จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รับบทฮีโร่ซัดประตูชัยช่วย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยกพลเฉือนเก็บชัยเหนือ อูดิเนเซ่ ที่เหลือ 10 คน ไปแบบสนุก 1-0 ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ ในศึกฟุตบอล ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มเอ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล ยูโรปา ลีก

รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย (กลุ่ม เอ.)

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2555

อูดิเนเซ่ (อิตาลี) 0   -   1 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)

สนาม : สตาดิโอ ฟริอูลี่

        เกมนัดชี้ชะตาของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เกมนี้ แบรนเดน ร็อดเจอร์ส จัดทัพด้วยผู้เล่นชุดใหญ่ลงเกือบครบ ขาดเพียง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมที่ป่วย โดยพัก ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ และลูคัส เลว่า ที่เพิ่งหายเจ็บทั้งคู่ แต่เกมรุกส่ง หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัย ซึ่งติดโทษแบนในลีกปลายสัปดาห์ ลงยืนค้ำ โดยมีซูโซ่และดาวนิ่งปั้นเกมริมเส้น

        ทางด้านอูดิเนเซ่ ที่ตกรอบไปแล้ว เกมนี้พักตัวเก่งอย่าง อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ไว้ข้างสนามแล้วส่ง มัตเตียส ราเนกี ลงเป็นหน้าเป้าโดย ดีเอโก้ ฟับบรินี่ ปั้นเกมรุกอยู่ข้างหลัง ประตูใช้ ดานิเอเล่ ปาเดลลี่ อดีตนายทวารหงส์ยืนเฝ้าเสา

        เล่นไปได้แค่ 13 นาที ซาฮินถูกเปลี่ยนตัวออก หลังจมูกแตกเลือดไหลไม่หยุดจาการปะทะกับ มัตเตียส ราเนกี หงส์ส่ง จอนโจ้ เชลวี่ย์ ลงมาแทน และแค่นาทีเดียว เชลวี่ย์มีโอกาสสับไกดาบสองหน้าเขตโทษ บอลหลุดข้างเสา

        อูดิเนเซ่ตั้งลำ นาที 15 อาร์เมโร่โยนจากซ้ายมากลางประตู ราเนกีสะบัดขวิดเฉี่ยวเสาสองแค่คืบ อีก 4 นาทีให้หลัง เปเรยร่าได้บอลทางกราบซ้าย ก่อนหลอกยิงด้วยการดีดไซด์ก้อยเท้าขวา บอลโค้งจะมุดใต้คาน แต่เรน่าโผปัดทิ้งออกหลังได้ก่อน

        กระทั่งนาที 23 หงส์ได้ประตูที่ต้องการ จากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย ซัวเรซขวิดให้ซูโซ่ที่หันหลังให้ประตู แตะคืนให้เฮนเดอร์สันซัดด้วยขวา บอลพุ่งแฉลบลอดขาปาเดลลี่ตุงตาข่าย ลิเวอร์พูลออกนำ 1-0

        จากนั้นนาที 26 ซัวเรซจ่ายให้ดาวนิ่ง ซึ่งอยู่หลังเส้นประตู ถอยกลับมาเล่น แล้วผ่านเข้ากลางให้จอห์นสันชาร์จจ่อๆ ตุงตาข่าย แต่ไม่ได้ประตู เนื่องจากดาวนิ่งล้ำหน้าก่อนแล้ว เกมนิ่งไปพักใหญ่ นาที 39 ฟับบรินี่พาบอลจากกลางสนามมาถึงระยะ 30 หลา ไม่มีกองหลังเข้าสกัด ฟับบรินี่ตัดสินใจกดด้วยขวา บอลพุ่งเรียดเข้ามือเรน่าที่ล้มตัวรับไว้ได้

