"สิงห์บลู" เชลซี สุดแสบ บุกเชือดหวิว "ปีศาจแดง" แมนฯยูฯ 1-0 จากประตูชัยของ ฆวน มาต้า โดยท้ายเกม ทีมแชมป์เหลือ10คนหลัง ราฟาเอล โดนใบแดง เชลซี เก็บสามคะแนนสำคัญ แซง อาร์เซน่อล ขึ้นมาอยู่ที่3ได้สำเร็จ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2556

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0   -   1 เชลซี

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด


         "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านทำศึกกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี โดยเจ้าถิ่นส่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นหน้าเป้าคนเดียว ส่วน เวย์น รูนี่ย์ ออกสตาร์ทที่ม้านั่งสำรอง ขณะที่ เชลซี ใช้ เดมบา บา จเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า


        เริ่มเกมมา3นาที เป็นฝ่ายทีมเยือน เชลซี มาเสียวก่อน เมื่อ มาต้า เปิดให้ เดมบา บา โหม่ง แต่ บา โหนโหม่งไปหน่อย บอลจึงโด่งข้ามคาน


        นาทีที่9 แมนฯยูฯ ตอบโต้บ้างเมื่อ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดบอลเข้ากลางให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  พักอกยิงให้ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ วิ่งมายิงด้วยขวา แต่บอลออกหลังไปแบบไม่มีเสียว


        5นาทีต่อมา เชลซี เกือบได้เฮ เมื่อ ออสการ์ พาบอลเข้ามายิงในกรอบ บอลรอดขา เนมันย่า วิดิช พุ่งเรียดเข้ากรอบ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ล้มตัวปัดบอลไปชนเสา ก่อนตามตะครุบอีกครั้งได้อย่างหวุดหวิด


        นาทีที่17 เชลซี ยังทำได้ดีกว่า โดยฉกบอลได้การลื่นล้มของ ฟิล โจนส์ รามิเรส พาบอลมาจ่ายให้ ฆวน มาต้า แปะบอลคืนให้ วิคเตอร์ โมเสส ยิงคนเดียวโล่ง แต่ วิคเตอร์ โมเสส ยิงข้ามคานไปเองแบบน่าเขกกะโหลก


        10นาทีต่อมา แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้โอกาสส่องไกล25หลาอีก แต่บอลไม่แรงและตรงตัว อันเดอร์ส ลินเดการ์ด รับเข้าซองไม่ยาก


        นาทีที่34 แมนฯยูฯ มีโอกาสบ้าง เมื่อ ไรอัน กิ๊กส์ เปิดบอลจากริมสนามฝั่งซ้ายเข้ากลาง ปีเตอร์ เช็ก ออกมาพุ่งปัด บอลมาถึง ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ได้แปคนเดียวตรงเส้นกรอบประตู แต่ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ยิงไม่ดี บอลโด่งข้ามคานไปอีกครั้ง


        ช่วงท้ายครึ่งแรก ไรอัน กิ๊กส์ เปิดบอลให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  ตวัดยิงตามน้ำอย่างสวย แต่บอลหลุดกรอบไปอีก หมดครึ่งแรก แมนฯยูฯ จึงเสมอ เชลซี 0-0


        เริ่มครึ่งหลังมา6นาที แมนฯยูฯ เปิดฉากได้สวย เมื่อ อันแดร์สัน พาบอลสวนขึ้นมา ก่อนเปิดให้ ฟิล โจนส์ หลุดไปโล่งๆในกรอบเขตโทษ แต่ ฟิล โจนส์ ที่พยายามเปิดบอลให้ อาร์วีพี เปิดบอลออกหลังไปเองอย่างเสียของ


        นาทีต่อมา มีใบเหลืองจนได้ โดยตกเป็นของ เนมันย่า วิดิช หลังไปทำฟาวส์ วิคเตอร์ โมเสส


        นาทีที่67 เชลซี ได้ฟรีคิกระยะมีลุ้น หลังจาก ปาทริซ เอวร่า ไปเสียท่าไปทำฟาวส์ มาต้า ระยะอันตราย แต่ มาต้า ยังยิงไม่ผ่านกำแพง


        นาทีต่อมา แมนฯยูฯ เปลี่ยนทีเดียว2ตำแหน่ง โดยส่ง อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ ลงแทน ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ และเปลี่ยน เวย์น รูนี่ย์ ลงแทน อันแดร์สัน


        นาทีที่74 หลังลงมา เวย์น รูนี่ย์ มีโอกาสได้โหม่ง จากลูกเปิดริมสนามเข้ามาหน้าประตูของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย แต่บอลก็ยังไม่เข้ากรอบ


        2นาทีต่อมา เชลซี เปลี่ยนตัวอีก โดยเปลี่ยน วิคเตอร์ โมเสส ออก และส่ง เฟร์นันโด ตอร์เรส ลงมายืนจับคู่กับ เดมบา บา


        นาทีที่80 แมนฯยูฯ  โดนใบเหลืองอีก เมื่อ ฟิล โจนส์ ไปตัดฟาวส์ รามิเรซ ในจังหวะโต้กลับ จึงไม่รอดถูก ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ควักใบเหลืองให้


        3นาทีต่อมา ปาทริซ เอวร่า เสียท่าอีกครั้งไปฟาวส์ ฆวน มาต้า เสียฟรีคิกระยะอันตรายอีก แต่ ดาวิด ลุยซ์ รับหน้าที่ยังเต็มข้อ แต่บอลหลุดกรอบไปเยอะ


        นาทีที่85 เชลซี โดนใบเหลืองไปอีก หลัง ดาวิด ลุยซ์ ไปฉุนใส่การตัดสินของ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ จนออกอาการไม่อยู่ จึงโดนใบเหลืองไป


        2นาทีต่อมา เชลซี ได้ประตูจนได้ เมื่อ รามิเรส พาบอลขึ้นมาจ่ายให้ ออสการ์ เปิดบอลมาทางเสาสองให้ ฆวน มาต้า ยิงแฉลบ สไลด์ของ ฟิล โจนส์ บอลเปลี่ยนทางพุ่งชนเสาสองเด้งเข้าประตู เชลซี บุกนำ 1-0


        นาทีที่ 89 สถานการณ์ของ แมนฯยูฯ ยิ่งเลงร้ายเข้าไปใหญ่ เมื่อ ราฟาเอล ไปหงุดหงิดเจตนาหวดใส่ ดาวิด ลุยซ์ ตรงมุมธง จึงถูก ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ควักใบแดงไล่ ราฟาเอล ออกจากสนามทันที เจ้าถิ่นเหลือ10คน


        หลังจากนั้นทั้งสองทีม เปลี่ยนตัวทั้งคู่ โดย แมนฯยูฯ ส่ง ชิชาริโต้ แทน อันโตนิโอ วาเลนเซีย ขณะที่ เชลซี เปลี่ยน นาธาน อาเก้ ลงมาแทน ฆวน มาต้า