ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » นี่แหละ "หงส์แดง" ของจริง ! 5 ประเด็นหลัง ลิเวอร์พูล ต้อน คริสตัล พาเลซ อุ่นเกือกที่สิงคโปร์

นี่แหละ "หงส์แดง" ของจริง ! 5 ประเด็นหลัง ลิเวอร์พูล ต้อน คริสตัล พาเลซ อุ่นเกือกที่สิงคโปร์

Posted 16/07/2022 by siamsport

ลิเวอร์พูล เริ่มกลับมาทำผลงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่พวกเขาจัดการทุบ คริสตัล พาเลซ 2-0 ในเกมอุ่นเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดในแมตช์นี้ก็คือสภาพความฟิตของบรรดานักเตะตัวหลักที่เริ่มกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังคงเป็นคีย์แมนที่ "หงส์แดง" ขาดไม่ได้ ส่วนผู้เล่นที่ได้รับคำชมอย่างมากก็คือ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ซึ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น สำหรับ ดาร์วิน นูนเญซ ยังคงต้องใช้เวลาในการปรับตัว และเรียกความฟิตอีกซักระยะ แต่ผลงานในเกมกับ "ดิ อีเกิ้ลส์" ถือว่าดีขึ้นกว่าแมตช์แรกที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และหากคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมทีมมากกว่านี้ ฟอร์มคงจะดีขึ้นตามลำดับ

1. ซาลาห์ ยิ่งเล่นยิ่งมีความสุข
     นับตั้งแต่ที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ขยายสัญญาใหม่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเขาเหมือนยกภูเขาออกจากอก และไม่มีเรื่องต้องกังวลใจในช่วงซัมเมอร์นี้ นั่นทำให้เขามีสมาธิกับการเล่นฟุตบอลอย่างเต็มที่

     "บังโม" เพิ่งจะกลับมาจากการพักผ่อนในช่วงปิดซีซั่น เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ทีมจะออกทัวร์ปรีซีซั่น โดยเขามีโอกาสได้ลงฝึกซ้อมร่วมกับทีมเพียงไม่นานก่อนที่จะลงสนามในเกม "แดงเดือด" นอกรอบ ที่ประเทศไทย และฟอร์มโดยรวมก็โดดเด่นทั้งๆ ที่จะกลับมาเรียกความฟิตเท่านั้น


     สำหรับแมตช์กับ คริสตัล พาเลซ ต้องบอกว่า ซาลาห์ โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดมากกว่าเดิม และดูเหมือนเขาจะเรียกจังหวะการเล่นที่คุ้นเคยกลับมาได้อย่างรวดเร็ว โดยนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวลงสนามในครึ่งหลัง "หงส์แดง" ก็กลายเป็นทีมที่พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว และจากนั้นเจ้าตัวก็ซัดประตูซะด้วย

     กระนั้นสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าฟอร์มของเขาก็คือการเล่นฟุตบอลด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และมีความสุขมากๆ ที่สำคัญ "คิง ออฟ อียิปต์" ยังเล่นแบบไม่เห็นแก่ตัว และพยายามปั้น ดาร์วิน นูนเญซ เพื่อหวังให้น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ยิงประตูแรกในสีเสื้อ "เดอะ เร้ดส์"

     แม้ว่าจะไม่สามารถทำให้ นูนเญซ มีชื่อเป็นผู้ทำประตูได้ก็ตาม แต่การได้เห็นสัญญาณที่ยอดเยี่ยมของ ซาลาห์ คงทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" แฮปปี้ที่สุด

2. เจ้าจุกพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด
     ถ้าจะหาผู้เล่นที่ทำผลงานได้อย่างสุดยอดในช่วง 45 นาทีแรก งานนี้แฟนบอลลิเวอร์พูล คงลงความเห็นแบบเป็นเอกฉันท์ว่า ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เพราะวันนี้เจ้าหนูดาวรุ่งเล่นอย่างมั่นใจ และสามารถปั่นป่วนเกมรับของ พาเลซ ได้ตลอดเวลาที่มีบอลอยู่กับเท้า

