บรูโน่ แฟร์นันด์ส วอลเลย์สุดงามพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รอดพ้นจากความปราชัยไล่เจ๊า เวสต์บรอมวิชฯ 1-1 ไร้ชัยสองนัดรวดแต่ยังดีพอแซง เลสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงด้วยประตูได้-เสียดีกว่า โดยมีแต้มไล่ แมนฯ ซิตี้ 7 คะแนน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา

    ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ที่สนาม เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ เป็นการพบกันระหว่าง เวสต์บรอมวิชฯ ทีมอันดับ 19 พบ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 ของตาราง

    เวสต์บรอมฯ ของกุนซือ แซม อัลลาไดซ์ ฟอร์มล่าสุดออกไปแพ้ สเปอร์ส 0-2 ทำให้จมอยู่อันดับรองบ๊วย เกมนี้ไร้ปัญหาการจัดทัพส่ง เอ็มบาย เดียงเน่ เป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมี ไอส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส, มาเตอุส เปไรร่า คอยทำเกมสนับสนุน 

    ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จัดแนวรุกเต็มสูบส่งทั้ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เอดิสัน คาวานี่ ลงล่าตาข่าย

    ครึ่งแรกเปิดฉากมาเพียง 2 นาที เวสต์บรอมฯ ทำช็อกได้ประตูขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เปิดเข้าเขตโทษให้ เอ็มบาย เดียงเน่  ขึ้นโหม่งจ่อๆส่งบอลตุงตาข่าย

    หลังจากนั้น แมนยู เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้บุกใส่ต่อเนื่อง ก่อนที่ นาทีที่ 7 จะมีโอกาสยิงเข้ากรอบครั้งแรกเมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไหลย้อนคืนหลังให้ เฟร็ด ลองส่องไกลแต่ยังไปตรงตัว แซม จอห์นสโตน รับเข้าซองได้ไม่ยาก

ที่สองจากจังหวะที่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ โรเบิร์ต สน็อตกราสส์ สอดมาขึ้นโหม่ง ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงพุ่งปัดออกหลังไป

    เจ้าถิ่นมีโอกาสสวนกลับมาเป็นระยะ นาที 27 เกือบได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ โรเบิร์ต สน็อตกราสส์ สอดมาขึ้นโหม่ง ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงพุ่งปัดออกหลังไป

    แมนยู มีโอกาสครองเกมบุกใส่มากกว่า จนกระทั่งนาทีที่ 45 ลุค ชอว์ กระชากไปถึงสุดเส้นหลังแล้วเปิดเข้าเขตโทษให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส วอลเลย์ด้วยซ้ายแบบไม่จับส่งบอลตุงตาข่ายอย่างสวยงามให้ "ปีศาจแดง" ตามตีเสมอเป็น 1-1 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

    ครึ่งหลัง แมนยู เปิดฉากด้วยการบุกใส่ทันที แต่กลายเป็น เวสต์บรอมฯ ที่ได้ลุ้นขึ้นนำอีกครั้ง ในนาที 54 ไอส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส ไหลบอลให้ มาเตอุส เปไรร่า หลุดเข้าเขตโทษแล้วกดเรียดด้วยซ้ายบอลเฉี่ยวเสาไกลออกไปนิดเดียว

    จากนั้น นาที 62 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โดน ซามี่ อาจายี่ เหนี่ยวล้มลงในเขตโทษผู้ตัดสิน เคร็ก พอลสัน ชี้เป็นจุดโทษ ก่อนจะย้อนดูวีเออาร์แล้วกลับคำตัดสิน

    แมนยู ได้โอกาสแซงขึ้นนำ ในนาที 69 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โขกบอลตั้งให้ เมสัน กรีนวู้ด ได้ซัดด้วยซ้ายจ่อๆยังติดเซฟของ แซม จอห์นสโตน ก่อนจะมาเข้าทางปืนของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ตามซ้ำดาบสองยังไปติด แดเนียล เฟอร์ล็อง สกัดจากเส้นหวุดหวิด

    นาที 77 เวสต์บรอม เกือบจะขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ เอ็มบาย เดียงเน่ ไปแย่งบอลจาก แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ได้ในเขตโทษหลุดเดี่ยวไปซัดจ่อๆแต่ไม่ผ่าน ดาบิด เด เคอา โชว์ซูเปอร์เซฟช่วยทีมรอดพ้นจากการเสียประตูไปหวุดหวิด

    ท้ายเกม นาที 87 เวสต์บรอม ได้โอกาสทองอีกครั้ง แดเนียล เฟอร์ล็อง จ่ายตัดแนวรับเข้าเขตโทษให้ เอ็มบาย เดียงเน่  เข้าชาร์จจ่อๆแต่บอลเหินข้ามคาน

    ช่วงทดเจ็บ นาที 90+4 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้สอดมาโขกในเขตโทษเน้นๆแต่ แซม จอห์นสโตน บินปัดบอลไปชนเสาชวดทำให้ แมนยู แซงขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย ก่อนจะจบเกม เวสต์บรอมวิช เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1
       
   

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เวสต์บรอมวิช (4-1-4-1) : แซม จอห์นสโตน - ลี เพลเทียร์ (แดเนียล เฟอร์ล็อง น.46), ซามี่ อาจายี่, ไคล์ บาร์ตลี่ย์, คอเนอร์ ทาวน์เซนด์ - โอเค โยคัสลู (เจค ลิเวอร์มอ น.66) - ไอส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มาเตอุส เปไรร่า, โรเบิร์ต สน็อตกราสส์ - เอ็มบาย เดียงเน่

แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - แอรอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด (ดอนนี่ ฟาน เดอเบ็ค น.80) - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (เมสัน กรีนวู้ด น.66), บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - เอดิสัน คาวานี่