โต้กันเดือด! จากกรณีที่สนามราชมังฯ ถูกโจมตีจากแฟนฟุตบอลทั่วประเทศ และทั้วโลกจากเกมนัดอุ่นเครื่องที่ เลสเตอร์ พบ สเปอร์ ไม่สามารถทำการแข่งขันได้ โดยมีการพาดพิงไปถึง บริษัทที่รับปรับปรุงสนามสำหรับศึกแดงเดือดด้วย

ความเคลื่อนไหวหลังจาก เกมฟุตบอลอุ่นเครื่อง ระหว่าง เลสเตอร์ พบ สเปอร์  เมื่อ 23 ก.ค. ต้องยกเลิกไปเนื่องจากฝนตกหนักจนไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน และเกิดเสียงวิจารณ์จากแฟนฟุตบอลทั่วประเทศ และทั้วโลก โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เจ้าของสถานที่โดนอย่างหนัก

ทั้งนี้ก็มีการให้ข่าว ว่าทรายของสนามราชมังหายไป 10 ซม. และ ยังมีการพาดพิงไปถึง บริษัทที่รับปรับปรุงสนามในศึกแดงเดือด ระหว่าง แมนฯยู กับ ลิเวอร์พูล เมื่อ 12 ก.ค. ปี 2565 อีกด้วย

ก่อนที่ล่าสุด Golf Course Specialists Co., Ltd. บริษัทผู้ดำเนินการปรับปรุงสนามใน The MATCH ได้ออกมาชี้แจงผ่าน เฟซบุ๊กของบริษัท โดยมีเนื้อหาว่า “มีการให้ข่าวว่า ทางบริษัทฯ ที่ทำแดงเดือด เอาทรายออกไปจากสนามราชมังคลาหนาถึง 10 ซม.การให้ข่าวแบบนี้ ผิดพลาดจากข้อเท็จจริงมากค่ะ”

ก็เลยต้องขอชี้แจงนะคะ

สิ่งที่เราเอาออกหน่ะ ไม่ใช่ทราย แต่เป็นชั้น Thatch ซึ่งคือชั้นที่มีการสะสมของใบหญ้า และต้นหญ้าที่ตายแล้ว.. ชั้นนี่ คือชั้นที่อุ้มน้ำ และทำให้น้ำระบายช้าลง ซึ่งจะเห็นได้ว่าปีที่แล้ว หลังจากเอาชั้นนี้ออกแล้ว น้ำระบายได้ดีมาก..

และเศษหญ้าที่เอาออก เราก็ไม่ได้เอาออกนอกเขตสนามกีฬาแม้แต่น้อย., ก็ถมอยู่ตามโคนต้นไม้ และพื้นที่ในสนามกีฬานั่นเอง..

สิ่งที่เราทำเมื่อปีที่แล้ว คือ

1. รื้อหญ้าเก่า และชั้น thatch หรือชั้นที่เป็นเศษหญ้าต้นหญ้าเก่าออก ซึ่งหนาประมาณ 10 ซม. จากการสะสมนานถึง 15 ปี

2. เช็คการระบายน้ำซึ่งโดยรวม หลังจากรื้อชั้น Thatch ออกแล้วน้ำระบายได้ดียกเว้นตรง corner ที่เคยเป็นทางเข้าของ F1

3. ขุดเช็คท่อบริเวณนั้น ยังอยู่ในสภาพดี แต่พื้นต่ำไปเล็กน้อย ทำให้น้ำมาขังตรงนั้นมากกว่าบริเวณอื่น

4. เอาทรายเข้าปรับพื้นบริเวณจุดต่ำ และเสริมslope ตรงกลางเล็กน้อย

5. ปลูกหญ้าใหม่ และดูแลเพื่อให้ได้สภาพตามที่ LFC และ MUTD กำหนดมา

6. เรา topdress ถึง 4 ครั้ง ใช้ทรายสำหรับ topdress ประมาณ 120 ลบ.ม. (ไม่รวมทรายที่เอามาปรับครั้งแรก)

งง! กับการให้ข่าวแบบนี้จริงๆ