     อดีตเด็กปั้นแห่งอนาคตของ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม ต้องเจอกับวิกฤติเมื่อได้รับบาดเจ็บหนักเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา แม้ว่าจะสามารถเรียกความฟิตกลับมาได้ในช่วงท้ายซีซั่น แต่ฟอร์มก็ยังไม่โดดเด่น และยังเล่นแบบขาดๆ เกินๆ

     สำหรับช่วงเดินสายอุ่นเกือกถือเป็นโอกาสทองของ ดาวเตะวัย 19 ปี ในการเรียกจังหวะการเล่นของเขากลับคืนมา โดยในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด "เจ้าจุก" ก็ทำผลงานได้ดี แต่สำหรับแมตช์ปะทะ "ดิ อีเกิลส์" งานนี้บอกเลยว่า เอลเลียตต์ คนเดิมกำลังจะกลับมาอีกครั้ง

     การวิ่งสอดทะลุทะลวงเข้าไปในเขตโทษ การเล่นแบบกล้าได้กล้าเสีย พร้อมกระชากบอลหนีคู่แข่ง นอกจากนี้ยังมีการอ่านเกมที่เฉียบคม และที่สำคัญ เอลเลียตต์ ยังส่งบอลถวายพานให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตะบันประตูเบิกร่องให้ทีมด้วย

     แน่นอนว่า คล็อปป์ คงยิ้มอย่างมีความสุขที่เห็น เอลเลียตต์ เริ่มกลับมามีความมั่นใจและฟอร์มค่อยๆ ดีวันดีคืน ฉะนั้นในเกมอุ่นเครื่องที่เหลืออยู่ก่อนจะดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมแชร์ริตี้ ชิลด์ เป็นโอกาสทองที่ "เจ้าจุก" จะทำให้ "บอส" มั่นใจในศักยภาพของเขามากยิ่งขึ้น

3. นูนเญซ ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักในการปรับตัว
 การย้ายมาจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวเป็นสถิติสูงสุดของสโมสรลิเวอร์พูล นั่นทำให้ ดาร์วิน นูนเญซ ถูกคาดหวังสูงมากๆ ไม่ใช่แค่กับแฟนบอล "หงส์แดง" เท่านั้น แต่ยังมีแฟนบอลทีมตรงข้าม และสาวกเฉพาะกิจด้วย !!

 หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ดูเหมือนจะเล่นด้วยความมุ่งมั่นมากเกินไป และพยายามที่จะทำประตูแรกในสีเสื้อ "หงส์แดง" ให้ได้ จนทำให้นักเตะรู้สึกเกร็ง และนั่นเป็นเหตุผลที่ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นที่ดูยังเก้ๆ กังๆ ไม่เหมือนกับ นูนเญซ สมัยที่เล่นกับ "เหยี่ยวลิสบอน"

 ในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เจ้าตัวมีโอกาสโชว์ความเฉียบคมในการยิงประตูแต่โดน ทอม ฮีตัน เซฟได้ กระนั้นเขามีจังหวะที่ยิงจ่อๆ แค่ 7 หลาแต่ซัดข้ามคาน ส่วนในเกมนี้นักเตะได้จังหวะตะบันประตูอีกครั้งแต่ก็ติดเซฟ บิเซนเต้ กไวต้า

 ตลอดช่วงเวลาที่ลงเล่นประมาณ 20 นาที นูนเญซ เล่นด้วยความรู้สึกที่ทุ่มเท แต่ดูเหมือนว่าจะมุ่งมั่นมากเกินไป ทำให้ยังเล่นไม่เข้าขากับเพื่อนร่วมทีม แต่เชื่อว่าหากนักเตะมีโอกาสได้ซ้อมอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาเรื่องการสื่อสาร งานนี้ คล็อปป์ เชื่อว่าจะได้เห็น "ร่างทอง" ของ นูนเญซ ก่อนเปิดซีซั่นใหม่

4. กัปตันเฮนโด้-มิลเนอร์ ยังสำคัญกับ "หงส์แดง" 
      ในช่วงซัมเมอร์นี้ มีแฟนบอลลิเวอร์พูลจำนวนหนึ่งพยายามกระตุ้นให้ "หงส์แดง" มองหากองกลางคนใหม่เพื่อที่จะทำให้ทีมมีตัวเลือกมากขึ้นในแผงมิดฟิลด์ และอยากให้สโมสรคว้าตัว จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์แห่งอนาคตจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

     ด้วยเหตุนี้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จำเป็้นอย่างยิ่งที่จะต้องแสดงศักยภาพออกมาให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" ได้เห็นว่าเขายังเป็นคีย์แมนของทีม แม้ว่าจะอายุเข้าสู่เลขสามแล้วก็ตาม

     สำหรับฟอร์มของ "เฮนโด้" ต้องบอกเลยว่ายอดเยี่ยมมากๆ ในครึ่งแรกเกมกับ พาเลซ โดยเขาทำหน้าที่เป็นคนคุมจังหวะการเล่นในแผงมิดฟิลด์ และยังพยายามถ่ายบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมเพื่อหาช่องว่างเจาะเข้าไปในเขตโทษคู่แข่ง นอกจากนี้ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ยังตะบันประตูสุดสวยให้กับทีมด้วย
 
     ส่วนผู้เล่นอีกคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ เจมส์ มิลเนอร์ ซึ่งต้องบอกว่านี่คือนักเตะที่มีสภาพความฟิตเหนือกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ และสามารถยิ่งขึ้นไปเติมเกมรุก และยังเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น ทั้งๆ ที่ปัจจุบันเขาอายุ 36 ปีแล้ว

     ดังนั้นทั้ง เฮนเดอร์สัน และ มิลเนอร์ ยังคงเป็นผู้เล่นที่ คล็อปป์ สามารถฝากความหวังได้เสมอ ฉะนั้นในฤดูกาลใหม่คงจะได้เห็นทั้งคู่คอยประคับประคองเพื่อนร่วมทีม และนักเตะใหม่ในการลุ้นความสำเร็จอีกครั้ง


5. รูปแบบการเล่นที่ดุดัน
     สิ่งที่ทำให้แฟนบอล "หงส์แดง" ประทับใจที่สุดไม่ใช่ผลการแข่งขันในแมตช์นี้ แต่มันคือรูปแบบการเล่นที่เราๆ ท่านๆ คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือการวิ่งไล่กดดันคู่แข่งเพื่อแย่งบอลคืน และเปิดเกมรุกเร็วในสไตล์เกเก้นเพรสซิ่ง

     เกมในช่วง 45 นาทีแรก คล็อปป์ ส่งผู้เล่นที่ไม่ใช่ตัวหลักเต็มร้อย แต่สามารถที่จะเล่นตามแนวทางที่เขากำหนดเอาไว้ได้เป็นอย่างดี โดยนักเตะทุกคนพยายามวิ่งไล่บอลตั้งแต่แดนคู่แข่ง และหากเสียบอลก็จะรีบไล่บี้เอาบอลคืนมาให้เร็วที่สุด และจัดการเปลี่ยนเป็นเกมรุกทันที

     ในช่วงครึ่งหลังแม้จะมีการเปลี่ยนผู้เล่นแบบยกชุดแต่นักเตะทุกคนก็สามารถเล่นได้ตามระบบที่วางเอาไว้แบบไม่มีขาดตกบกพร่อง ขนาดตอนที่กุนซือชาวเยอรมันส่งพวกดาวรุ่งวัยกระเตาะลงสนามในช่วง 20 นาทีสุดท้าย พวกเขาก็ยังคงวิ่งไล่บี้แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตามที่ "บอส" สั่ง

     นี่คือสัญญาณที่ดีเยี่ยมมากๆ เพราะไม่ว่า คล็อปป์ จะส่งนักเตะชุดไหนลงสนามพวกเขาก็สามารถเล่นได้ตามแท็กติกที่ต้องการ เพียงแต่มีผู้เล่นบางคนที่อาจจะต้องพัฒนาเรื่องศักยภาพเพื่อให้สามารถทดแทนแข้งซีเนียร์ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »