ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เทรนต์เดี้ยง! 4ประสานลงพร้อมกัน! ผ่า 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล เสมอ แมนซิตี้

เทรนต์เดี้ยง! 4ประสานลงพร้อมกัน! ผ่า 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล เสมอ แมนซิตี้

Posted 09/11/2020 by siamsport

ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่งสำหรับการบุกไปเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ข่าวร้ายก็คือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับบาดเจ็บ และต้องลุ้นหนักว่าจะเจ็บหนักมากแค่ไหน
   
เกมนี้ "หงส์แดง" มาแปลกเมื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่งแนวรุกลงสนามพร้อมกับ 4 คน ซึ่งก็ทำให้เกมรับของเจ้าบ้านปั่นป่วนในช่วงต้นครึ่งแรก แต่กระนั้นในช่วงครึ่งหลัง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปรับหมากมาต่อกรได้ดีขึ้น และทำให้ "เรือใบสีฟ้า" สร้างโอกาสทำประตูได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้อยู่ที่ท้ายครึ่งแรก จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลไปโดนแขน โจ โกเมซ ก่อนที่ท่านเปาจะเช็ควีเออาร์และให้เป็นจุดโทษ แต่น่าเสียดายที่ จอมทัพทีมชาติเบลเยียม ดันยิงออกเสาหน้าตาเฉย ซึ่งหากจังหวะนี้เป็นประตู ครึ่งหลังรูปเกมอาจจะเปลี่ยนไป และ "หงส์แดง" คงกดดันหนักยิ่งกว่านี้

สำหรับการจบแบบเสมอกัน 1-1 แม้จะทำให้ "เดอะ เร้ดส์" หล่นมาอยู่อันดับ 3 มี 17 คะแนนก็ตาม แต่พวกเขาก็ตามหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงเพียงแค่ 1 แต้มเท่านั้น และหลังพักเบรกทีมชาติทั้งสองทีมมีคิวดวลกันที่แอนฟิลด์ งานนี้เดี๋ยวจะได้รู้กันว่าผลจะออกมาหมู่หรือจ่า

1. คล็อปป์ ใจเด็ดใช้แผนเกมบุกเยือน แมนฯ ซิตี้
ก่อนแมตช์สำคัญนี้มีกระแสข่าวออกมาตลอดว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจตัดสินใจใช้ ดีโอโก้ โชต้า ลงเล่นตัวจริงร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ เนื่องจากทั้งสามคนนี้กำลังเล่นกันได้อย่างเข้าขา ขณะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะทำหน้าเป็นยางอะไหล่อยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง

อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" รวมทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องอึ้ง เมื่อเขาตัดสินใจนำแนวรุกที่ดีที่สุดของทีมลงเล่นพร้อมกัน ด้วยระบบ 4-2-4 ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมาก ในการวางหมากเน้นเกมบุกเพื่อสู้กับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง "เรือใบสีฟ้า" แถมยังเล่นในเอติฮัด สเตเดี้ยม ซะด้วย

การเสี่ยงครั้งนี้ต้องบอกว่าได้ผลในช่วงต้นเกม เมื่อ "หงส์แดง" เปิดฉากไล่บี้ แมนฯ ซิตี้ ตลอด และสร้างโอกาสได้เหนือกว่าเจ้าบ้านหลายครั้ง จนกระทั่งมาได้จุดโทษ และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่สังหารไม่เหลือซาก ฉะนั้นระบบนี้ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ตั้งรับไม่ถูก กว่าจะมาตั้งสติได้ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงของครึ่งแรก

ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าการส่งแนวรุก 4 ประสานได้แก่ มาเน่, ฟีร์มีโน่, โม ซาลาห์ และ โชต้า ลงสนามพร้อมกัน เป็นระบบที่สามารถจัดการฉีกจุดอ่อนของ แมนฯ ซิตี้ ได้ขาดกระจุย งานนี้บรรดาแฟนบอล "หงส์แดง" อาจมีลุ้นได้เห็นพวกเขาลงสนามพร้อมกันอีกในอนาคต