        นาทีสุดท้ายครึ่งแรก หงส์โต้กลับมา ซูโซ่ไหลออกขวาให้ซัวเรซ ซัดด้วยขวามุมแคบ บอลหลุดเสาแรกออกหลัง จากนั้น หงส์ได้ลูกเตะมุมทางขวา จีเจเบียดกองหลังเข้าจิ้ม บอลกระดอนมาเข้าทางซัวเรซที่หันหลังให้ประตู กลับตัวจักรยานอากาศทันที ปาเดลลี่ปัดทิ้งออกหลัง ก่อนซัวเรซมีปากเสียงกับปาเดลลี่เล็กน้อย จนเพื่อนต้องเข้ามาแยกทั้งคู่ออกไป และจบครึ่งแรก ลิเวอร์พูลออกนำไปก่อน 1-0

        กลับมาเล่นครึ่งหลังแค่ 2 นาที หงส์บุกทันที ซัวเรซไหลออกขวาให้ซูโซ่ สับไกด้วยขวาข้างไม่ถนัด บอลปลิ้นออกหลังอย่างน่าผิดหวัง อีก 2 นาที ดาวนิ่งโยนจากซ้ายมากลางประตู เปเรยร่าถอยไปโหม่งออกมา กลายเป็นตั้งให้ซัวเรซตะบันตูมเดียว บอลเหินข้ามคาน

        เจ้าถิ่นตอบโต้ นาที 54 อักเยมัง บาดู สับไกระยะ 25 หลา บอลติดไซด์ก้อยออกหลัง อีก 5 นาที อูดิเนเซ่เกือบเฮ จากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย ราเนกีโหม่งข้ามคานนิดเดียว นาที 64 ดาวนิ่งครอสจากซ้ายข้ามกองหลังเจ้าถิ่น เฮนเดอร์สันกระโดดแปด้วยขวา บอลพุ่งไม่ห่างปาเดลลี่ปัดทิ้งออกหลัง

        ล่วงถึงนาที 67 หงส์พลาดโอกาสทอง ซัวเรซหลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนล็อกหลอกกองหลัง 2 รายรวด ก่อนซัดด้วยซ้าย ปาเดลลี่ปัดทิ้งได้เหลือเชื่อ เกมนิ่งลงไป กระทั่งนาที 79 อูดิเนเซ่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนหลังปาสกวาเล่ไปฟาวล์สเตอร์ลิง โดนเหลืองที่สองเป็นใบแดง นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นเกือบเฮ ดิ นาตาเล่ หลุดเข้าไปซัดข้ามคานนิดเดียว จบเกม ลิเวอร์พูลเฉือนอูดิเนเซ่ 1-0 เข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        อูดิเนเซ่ : ดานิเอเล่ ปาเดลลี่ - มาร์โก ดาวิเด้ ฟาราโอนี่, โธมัส แอร์กโตซ์, ดานิโล่ ลารานเกร่า, โจวานนี่ ปาสกวาเล่ - โรเบร์โต้ เปเรย์ร่า, เอ็มมานูเอล อักเยมัง บาดู, จามเปียโร่ ปินซี่ (เมห์ดี้ เบนาเตีย น.45 (แม็กซ์ ไรน์ธาลเลอร์ น.64), ปาโบล อาร์เมโร่ - ดีเอโก้ ฟับบรินี่, มัตเตียส ราเนกี (อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ น.84)

        สำรองไม่ได้ใช้ : เซลจ์โก้ เบอร์กิช, ดาวิเด้ มาร์ซูร่า, ฟิลิปโป้ แบร์ร่า, มาร์โค ฟริสัน

        ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี่ คาร์ราเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน, นูริ ซาฮิน (จอนโจ้ เชลวี่ย์ น.13) - ซูโซ่ (ราฮีม สเตอร์ลิง น.70), หลุยส์ ซัวเรซ, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง

        สำรองไม่ได้ใช้ : แบร็ด โจนส์, โจ โคล, อุสซามา อัสไซดี้, เซบาสเตียน โกอาเตส, อันเดร วิสดอม

        
ผู้ตัดสิน : ดัวร์เต้ โกเมส (โปรตุเกส)