จากอดีตนักเตะสารพัดประโยชน์สู่การเป็นเฮดโค้ชใหญ่ของทีมชาติไทยชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี วันนี้ภารกิจที่ต้องพาทีมทวงความเป็นหนึ่งในรุ่นเล็กของบอลอาเซียน

หากย้อนไปเมื่อสิบปีก่อน คงไม่มีใครไม่รู้จักกองกลางผู้ปิดทองหลังพระของทีมชาติไทย อย่าง “อนุรักษ์ ศรีเกิด” วันนี้กับบทบาทใหม่ที่ต้องกลายเป็นเฮดโค้ชใหญ่ผู้แบกความหวังของทีมยู-19

ประสบการณ์สมัยเป็นนักเตะ อนุรักษ์ ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีประสบการณ์มากมายกับหลายๆทีมหลังเติบโตมากับทีมอย่าง ทีโอที เอสซี ก่อนจะย้ายมาสร้างชื่อกับ บีอีซี เทโรศาสน รวมถึงการได้ไปค้าแข้งในเอสลีก สิงคโปร์กับทีมอย่า วูดแลนส์ เวลลิงตัน ก่อนจะมาแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2010 กับ ปตท. ระยอง

ในขณะเดียวกันประสบการณ์ในการเป็นโค้ชของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ หลังเป็นที่รักของแฟนบอลมากมายทั้งกับ พัทลุง, ภูเก็ต เอฟซี, เชียงราย ยูไนเต็ด ที่โค้ชจุ่นพาหนีตกชั้นได้แบบหวุดหวิดและเมื่อปีก่อนกับการพาทีมอย่างบางกอกกล๊าส คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ซึ่งเป็นถ้วยใบแรกของทีมนับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อมาจากธนาคารกรุงไทย

ณ ตอนนี้ โค้ชจุ่น กำลังเดินอยู่ในเส้นทางใหม่หลังถูกแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ชของทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี โดยภารกิจของเขาคือการทวงตำแหน่งจ้าวอาเซียนที่จะเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนหน้า

“ก่อนอื่นผมต้องยอมรับเลยนะว่าเรามีปัญหาพอสมควร เนื่องจากมีนักเตะให้เลือกสรรไม่มากเท่าไหร่ในตอนแรก แต่ก็เริ่มเจอนักเตะดีๆหลายคนที่เราเลือกมาสู่ทีม” โค้ชจุ่น กล่าวเริ่ม

“ความจริงการได้เป็นโค้ชของทีมชาติไทยมันถือว่าเป็นความฝันของผมเลยก็ว่าได้ เพราะมันถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของใครหลายคน ผมรู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้รับโอกาสจากสมาคม”

กับทัวร์นาเมนต์ที่จะถึงนี้อย่าง เอเอฟเอฟ ยู 19 ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ถือว่าเป็นภารกิจแรกที่โค้ชจุ่นในการพา ช้างศึก ที่เป็นอดีตแชมป์ 3 สมัย กลับทวงบัลลังค์ที่ห่างหายไปนาน 4 ปี โดยมีคู่แข่งสำคัญคือ ออสเตรเลีย เป็นปราการด่านแรกในนัดเปิดสนาม

“แน่นอนเป้าหมายของรายการนี้ของเราต้องเป็นแชมป์เท่านั้น แต่มันแค่เป้าหมายรอง เพราะเป้าหมายหลักคือชุดนี้จะต้องถูกดันขึ้นไปเล่นชุดใหญ่และต้องพาทีมไปเล่นฟุตบอลโลกให้ได้”

“สิ่งสำคัญสำหรับทีมชาติไทยคือเราต้องพยายามหาตัวแทนรุ่นต่อรุ่น ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณภาพของนักเตะว่าจะก้าวขึ้นมาแทนนักเตะที่ก้าวขึ้นไปได้แค่ไหน”

“ด้วยสไตล์การเล่นของทีมชาติไทย แน่นอนเราต้องพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่ เพื่อเอ็นเตอร์เทนแฟนบอล และเพื่อสานต่อในสิ่งที่ตัวของพี่ซิโก้วางรากฐานเอาไว้”

จากเมื่อสองเดือนก่อนที่เราได้เห็นเมียนมาได้ไปลุยฟุตบอลโลกรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ประเทศนิวซีแลนด์ มันถึงเวลาอีกครั้งที่จะถามว่าระดับคุณภาพของบอลไทยนั้นอยู่ตรงจุดไหน?

เด็กไทยดีพอหรือเปล่าที่จะผ่านเข้าไปสู่เวทีระดับโลก?

คำถามนี้ไม่มีใครตอบได้ นอกจากตัวของ อนุรักษ์ ศรีเกิด และเด็กไทยทั้ง 23 คนที่ถูกเลือกนั่นเอง