จากกระแสข่าวที่ออกมาอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน มันก็คงจะเป็นที่ชัดเจนว่า ติโม่ แวร์เนอร์ หัวหอกดาวดังของ แอร์เบ ไลป์ซิก คือนักเตะที่ ลิเวอร์พูล และกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการจริงๆ และไม่แปลกใจที่สื่อหลายสำนักยกให้ "หงส์แดง" เป็นเต็งหนึ่งที่จะได้ตัวแข้งรายนี้ เพราะนักเตะเองก็แสดงท่าทีว่าอยากจะย้ายมาโชว์เพลงแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ เช่นกัน กระนั้นเรามาวิเคราะห์กันดูว่า ใครบ้างที่เป็นฝ่ายชนะและฝ่ายแพ้ หาก ลิเวอร์พูล ปิดดีลกระชากตัว หัวหอกทีมชาติเยอรมนีวัย 24 ปี มาร่วมก๊วนได้สำเร็จ

 Winners
  - สามประสานแนวรุก

      แม้ช่วงที่ผ่านมามีหลายคนตั้งข้อสงสัย และมองว่า ลิเวอร์พูล ไม่ควรเซ็นสัญญากับ แวร์เนอร์ เพราะเชื่อว่า แวร์เนอร์ ไม่น่าจะมีปัญญาสอดแทรกสามสุดยอดตัวรุกที่ ลิเวอร์พูล มีอยู่แล้วอย่าง ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ได้ แต่ความจริงแล้ว การมาของ แวร์เนอร์ น่าจะส่งผลดีต่อทั้งสามคน รวมถึงสโมสรด้วยซ้ำ เพราะตลอดช่วงที่ผ่านมา ทั้ง มาเน่, ซาลาห์ และ ฟีร์มีโน่ ถูกใช้งานหนักมาก และด้วยการที่ทีมอย่าง "หงส์แดง" มีคิวเตะเพียบในฤดูกาลหน้า มันคงเป็นเรื่องดีไม่น้อย หากมีการเพิ่มขุมกำลังเชิงลึก เพื่อสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันลงเล่น ซึ่งนั่นก็เพื่อสภาพร่างกายของตัวนักเตะ 

  - เจอร์เก้น คล็อปป์

      กุนซือแต่ละคนชอบอยู่แล้ว กับการได้นักเตะใหม่ฝีเท้าแจ่มๆ เข้ามาเสริม แต่สำหรับ คล็อปป์ มันมีอะไรมากไปกว่านั้น เพราะ แวร์เนอร์ ถือเป็นนักเตะในอุดมคติของ คล็อปป์ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเจ้าตัวเล่นได้หลากหลายบทบาทในแนวรุก ไม่ว่าจะเป็นการยืนหัวหอกตัวเป้า หรือเล่นเป็นตัวริมเส้น ซึ่งนั่นก็ทำให้กุนซือชาวเยอรมันสามารถใช้งาน แวร์เนอร์ ได้หลากหลายรูปแบบ และส่งลงเล่นแทนใครก็ได้ และที่สำคัญอีกประการคือ ทั้งสองเป็นคนบ้านเดียวกัน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการสื่อสารและปรับตัวเข้าหากัน

  - สาวก "เดอะ ค็อป"

      แน่นอนว่า แฟนบอลย่อมตื่นตาตื่นใจอยู่แล้ว เมื่อได้เห็นสโมสรรักของตัวเองเซ็นสัญญาคว้าตัวนักเตะระดับบิ๊กเนมเข้ามาร่วมทีม และสำหรับในรายของ แวร์เนอร์ คงจะให้ความรู้สึกที่พิเศษเข้าไปอีก หากปิดดีลได้จริง เพราะสโมสรคู่ปรับร่วมลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ต่างก็อยากได้ตัว ดาวยิงเนื้อหอม ไลป์ซิก คนนี้้เช่นกัน

Losers
  - ไลป์ซิก
      หากสุดท้ายต้องขาย แวร์เนอร์ ออกไปจริงๆ ต่อให้ได้เงินก้อนโตระดับ 51-52 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,040-2,080 ล้านบาท) เข้าสู่บัญชี หากมองในแง่ของกีฬา มันก็คงเป็นเรื่องที่ ไลป์ซิก ไม่น่าจะแฮปปี้สักเท่าไร เนื่องจากการจะหาใครสักคนมาทดแทน แวร์เนอร์ ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อพิจารณาจากดูศักยภาพและฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวฤดูกาลนี้ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เขาไม่ได้เป็นแค่จอมถล่มประตูเท่านั้น เพราะสถิติกระทุ้ง 27 ประตู กับ 9 แอสซิสต์ จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 37 นัด สามารถบ่งบอกความยอดเยี่ยมของ แวร์เนอร์ ได้เป็นอย่างดี 

 - ดิว็อค โอริกี้
      โอริกี้ คือหนึ่งในฮีโร่ของ ลิเวอร์พูล จากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และนั่นทำให้เขาได้รับสัญญาฉบับใหม่ และถูกคาดหวังที่จะเป็นกำลังเสริมชั้นดีในฤดูกาลนี้ ทว่าก็อย่างที่เห็นกัน... โอริกี้ ไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวทีเด็ดแบบจริงๆ จังๆ ของทีมได้ (ทำได้แค่ 6 ประตู จาก 34 นัด) และพึ่งไม่ได้เลยยามถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริง ดังนั้นถ้าหาก ลิเวอร์พูล ได้ แวร์เนอร์ เข้ามาเสริมทัพหลังจบซีซั่นนี้ จากโอกาสลงเล่นที่ โอริกี้ มีน้อยอยู่แล้ว ก็คงจะลดลงเหลือแบบริบหรี่ และบางทีอาจเป็นตัวเขาเองที่ขอย้ายทีม

- บรรดาคู่แข่งในเวที พรีเมียร์ลีก
      แค่ขุมกำลังชุดปัจจุบัน ลิเวอร์พูล ก็จ่อที่จะได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาลนี้มาครองได้อย่างง่ายดายแล้ว ดังนั้นหากได้ แวร์เนอร์ เข้ามาเสริมอีก ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็คงจะแข็งแกร่งเข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะแนวรุกที่น่าจะดุดันและมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าหาก แวร์เนอร์ เลือกตบเท้าเข้าสู่รัง แอนฟิลด์ จริง ย่อมไม่ใช่ข่าวดีสำหรับสโมสรอื่นๆ ในเวที พรีเมียร์ลีก แน่นอน