เส้นทางของฟุตบอลโลกของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ จบลงเพียงเท่านี้ หลังจากอุรุกวัยโชว์ฟอร์มเยี่ยมเอาชนะโปรตุเกสไปแบบสนุก 2-1 เป็นเกมที่ทีม "จอมโหด" แนวรุกโชว์ฟอร์มเด็ดขาดเป็นอย่างมาก คู่ควรแก่การได้ไปต่อใสรอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วนฝอยทองแม้จะได้แชมป์ยูโรแล้วแต่แชมป์ฟุตบอลโลกก็ร้องเพลงรอต่อไป มาดูประเด็นในเกมกันดีกว่า
1.กำแพงจอมโหดโดนเจาะรู

    325 นาทีคือเวลาทั้งหมดที่อุรุกวัยไม่เสียประตูในฟุตบอลโลกครั้งนี้ สุดท้ายแล้วพวกเขามาโดนเจาะตาข่ายได้สำเร็จจากลูกเตะมุม ดีเอโก้ โกดิน และ โฮเซ่ มาเรีย คิเมเนซต่างวิ่งมาประกบคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้ เปเป้ ขึ้นโขกตีเสมอได้สำเร็จ ประตูนี้ยังหยุดเวลาที่อุรุกวัยไม่เสียประตูในทุกรายการไว้ที่ 597 นาที โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาโดนเจาะตาข่ายต้องย้อนกลับไปในเกมกับออสเตรียเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

   
2.คาวานี่ คนเดิมกลับมา

    ในรอบแบ่งกลุ่ม 2 นัดแรก เอดินสัน คาวานี่ พยายามส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จสักที ซึ่งเกมสุดท้ายกับรัสเซีย ฟอร์มการจบสกอร์ของเขาก็ดูเหมือนจะยังไม่กระเตื้อง แต่เขามายิงในนาทีสุดท้ายได้สำเร็จ ทำให้เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ส่งผลมาถึงนัดนี้ ที่เหมาคนเดียวสองประตู แต่ละประตูจบสกอร์ได้แบบมั่นใจสุดๆ เชื่อว่าตอนนี้แฟนอุรุกวัยคงต้องภาวนาให้เขาฟิตเต็มร้อยในเกมถัดไปหลังจากเขาถูกเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากได้รับบาดเจ็บ
 
   
3.ครองบอลเยอะไม่ได้ชนะเสมอไป

    เป็นอีกเกมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่ฝ่ายครองบอลเยอะกว่าไม่ได้เป็นผู้ชนะ หลังจากที่อุรุกวัยขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม พวกเขามั่นใจว่าเกมเข้าทางพวกเขาแล้ว "จอมโหด" ใช้แผนการเล่น 4-4-2 โดยเน้นตั้งรับ และปล่อยให้โปรตุเกสครองบอลดาหน้าบุกใส่ แต่ทีม "ฝอยทอง" พาบอลไปไม่ถึงพื้นที่สุดท้ายได้น้อยครั้ง ต้องชมเกมรับอันเหนียวแน่นของอุรุกวัย สุดท้ายแล้ว
เกมนี้โปรตุเกสครองบอลไปทั้งหมด 64%
   

4.โด้ อกหักตามเคย

    โรนัลโด้ เริ่มเกมหวังจะเจาะแนวรับทางฝั่งซ้ายอย่าง มาร์ติน กาเซเรส และโฮเซ่ มาเรีย คิเมเนซ แต่ปรากฎว่า กาเซเรส ใช้ประสบการณ์และความเก๋าป้องกันทางริมเส้นได้ทำให้โรนัลโด้ โยกไปเล่นทางฝั่งขวา แต่เขาก็เจอ ดีเอโก โกดิน ที่ใช้ความสูงใหญ่ประกบได้แบบอยู่หมัด นี่คือเหตุผลว่าทำไมโรนัลโด้ ถึงได้บ่อยค่อนข้างน้อย

    กองหน้าวัย 33 ปีมีโอกาสยิงทั้งหมด 6 ครั้งแต่ตรงกรอบแค่ครั้งเดียว แถมวันนี้ฟรีคิกของเขาก็ยังหวังผลไม่ได้ เป็นอีกวันที่เล่นไม่ได้ดั่งใจ โรนัลโด้ ต้องอกหักกับฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 4 แล้ว แถมยังไม่เคยยิงได้ในรอบน็อคเอ๊าท์แม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งก็น่าแปลกที่สถิตินี้ ลิโอเนล เมสซี่ ก็เป็นเหมือนกัน 4 ครั้งในเวิลด์ คัพ และยิงไม่ได้ในรอบน็อคเอ๊าท์ แถมยังตกรอบในวันเดียวกันอีก ช่างบังเอิญเสียเหลือเกิน

5.จับตา "จอมโหด"

    ก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มคงไม่มีใครมอง อุรุกวัย เป็นเต็งแชมป์เท่าไหร่นัก แต่หลังจากเกมนี้เชื่อว่าหลายคนน่าจะต้องหันมามองบ้างแล้ว เพราะเห็นฟอร์มที่ลงตัวแบบสุดๆของพวกเขา ทั้งเกมรับอันเหนียวแน่นเสียประตูค่อนข้างยากกับ เกมรุกที่มีสองหัวหอกที่จะผลิตสกอร์ได้ทุกเมื่อ แถมไม่จำเป็นต้องเล่นเพอร์เฟคเช่น จ่ายบอลแม่นยำกว่าหรือครองบอลมากกกว่าแต่พวกเขาก็ยังเอาชนะคู่แข่งมาได้หลายนัด เป็นทีมที่มีคุณสมบัติเป็นแชมป์ครบ เกมกับ ฝรั่งเศส รอบ 8 ทีมสุดท้าย จะเป็นเกมที่น่าดูอีกหนึ่งเกมเลยทีเดียว