ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ฟันธงทีมเยาวชนไทยอายุ 19 ปี มีโอกาสสูงที่จะได้เดินทางไปสู้ศึกฟุตบอลเยาวชนโลกมากกว่าทีม 16 ปี และเตรียมเรียกทีมงานสตาฟฟ์โค้ชชุดเก่าในรอบคัดเลือกให้เข้ามาช่วยทีม พร้อมกับยืนยันว่าคนที่จะเข้ามาทำทีมฟุตบอลเยาวชนไทยทั้งสองชุดต้องเป็นโค้ชมีคุณภาพอย่างแน่นอน

  "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า "ตามที่มีข่าวออกมาว่าจะให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นผู้ประกาศรายชื่อผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลเยาวชนไทยอายุ 16 และ 19 ปี ที่จะเดินทางไปสู้ศึกฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย จำนวน 3 คน ถือเป็นเรื่องเข้าใจผิด ตัวผมเองได้เสนอชื่อคนทำทีมไปทีมละ 3 คน ให้ทำการคัดเลือกเอาแค่ทีมละคนเท่านั้น ส่วนทางด้านทีมงานสตาฟฟ์โค้ชจะใช้ทีมงานเก่าเข้ามาช่วยดูแลทีมร่วมกับกุนซือคนใหม่ที่มีการคัดเลือกตัวเขาไป เพราะเชื่อทีมงานสตาฟฟ์โค้ชชุดเก่าน่าจะมีข้อมูลในการแนะนำปัญหาต่างๆ กับหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ได้ และรายชื่อผู้ฝึกสอนที่ประกาศออกมาคุมทีมฟุตบอลเยาวชนไทยทั้งสองชุด ต้องเป็นโค้ชที่มีคุณภาพ เป็นที่พอใจของแฟนบอลชาวไทยอย่างแน่นอน"

 ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า "ในทีมเยาวชนไทยทั้งสองชุดนี้ถ้าให้ฟันธงว่าทีมไหนจะมีโอกาสไปบอลโลกมากกว่า ผมขอบอกตรงนี้เลยว่า ทีมเยาวชนไทยอายุ 19 ปีน่าจะมีโอกาสดีกว่า เนื่องจากนักเตะที่ดูรายชื่อมาส่วนใหญ่โตมาจากศึกฟุตบอลไทยลีก เป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ในการเล่นและมี 3-4 คนเท่านั้นที่ครบเครื่องสามารถจะเทียบชั้นกับนักเตะในระดับแนวหน้าของเอเชียอย่างเกาหลี รวมทั้งญี่ปุ่นได้อย่างสบาย ที่เหลือคงจะต้องปรับในเรื่องของความแข็งแกร่งกับเรื่องความเร็ว ถ้านักเตะไทยชุดนี้ทุกคนมีจุดนี้ก็เชื่อทีมเยาวชนไทยจะสามารถเบียดกับทีมในระดับแนวหน้าของเอเชียได้อย่างสบาย"

  "ส่วนทางด้านทีมเยาวชนไทย 16 ปี หนทางที่จะไปเล่นฟุตบอลเยาวชนโลกรอบสุดท้ายค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเด็กชุดนี้ขาดความสมบูรณ์ในหลายๆ ด้านทั้งความแข็งแรง ความเร็ว ดังนั้นจึงอยากจะฝากเรื่องนี้ไปยังอะคาเดมี่ของสโมสรต่างๆ ในเมืองไทย อย่าไปมุ่งเน้นในเรื่องของชัยชนะมากเกินไปจนลืมในเรื่องของทักษะและระบบทีม"

  "และอีกจุดหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อนักเตะชุดนี้ที่คนทำทีมควรคำนึง เห็นจะเป็นเรื่องความสามัคคีในทีม เนื่องจากเด็กที่ติดชุดนี้ส่วนใหญ่มาจากทีมโรงเรียนที่ชิงดีชิงเด่นกันมาในสนามแข่งขัน พอเข้ามาติดทีมชาติไม่คุยกัน แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่าจุดนี้ที่จะเป็นจุดที่สร้างความเสียหายให้กับทีมเยาวชนไทยอายุ 16 ปี"