 2. โรคเดี้ยงบุกเยือน "หงส์แดง" ต่อเนื่อง
หนึ่งในปัญหาใหญ่สำหรับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ก็คือนักเตะตัวหลักที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรายของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า และพักนานหลายเดือน ซึ่งส่งผลกระทบกับทีมอย่างมาก

โรคเดี้ยงกำลังคุกคาม ลิเวอร์พูล อย่างหนัก แต่เดชะบุญที่ โฌแอล มาติป เรียกความฟิตลงสนามได้ในเกมเยือน แมนฯ ซิตี้ ได้ อย่างไรก็ตามเรื่องที่เหล่าสาวกลิเวอร์พูลกลัวที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้เมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับบาดเจ็บหลังจากช่วยทีมไปได้ 1 ชั่วโมงกว่าๆ

อาการบาดเจ็บของนักเตะคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นบริเวณกล้ามเนื้อน่อง นั่นทำให้เจ้าตัวอดช่วยทีมชาติอังกฤษในช่วงพักเบรกทีมชาติไปโดยปริยาย แต่ที่น่ากังวลใจก็คือ "เจ้าหนูเทรนต์" ได้รับบาดเจ็บหนักมากแค่ไหน และต้องพักนานกี่สัปดาห์ ซึ่งเรื่องนี้ คล็อปป์ ยืนยันแล้วว่าต้องรอผลการสแกนในวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.นี้

ตอนนี้มีการคาดการณ์กันว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อาจจะต้องพักมากกว่า 2 สัปดาห์ ฉะนั้นการบ้านข้อใหญ่ที่ คล็อปป์ ต้องขบคิดในช่วงพักเบรกทีมชาติก็คือจะใช้งาน เจมส์ มิลเนอร์ ซึ่งทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ หรือจะเสี่ยงให้โอกาส เนโก วิลเลี่ยมส์ ลงเล่นตัวจริง

ในกรณีของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กับ ฟาบินโญ่ น่าจะหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้ในเร็วๆ นี้ แต่หากเกิดกรณีที่ทั้งสองคนยังฟิตไม่ทันหลังเกมพักเบรกทีมชาติ งานนี้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ได้แต่กุมขมับเพราะขุมกำลังที่มีอยู่ค่อนข้างจำกัด แต่การต้องลงสนามแบบถี่ยิบ อาจส่งผลกระทบในการป้องกันแชมป์ลีกเลยทีเดียว

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถึงได้เรียกร้องให้มีการนำกฎเปลี่ยนผู้เล่นได้ 5 คนมาใช้ในเกมพรีเมียร์ลีก หลังจากหลายลีกในยุโรปใช้วิธีนี้ เพื่อเป็นการป้องกันนักเตะบาดเจ็บจากการกรำศึกหนัก แต่ดูเหมือนคงไม่ได้รับไฟเขียวจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษอยู่ดี

 3. ฟีร์มีโน่ ขาดความมั่นใจ, ชากีรี่ ยังมีส่วนสำคัญกับทีม
ตอนนี้แฟนบอลลิเวอร์พูล เริ่มพูดเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เริ่มขาดความเชื่อมั่นในการเล่น เพราะแมตช์นี้ คล็อปป์ ตัดสินใจส่งแนวรุกลงสนามพร้อมกัน 4 คน แต่ดูเหมือนว่า ดาวเตะชาวบราซิเลียน ทำผลงานไม่โดดเด่นเลย แถมในจังหวะสร้างความหวาดเสียวก็ทำเสียไปหน้าตาเฉย

ผลงานของ ฟีร์มีโน่ ไม่สามารถกดดันเกมรับ แมนฯ ซิตี้ ได้มากนัก บางจังหวะขณะที่ทีมกำลังได้เปรียบพอบอลไปอยู่กับเจ้าตัวก็ทำเสียไปซะงั้น ที่สำคัญยังมีหลายครั้งที่นักเตะหลุดเข้าไปในเขตโทษแต่ไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แถมยังทิ้งโอกาสเด็ดๆ ที่จะช่วยยิงประตูให้ทีมในครึ่งแรก นอกจากนี้ยังพลาดโอกาสหลายๆ ครั้ง จนสุดท้าย คล็อปป์ ต้องเปลี่ยนตัวออก

