สาวก "เรือใบสีฟ้า" หายใจทั่วท้องซะทีหลังจากที่ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ตัดสินใจสลัดน้ำหมึกต่อสัญญาคุมทัพ "เรือใบสีฟ้า" ออกไปจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2023 เรียบร้อยแล้ว นั่นทำให้นักเตะทุกคนมีสมาธิกับการไล่ล่าความสำเร็จให้กับทีมได้อย่างเต็มที่ซะที

กุนซือชาวสแปนิช ตกเป็นที่สนใจจากหลายๆ สโมสรทั่วยุโรป หลังจากที่เจ้าตัวยังไม่ยอมต่อสัญญาฉบับใหม่ซะที แต่ตอนนี้ทุกอย่างเคลียร์ชัดเรียบร้อยแล้ว เมื่อ "เป๊ป" จรดปากกาขยายสัญญากับต้นสังกัดออกไปอีก 3 ปี เพื่อมุ่งมั่นสานความสำเร็จให้กับสโมสร

กวาร์ดิโอล่า เข้ามากุมบังเหียนแมนฯ ซิตี้ นับตั้งแต่ปี 2016 พร้อมกับประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยติดต่อกัน และยังได้แชมป์ฟุตบอลถ้วยภายในประเทศอีกหลายสมัย การที่เจ้าตัวเลือกอยู่กับสโมสรต่อไปนั่นทำให้เขาคาดหวังที่จะนำ "เรือใบสีฟ้า" ยิ่งใหญ่บนเวทียุโรปให้ได้เพื่อเติมเต็มความฝันของแฟนบอลของทีมทุกคน

ฉะนั้นในเมื่อ เป๊ป เลือกที่จะอยู่กับทีมต่อไป งานนี้เขามีภารกิจสำคัญ 5 ข้อที่จะต้องทำให้สำเร็จเพื่อที่จะ นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองอำนาจทั้งในลีก และถ้วยใบโตยุโรป

เซ็นสัญญา เมสซี่ เดือนมกราคม

หลังจากที่ เป๊ป ขยายสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเป็นทางการ ทำให้ตอนนี้เหล่าสาวก "เรือใบสีฟ้า" เริ่มมองเห็นแสงสว่างที่แสนสดใสในการที่พวกเขาจะกวักมือชวน ลิโอเนล เมสซี่ เก็บเสื้อผ้าออกจากทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า เพื่อมาเป็นสมาชิกใหม่ในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม

กระแสข่าวระหว่าง เมสซี่ กับ แมนฯ ซิตี้ มีมาอย่างต่อเนื่องในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังนักเตะต้องการย้ายออกจากถิ่นคัมป์ นู เพราะไม่พอใจการบริหารงานของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรซึ่งตอนนี้ลาออกไปเรียบร้อยแล้ว และอยากจะย้ายมาร่วมงานกับ เป๊ป เจ้านายเก่าสมัยที่ยิ่งใหญ่ร่วมกันที่ บาร์ซ่า

แม้ปัจจุบัน เมสซี่ จะเลือกอยู่กับ "เจ้าบุญทุ่ม" ต่อไป แต่ก็เป็นแบบจำใจ ที่สำคัญสัญญาของเขาจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ นั่นทำให้นักเตะสามารถเซ็นสัญญาล่วงหน้าในช่วงตลาดซื้อขายพ่อค้าแข้งรอบ 2 เดือนมกราคมนี้ เพื่อจะได้ย้ายทีมแบบฟรีเอเจนต์เมื่อจบฤดูกาล 2020/2021

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า แมนฯ ซิตี้ ขี้เกียจรอจนถึงจบซีซั่น และต้องการทุ่มเงินซื้อนักเตะมาร่วมทัพในเดือนม.ค.นี้ทันที แถม เมสซี่ ก็ส่งสัญญาณอยากย้ายทีมมากๆ เพราะล่าสุดเขาให้สัมภาษณ์ว่า "เบื่อหน่ายกับปัญหาที่บาร์เซโลน่าเสมอ" ซึ่งแน่นอนว่านี่คือสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่านักเตะต้องการย้ายทีมให้เร็วที่สุดในเดือนมกราคมนี้ไปเลย

ค้นหาตัวตายตัวแทน อเกวโร่ ในระยะยาว

เซร์คิโอ เกวโร่ จะอายุครบ 33 ปีในช่วงต้นฤดูกาลหน้า ฉะนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าสภาพร่างกายของ "กุน" คงจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนก่อน โดยเฉพาะการเจอกับเกมหนักๆ ที่เน้นสภาพร่างกายในลีกเมืองผู้ดี โอกาสที่เขาจะเจอปัญหาบาดเจ็บรบกวนย่อมเกิดขึ้นบ่อยๆ แน่นอน

ยกตัวอย่างในช่วงหลายๆ เดือนที่ผ่านมา หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ ต้องประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่อง ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ทำให้ กวาร์ดิโอล่า มีทางเลือกน้อยนิดนั่นก็คือการส่ง กาเบรีล เชซุส ลงสนามไล่ล่าตาข่ายคู่แข่ง

อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ พยายามที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้ด้วยการดึง เฟร์ราน ตอร์เรส แนวรุกชาวสแปนิช มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยนักเตะน่าจะเป็นความหวังใหม่ในแนวรุกของ "เรือใบสีฟ้า" หลังเจ้าตัวระเบิดฟอร์มสุดยอดซัดแฮตทริกให้ สเปน ในเกมถล่ม เยอรมนี 6-0 ในศึกฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ลีกเอ กลุ่ม 4

แม้ว่าจะมีแนวรุกชั้นดีก็ตาม แต่ กวาร์ดิโอล่า ยังต้องการนักเตะประเภทกองหน้าจอมเพชฌฆาตในระยะ 6 หลา เพื่อที่จะนำมาทดแทนในกรณีที่ อเกวโร่ ใกล้จะหมดสภาพ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ นายใหญ่ชาวสแปนิช ต้องการหน้าเป้าในช่วงซัมเมอร์หน้า

ฟื้นฟอร์มชั้นยอดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

ต้องยอมรับว่าผลงานของ กวาร์ดิโอล่า ในช่วงต้นฤดูกาลนี้ไม่ค่อยน่าอภิรมณ์มากนัก โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บได้เพียง 12 คะแนนจาก 7 เกมลีก ต้องบอกว่าน้อยนิดผิดคาดเมื่อเทียบกับคุมกำลังชั้นยอด และเม็ดเงินที่มีไว้ให้ใช้อย่างเหลือล้นในการเสริมทัพ

ปัจจุบัน "เรือใบสีฟ้า" รั้งอยู่ในอันดับที่ 10 บนตารางลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ซึ่งต้องบอกเลยว่าน่าผิดหวังมากๆ ในยุคที่ เป๊ป คุมทีม อย่างไรก็ตามผลงานของทีมในช่วงที่ผ่านมาค่อยๆ กลับมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทีมเริ่มกลับมาสู่เส้นทางที่เหมาะสมในการลุ้นแชมป์อีกครั้ง

กระนั้นแม้ผลงานในช่วงต้นซีซั่นของพวกเขาอาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่กระนั้น แมนฯ ซิตี้ ก็ยังคงเป็นสโมสรที่อันตรายและได้ชื่อว่าเป็นทีมเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ลีก โดยเหตุผลสำคัญที่ทุกๆ คนคิดแบบนั้นพวกเขามี เป๊ป ทำหน้าที่วางหมากลูกหนังนั่นเอง

หาตำแหน่งที่เหมาะสมกับ โฟเด้น

ฟิล โฟเด้น แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีดีมากแค่ไหนหลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นให้กับทีมชาติอังกฤษ ในเกมยูฟา เนชั่นส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่สำหรับโอกาสที่จะทำผลงานได้เหมือนที่ทำเอาไว้กับทัพ "สิงโตคำราม" ยามเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ จะมีไหม ?

กองกลางวัย 20 ปีมีโอกาสได้ลงเล่นตัวจริงให้กับต้นสังกัดบ่อยครั้งในฤดูกาลนี้ แต่น่าเสียดายที่เขามักจะโดนจับโยกไปเล่นตำแหน่งนั้น, ตำแหน่งนี้ และทุกๆ ตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ ส่งผลให้นักเตะไม่สามารถที่จะงัดศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้อย่างเต็มที่

แน่นอนว่า โฟเด้น เป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ และมีความสามารถชั้นยอด ฉะนั้นหาก เป๊ป มองขาดเกี่ยวกับการดึงศักยภาพที่แท้จริงของเขาออกมาให้อย่างเต็มที่ แน่นอนว่าตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับนักเตะก็คือผู้เล่นมิดฟิลด์ตัวรุก
 
ภารกิจสอยโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์"

ไม่มีใครปฏิเสธว่าสิ่งหนึ่งที่ กวาร์ดิโอล่า ปรารถนาอย่างแรงกล้ามากๆ ก็คือการได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกสมัย มากกว่าแชมป์รายการอื่นๆ เพราะนี่คือเกียรติยศที่ นายใหญ่เลือดกระทิงดุ ต้องการที่จะประสบความสำเร็จให้ได้อีกครั้ง หลังจากร้างราไปนาน

กวาร์ดิโอล่า มีโอกาสได้สัมผัสความสำเร็จในการคว้าแชมป์ถ้วยใบโตยุโรปในฐานะกุนซือมาแล้ว 2 สมัยช่วงที่กุมบังเหียน "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า  หลังจากหมดยุคกับ บาร์ซ่า การทำคุมทัพ บาเยิร์น มิวนิค กับ แมนฯ ซิตี้ เขาไม่สามารถประสบความสำเร็จในถ้วยใบนี้เลย

สำหรับฤดูกาลนี้ "เป๊ป" ต้องเจอกับงานสุดหินเหมือนเดิม เนื่องจากมีคู่แข่งชั้นนำมากมายอย่างเช่น "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด, บาร์ซ่า, บาเยิร์น, "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล และบางที "เปแอสเช" ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็มีลุ้นความสำเร็จในรายการนี้

แน่นอนว่าการขยายสัญญาครั้งนี้ กุนซือสมองเพชร มีภารกิจสำคัญที่จะต้องทำให้สำเร็จนั่นก็คือนำโทรฟี่หูกาง มาประดับเอาไว้ในตู้โชว์ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยมให้ได้ และหากทำสำเร็จ "เรือใบสีฟ้า" ก็จะได้ชื่อว่าเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ขนานแท้เทียบเคียง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ซะที