แมตช์เดย์แรก พรีมียร์ลีก ของปี 2022 ประเดิมด้วยคู่ใหญ่สองสนาม โดยเริ่มต้นช่วงค่ำวันเสาร์ อาร์เซน่อล พบ แมนฯ ซิตี้ และมี เชลซี พบ ลิเวอร์พูล ในคืนวันอาทิตย์ แต่ละคู่จะมีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันได้เลย!!

    "อาร์เซน่อล-แมนฯ ซิตี้"

    เอมิล สมิธ โรว์ มิดฟิลด์ดาวโรจน์ของ อาร์เซน่อล ทำประตูในลีกมาแล้ว 4 เกมติดต่อกัน และหากเขามีสกอร์อีกในเกมนี้จะทำให้เจ้าตัวเป็นแข้งอายุน้อยลำดับที่ 3 (21 ปี 157 วัน) ที่สามารถยิงติดต่อกัน 5 นัดต่อจาก นิโกล่าส์ อเนลก้า (19 ปี 239 วัน) และ โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส (21 ปี 10 วัน)

    "เดอะ กันเนอร์" ยิงประตูในบ้านตัวเองได้ตลอด 5 เกมหลังสุดในลีก โดย 4 เกมหลังสามารถเก็บคลีนชีตได้ทุกนัด โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเอาชนะ 5 เกมรวดในบ้านโดยไม่เสียประตูเลยเกิดขึ้นตอนช่วงระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน ปี 1999

    ราฮีม สเตอร์ลิง แนวรุก "เรือใบสีฟ้า" สอยตาข่ายที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มาแล้ว 3 นัดติด ซึ่งผู้เล่นคนเดียวที่สามารถยิงที่บ้านของ "ไอ้ปืนใหญ่" 4 เกมซ้อนคือ นิโกล่าส์ อเนลก้า ที่ทำไว้ตอนยิงที่ ไฮบิวรี่ ในสีเสื้อ แมนฯ ซิตี้ และสอยที่รังเหย้าปัจจุบัน ตอนเล่นให้ โบลตัน กับ เชลซี

    ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั้น แมนฯ ซิตี้ บุกยิง อาร์เซน่อล ได้ในช่วง 15 นาทีแรกตลอด 5 เกมหลังสุดที่เจอกัน โดยที่ 2 ซีซั่นหลังยิงได้ตั้งแต่ช่วง 2 นาทีแรก

    "วัตฟอร์ด-สเปอร์ส"

    ในประวัติศาสตร์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ไม่มีผู้เล่นคนไหนที่ทำประตูในวันปีใหม่ได้มากกว่า แฮร์รี่ เคน (5 ประตู) นอกจากนี้เขายังทำได้ถึง 3 แอสซิสต์จากการลงเล่น 3 เกม ซึ่งในเรื่องการแอสซิสต์มีแค่ เชส ฟาเบรกาส เท่านั้นที่ทำได้มากกว่าในการลงเล่นวันที่ 1 มกราคม (4 ครั้ง)

    แม้ฟอร์มระยะหลังของ วัตฟอร์ด จะแพ้รวดมา 5 นัดติด แต่เกมนี้ก็พอมีเรื่องให้พวกเขามีความหวังบ้างเมื่อการเจอกับ สเปอร์ส ในบ้านตัวเอง "แตนอาละวาด" ไม่แพ้เลย (ชนะ 1 เสมอ 2) อย่างไรก็ดี ชัยชนะของ "ไก่เดือยทอง" ครั้งล่าสุดที่ วิคาเรจ โร้ด เกิดขึ้นในวันขึ้นปีใหม่ของปี 2017

    เอ็มมานูเอล เดนนิส มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรง 10 ลูกจาก 8 เกมหลังสุดในลีก (6 ประตู 4 แอสซิสต์) คิดเป็น 67% ของประตูทั้งหมดที่ วัตฟอร์ด ทำได้ (10 จาก 15)

    อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือคลับไก่ ลงทำหน้าที่ดวลเจอกับโค้ชอิตาเลี่ยนในลีกไม่แพ้มาแล้ว 5 นัด (ชนะ 4 เสมอ 1) รวมถึง 2 ชัยชนะเหนือ เคลาดิโอ รานิเอรี่ 3-0 ในฤดูกาล 2016/17 ขณะเดียวกัน ตัวรานิเอรี่ เองก็แพ้ 4 นัดรวดในการวัดฝีมือกับคนชาติเดียวกัน

    "เบรนท์ฟอร์ด-แอสตัน วิลล่า"

    แอสตัน วิลล่า บุกชนะทีมน้องใหม่ได้ถึง 4 จาก 5 เกมหลังสุด (แพ้ 1) ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าก่อนหน้านี้ 22 เกมที่ชนะได้แค่ 3 นัด (เสมอ 8 แพ้ 11)

    เบรนท์ฟอร์ด ไม่แพ้ แอสตัน วิลล่า มาแล้ว 7 นัดติดต่อกัน (ชนะ 3 เสมอ 4) โดยชัยชนะ 3 เกมเกิดขึ้นยามเล่นในบ้าน

    นับตั้งแต่แบ่งแต้มกับ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อเดือนสิงหาคม หลังจากนั้น "สิงห์ผยอง" ก็ไม่เคยลงเอยด้วยผลเสมออีกเลยเป็นจำนวน 15 นัดเข้าให้แล้ว โดยสถิติไร้เจ๊านานสุดของ วิลล่า ตอนทำไว้ 16 นัดติดตอนช่วงระหว่างเดือนมกราคม-เดือนพฤษภาคม ปี 1998

    เอมิเลียโน่ บูนเดีย มีส่วนร่วมกับประตูยามลงเล่นเจอ เบรนท์ฟอร์ด ตลอด 4 เกมหลังสุด (3 ประตู 1 แอสซิสต์) โดยประตูแรกของแข้งอาร์เจนไตน์ ที่ทำได้ในสีเสื้อ วิลล่า ก็คือการยิง "เดอะ บีส์" เมื่อตอนต้นซีซั่น

    "เชลซี - ลิเวอร์พูล"

    ลิเวอร์พูล มีสิทธิ์เป็นทีมที่ 3 ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่สามารถบุกชนะ เชลซี ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้ 3 ครั้งติดต่อจาก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส หากซิวสามแต้มในเกมนี้

    เมสัน เมาท์ มิดฟิลด์ "สิงห์บลูส์" มีส่วนร่วมกับประตู 12 ครั้งในซีซั่นนี้ (7 ประตู 5 แอสซิสต์) ซึ่งเป็นนักเตะอังกฤษ ที่ทำได้มากที่สุดในตอนนี้ และยังเป็นตัวเลขที่ เมาท์ ทำได้มากสุดเทียบเท่าตอนฤดูกาล 2019/20

    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตูในลีก 13 ครั้งจาก 13 เกมหลังสุดที่เผชิญหน้าทีมจากกรุงลอนดอน (8 ประตู 5 แอสซิสต์) ขณะเดียวกัน ไม่มีผู้เล่น "หงส์แดง" รายไหนที่สอยตาข่ายทีมเมืองหลวงได้มากกว่าเขาอีกแล้ว (13 ประตูเทียบเท่ากับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด)

    นับตั้งแต่ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0 เมื่อปี 2016 เชลซี เปิดหัวลงเล่นนัดแรกของปีไม่สวยงามนัก เมื่อไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ 5 นัดติด (เสมอ 3 แพ้ 2) ครั้งเดียวที่พวกเขาไม่ชนะเกมแรกของปีติดกันนานสุดคือ 10 ปีติด ตอนช่วงระหว่างปี 1929-1938

    "แมนฯ ยูไนเต็ด - วูล์ฟส์"

    แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่มีอัตราการคว้าชัยในเดือนมกราคมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก (65.5 % ชนะ 74 จาก 113 เกม) ขณะเดียวกัน วูล์ฟส์ เป็นทีมที่มีอัตราเก็บชัยใน พรีเมียร์ลีก ต่ำสุด โดยมีเปอร์เซ็นต์แค่ 17.2 % ชนะ 5 จาก 29 นัด

    "ปีศาจแดง" เอาชนะ "ทีมหมาป่า" ได้ตลอดสามเกมหลังสุดในลีก โดยครั้งล่าสุดที่คว้าชัยเหนือ วูล์ฟส์ ติดต่อกันคือย้อนไปเมื่อช่วงระหว่างปี 1964-1968 ที่ทำไว้ 5 เกมติด

    7 นัดหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก ที่ วูล์สฟ์ ลงเผชิญหน้ากับคู่แข่งหน้าไหน ไม่มีทีมใดเลยที่ทำประตูใส่พวกเขาได้เกิน 1 ลูก (0-0 3 นัด, ชนะ 1-0 2 นัด, แพ้ 0-1 2 นัด) ซึ่งจากในอดีตมีแค่ 2 ทีมเท่านั้นที่ทำสถิตินี้ได้นานกว่าคือ คริสตัล พาเลซ (8 นัด ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 1994-มกราคม 1995) และ เบิร์นลี่ย์ (9 นัด ระหว่างเดือนเมษายน 2015-เดือนสิงหาคม 2016)

    วูล์ฟส์ ไม่ชนะใครยามเล่นเกมเปิดหัวของปีใน พรีเมียร์ลีก มาแล้ว 7 นัดติดต่อกัน (เสมอ 2 แพ้ 5) โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาชนะคู่แข่งบนลีกสูงสุดในนัดแรกของปีเกิดขึ้นเหนือ มิดเดิลสโบรส์ ตอนปี 1981