ขณะที่ เซอร์ดาน ชากีรี่ ลงสนามมาแทน ฟีร์มีโน่ และทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว โดยนักเตะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น การทำงานหนัก และพยายามที่จะใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการปั่นป่วนเกมรับของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเขามีโอกาสเปิดบ้านสวยๆ 2-3 ครั้ง

ในช่วงที่ ลิเวอร์พูล ต้องเจอสภาวะนักเตะเดี้ยง งานนี้ ชากีรี่ ยังมีความหวังที่จะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง และหากเขาสามารถดึงศักยภาพชั้นยอดออกมาได้อีกครั้ง มีความเป็นไปได้สูงที่ดาวเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ จะได้กลับมาเป็นกำลังหลักของทีมในช่วงหลายๆ เดือนต่อจากนี้

4. มาติป กลับมาทันเวลาพอดี
สิ่งสำคัญในแมตช์นี้ที่ต้องพูดถึงก็คือการได้เห็น โฌแอล มาติป กลับมาฟิตสมบูรณ์เพื่อลงเล่นเกมนี้ได้ เพราะหากมองจากนักเตะเซนเตอร์แบ็กที่มีอยู่ทั้ง นาธาเนียล ฟิลลิปส์ และ รีส วิลเลี่ยมส์ อาจจะไม่สามารถต้านทานพลังเกมบุกของ แมนฯ ซิตี้ได้ในเวลานี้

การที่ มาติป กลับมายืนเป็นคู่หูเซนเตอร์แบ็กร่วมกับ โจ โกเมซ ถือเป็นสิ่งที่แฟนบอล "หงส์แดง" รู้สึกโล่งใจมากๆ เนื่องจากดาวเตะชาวแคเมอรูนมีประสบการณ์สูง และพอที่จะรับมือเกมรุกที่เต็มไปด้วยความดุดันของเจ้าบ้าน ซึ่งนักเตะแต่ละคนทั้งเร็ว และมีทักษะสูง

ฟอร์มส่วนตัวของ มาติป ก็ถือว่าอยู่ในระดับพอใช้ได้สำหรับผู้เล่นที่เพิ่งจะลงสนามเกมแรกหลังจากพักไปนาน แถมยังเป็นการสู้กับทีมชั้นยอดที่มีเกมบุกที่น่ากลัวมากๆ โดยแมตช์นี้เจ้าตัวมีการยืนตำแหน่งที่ดี, เคลียร์บอลในจังหวะสำคัญได้ตลอด และมีจังหวะสกัดบอลได้อย่างแม่นยำหลายครั้ง

กระนั้นหากมองในเรื่องของความรวดเร็วตอนนี้ มาติป ยังถือว่าต้องใช้เวลาอีกซักระยะ เพราะในจังหวะที่ เชซุส ยิงประตูตีเสมอ หากเป็นก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บเขาน่าจะป้องกันเอาไว้ได้ทัน นอกจากนี้ยังพลาดโดนใบเหลืองจากการเสียบหนักใส่ เควิน เดอ บรอยน์

อย่างไรก็ตามหากมองภาพรวมแล้ว มาติป ถือว่าทำผลงานได้พอใช้กับการช่วยคุมแผงหลังให้ทีม ทั้งๆ ที่เพิ่งจะฟิตสมบูรณ์ ฉะนั้นหากนักเตะได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ฟอร์มการเล่นเดิมๆ ก็คงจะค่อยๆ กลับคืนมาเรื่อยๆ อย่างแน่นอน

5. โปรแกรมสำคัญหลังพักเบรกทีมชาติ
ตอนนี้การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก มีความสูสีกันมากๆ โดยทีมท็อปซิกซ์มีแต้มห่างกันไม่มากนัก ทำให้หากทีมใดทีมหนึ่งพลาดท่าทำแต้มหลุดมือไป โอกาสที่อันดับจะร่วงก็มีสูงเลยทีเดียว ฉะนั้นในช่วงพักเบรกทีมชาติกุนซือทุกคนมีการบ้านที่จะต้องขบคิดในการเตรียมความพร้อมก่อนที่บอลลีกจะกลับมาแข่งกันต่อ

