง มาติช, เฟร็ด,  แม็คโทมิเนย์ และ แฟร์นันด์ส ได้ลงเล่นพร้อมกัน เพราะเขาต้องการให้ 3 คนแรกตัดเกมบุกของ เอฟเวอร์ตัน ให้ได้ หลังจากที่ทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ กำลังฟอร์มร้อนแรงสุดขีด ส่วน แฟร์นันด์ส รับหน้าที่ขึ้นเกมแทบจะคนเดียวไปเลย

 


 

    แน่นอนว่าเกมรับมันพอจะดูดีในระดับหนึ่ง เพราะประตูที่เสียในวันนั้นมันมาจากความผิดพลาดของ ดาบิด เด เคอา นายทวารชาวสแปนิช แต่มันก็ทำให้เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไหลลื่นน้อยกว่าเกมก่อนๆ เหมือนกัน และการเปลี่ยนระบบก็ทำให้ทีมไม่คุ้นเคยกับแผนการเล่นอย่างนี้เท่าไหร่

 


 

    เอาล่ะ ถ้าเกิด โซลชา ตัดสินใจที่จะใช้แผนกองกลาง 4 คนแล้วนั้น เหล่า 4 ประสานชุดเดิมจากเกมเจ๊า เอฟเวอร์ตัน ก็ควรจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อไปเรื่อยๆ เพราะ ป็อกบา ยังไม่ฟิตเท่าไหร่ หรือถ้าจะใช้ ป็อกบา จริงๆ แม็คโทมิเนย์ ก็ควรที่จะต้องหลีกทางให้เขา เพราะ มาติช เป็นมิดฟิลด์ตัวรับอย่างเต็มตัวอยู่แล้ว ส่วน เฟร็ด ก็อาจจะพอช่วยเกมในจังหวะสวนกลับเร็วได้มากกว่า แม็คโทมิเนย์ แต่ยังไงซะโดยรวมแล้วแผน 4-3-3 ก็ดูน่าใช้กว่าอยู่ดี เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้แผน 4-3-3 มาแทบจะตลอด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »