คีย์แมนกีฬาไทย พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ กระตุ้นในโอลิมปิก เกมส์ 2016 ที่ริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล กกท. จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการส่งนักกีฬาเข้าไปควอลิฟายในชนิดกีฬาต่างๆมากขึ้น โดยเฉพาะงบประมาณต้องอัดลงไปให้มากๆ เพื่อเพิ่มยอดจำนวนนักกีฬาในรอบสุดท้าย พร้อมกับความหวังในการคว้าเหรียญรางวัลที่มากกว่านี้ ขณะเดียวกันผู้บริหารสมาคมกีฬาต้องพัฒนาตนเอง เพื่อกีฬาของตนเอง ควบคู่กันไปด้วย...

วันที่ 7 ส.ค. “บิ๊กจา”  พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกไทยฯ เปิดเผยว่า แม้ว่าถึงเวลานี้นักกีฬาไทยจะทำได้เพียง 1 เหรียญเงิน จาก “น้องแต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว นักยกน้ำหนัก รุ่น 58 กก.หญิง แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่าเราจะได้เหรียญรางวัลเพิ่มจากชนิดกีฬาที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นมวยสากลสมัครเล่น และเทควันโด อย่างไรก็ตาม การที่เรายังได้เหรียญรางวัลไม่มากเท่าครั้งก่อนๆ ส่วนตัวไม่ได้มองว่าเราถึงกับล้มเหลวเสียทีเดียว กีฬาไทยของเราถือว่าพัฒนา แต่ชาติต่างๆก็มีพัฒนาการที่ดีเช่นกัน อย่างเช่น เกาหลีเหนือ ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ทำผลงานได้ดีมากๆ ดังนั้น เรื่องการหาข้อมูลของคู่แข่งจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง จะหยุดนิ่งไม่ได้เลย ตรงนี้เป็นหน้าที่ของผู้บริหารสมาคมแต่ละชนิดกีฬา ที่จะต้องพัฒนาตัวเอง หาวิธีการบริหารจัดการชนิดกีฬาของตนให้ประสบความสำเร็จให้ได้

ขณะเดียวกัน การกีฬาแห่งประเทศไทย หน่วยงานหลักด้านกีฬา จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการส่งนักกีฬาไปคัดเลือกเข้าร่วมในการแข่งขันโอลิมปิกให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่กรุงริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล จะต้องเริ่มทำงานตั้งแต่วันนี้ ส่งนักกีฬาเข้าร่วมควอลิฟายในแต่ละชนิดกีฬาให้ได้มากที่สุด ทุ่มงบประมาณลงไปให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนนักกีฬาของไทยในรอบสุดท้าย อันเป็นการเพิ่มโอกาสความหวังในการคว้าเหรียญรางวัลไปในตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาที่เราเคยได้เหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ในโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว จำเป็นที่จะต้องส่งเสริมสนับสนุนให้เข้าร่วมควอลิฟายคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ให้มาก แต่กีฬาชนิดอื่นๆก็ต้องให้ความสำคัญควบคู่กันไป เพื่อทำให้นักกีฬาไทยผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายโอลิมปิกให้ได้มากที่สุด.