สำหรับ ลิเวอร์พูล ต้องบอกว่าถือเป็นโชคดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียวที่มีโปรแกมทีมชาติขั้นกลางในตอนนี้ เนื่องจากนักเตะทัพ "หงส์แดง" มีสภาพร่างกายที่กรอบสุดๆ แถมตัวผู้เล่นสำคัญหลายคนยังไม่หายเจ็บ ขณะเดียวกัน เทรนต์ อาร์โนลด์ ยังมาเจอโรคเดี้ยงเพิ่มอีกคน แต่การได้พักเบรกทีมชาติ 2 สัปดาห์ น่าจะทำให้นักเตะหลายคนที่กำลังเรียกความฟิตกลับมาฟิตสมบูรณ์

ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นหาก "หงส์แดง" ได้นักเตะอย่าง ติอาโก้ และ ฟาบินโญ่ กลับมาฟิตเต็มร้อย ในแมตช์ที่จะต้องรับมือ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมลีกแมตช์ต่อไปหลังพักเบรกทีมชาติ ถือเป็นเรื่องดีมากๆ เพราะจะทำให้พวกเขามีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง และหากเอาชนะผู้มาเยือนได้ก็จะได้กลับไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้งทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • วอล์คเกอร์ทะเล่อทะล่า! ตัดเกรดแข้งแมนซิตี้เกมเสมอลิเวอร์พูล
    แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสที่จะทำแต้มขยับเข้าใกล้กลุ่มหัวตาราง แม้จะสามารถเสมอกับแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ได้แต่น่าเสียดายเมื่อพวกเขามีโอกาสจะพลิกแซงนำจากลูกจุดโทษแต่ดันยิงพลาดเอง อย่างไรก็ตามเกมนี้ยังพอมีเรื่องที่น่าชื่นชมอยู่สำหรับลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ว่าจะเป็นกองหน้าที่โชว์ความคมกริบ หรือ แนวรับที่ช่วยกันได้ดีหลายครั้ง เรามาดูคะแนนนักเตะ "เรือใบสีฟ้า" แต่ละคนในเกมนี้กัน
  • เดอ บรอยน์บอดโทษ! ลิเวอร์พูลบุกเจ๊าแมนซิตี้สุดมันส์-เซ่นเจ็บเทรนท์
    ลิเวอร์พูล ทวงจ่าฝูงคืนจากเลสเตอร์ไม่สำเร็จ หลังแค่บุกไปเสมอกับ แมนฯซิตี้ 1-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดจุดโทษให้ "หงส์แดง" นำก่อนที่ กาเบรียล เชซุส จะมาซัดตีเสมอ แบ่งแต้มกันไป ซึ่งเกมนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดจุดโทษพลาด ขณะที่ข่าวร้ายของลิเวอร์พูลต้องมาเสีย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่บาดเจ็บ
  • เดือด!ลิเวอร์พูลขอยึดฝูงวาง "โชต้า" หน้าหลักยิงต่อ,แมนซิตี้ใช้ "เชซุส" ปิดสกอร์
    คู่เดือดประจำวัน.."หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เน้นหนักหวังเก็บชัยเพื่อยึกตำแหน่งจ่าฝูงลีกโดย ดีโอโก้ โชต้า ศูนย์หน้าฟอร์มร้อนพร้อมลงล่าตาข่าย เกมบุกถิ่น "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะส่ง กาเบรียล เชซุส ลงตัวจริงปิดสกอร์ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Preemier Football HD 1 (เวลา : 23.30 น.)
  • สองทีมคลั่งเกมบุก ! ผ่า 5 ประเด็น แมนซิตี้ รับมือ ลิเวอร์พูล
    ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมสำคัญที่จะเป็นบททดสอบในการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ เมื่อต้องไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อกลับขึ้นไปยึดตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้ง

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »