คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ลงเป็นซูเปอร์ซัป กดประตูชัย พา "สิงห์บลูส์" ภายใต้การนำของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ประเดิม3 แต้มแรกในลีก แซงเชือด คริสตัล พาเลซ นาทีบาปสุดมันส์ ในเกมพรีเมียร์ อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2565ฟุตบอล พรีเมียร์ อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2565

คริสตัล พาเลซ 1-2 เชลซี

สนาม : เซลเฮิร์สท์ พาร์ค

"ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ ของ ปาทริค วิเอร่า พาทีมเสมอกับ นิวคาสเซิ่ล ไป 1-1 ในเกมล่าสุด เป็นการเสมอมา 2 เกมติด นัดนี้ส่ง อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ลงมาประสานงานในแนวรุกร่วมกับ จอร์แดน อายิว และปีกตัวเก่งอย่าง วิลฟรีด ซาฮา

ทางด้าน เกรแฮม พ็อตเตอร์ ประเดิมคุม "สิงห์บลูส์" เชลซี ในลีกเป็นนัดแรก หลังเปิดรังเสมอกับ ซัลซ์บวร์ก 1-1 ในเกมล่าสุดก่อนช่วงเบรคทีมชาติ เกมนี้จัด ไค ฮาแวร์ทซ์ กับ ราฮีม สเตอร์ลิง ขนาบข้าง ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง

เปิดเกมมาในช่วงแรกเป็น เชลซี ที่เดินเกมบุกเข้าใส่ก่อน แต่ทว่าเป็นเจ้าบ้านที่ขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ แปะบอลออกขวามาให้ จอร์แดน อายิว ก่อนตั้งป้อมเปิดเข้ามาในกรอบ 6 หลาให้ เอดูอาร์ วิ่งสอดเข้ามาแหย่เปลี่ยนทางเข้าไปตุงตาข่ายในนาที 7

ต่อมา นาที 19 "สิงห์บลูส์" เกือบตีเสมอได้ ไค ฮาแวร์ทซ์ กระชากบอลขึ้นมาทางขวาแล้วเปิดเข้าบอลลอยมาเข้าหัว เมสัน เมาน์ท ได้ขึ้นโขกเหน่งๆ เฉียดเสาออกไป

อีก 5 นาทีถัดมา ทีมเยือนมาอีก คราวนี้เป็น รีซ เจมส์ ที่เติมขึ้นมาปาดเข้ากลางมาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง แปเท้ายิงแต่ไปติดตัว บิเซนเต้ ไกวต้า ก่อนจะตามซ้ำแต่บอลไปชนเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

อย่างไรก็ตาม นาที 38 เชลซี ตามตีเสมอเป็น 1-1 จนได้ จากจังหวะที่ รีซ เจมส์ วางบอลยาวขวางสนามทางขวามาซ้ายให้ ติอาโก้ ซิลวา ที่เติมขึ้นมาโหม่งชงให้ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง พลิกตัวตวัดด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย และเป็นประตูแรกในสีเสื้อ "สิงห์บลูส์"

ท้ายครึ่งแรก คริสตัล พาเลซ ต้องเปลี่ยนตัวเร็ว เมื่อ นาธาเนี่ยล ไคลน์ ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง เจมส์ ทอมกิ้นส์ ลงมาเล่นแทนในนาที 44

ช่วงทดเจ็บ นาที 45+2 ผู้มาเยือนได้ฟรีคิก 2 จังหวะจากจังหวะที่ ทอมกิ้นส์ ไปจ่ายบอลคืนให้ บิเซนเต้ ไกวต้า ใช้มือรับ แต่ทว่าจังหวะสุดท้ายเป็น เมสัน เมาน์ท ที่ยิงหลุดเสาแรกออกไปเอง

หมดครึ่งแรก คริสตัล พาเลซ เสมอ เชลซี อยู่ 1-1

ครึ่งหลังเริ่มมายังคงเป็น เชลซี ที่สามารถครองบอลได้มากกว่า แต่แทบไม่มีโอกาสได้ลุ้นเลย ทำให้ พ็อตเตอร์ ตัดสินใจเปลี่ยนเอา รูเบน ลอฟตัส-ชีค ลงมาแทนที่ของ จอร์จินโญ่ ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยออกไปพักในนาที 56 หลังจากเปลี่ยนตัวก็มีโอกาสจบทันทีจากลูกซัดนอกกรอบของ เบน ชิลเวลล์ แต่ก็ยังไม่เฉียบคมพอ

ต่อมา นาที 71 พาเลซ เกือบได้ประตูขึ้นนำบ้างจากจังหวะที่ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ กระชากบอลขึ้นทางขวา แล้วแปะเข้ากลางให้ วิลฟรีด ซาฮา ซัดด้วยขวา แต่ เกปา ยังพุ่งปัดได้ทัน

จากนั้นเป็น คริสตัล พาเลซ ที่บดผู้มาเยือนอยู่ยกใหญ่ แต่แล้วนาที 90 กลับกลายเป็น "สิงห์บลูส์" ที่ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ คริสเตียน พูลิซิช พยายามเลี้ยตัดหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนแปะบอลฝากมาให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ บรรจงปั่นด้วยขวาบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เชลซี บุก เฉือนชนะ คริสตัล พาเลซ ไปได้แบบหืดจับ 2-1 เป็นการประเดิม 3 แต้มแรกในยุคของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ที่มาคุม "สิงโตน้ำเงินคราม"

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : บิเซนเต้ ไกวต้า - นาธาเนี่ยล ไคลน์, โจเอล วอร์ด, มาร์ค เกฮี, ไทริค มิตเชลล์ - ไมเคิ่ล โอลิเซ่, ชีค ดูกูเร่, เอเบเรชี่ เอเซ่ - จอร์แดน อายิว, อ็อดซอนน์ เอดูอาร์, วิลฟรีด ซาฮา

ตัวสำรอง : แซม จอห์นสตัน, มัลคอล์ม อีบิโอเว, จอห์น-คีมานี่ กอร์ดอน, วิลล์ ฮิวจ์ส, ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า, ลูก้า มิลิโวเยวิช, ไจโร รีเดวัลด์, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์, เจมส์ ทอมกิ้นส์

เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - รีซ เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา, เวสเล่ย์ โฟฟาน่า, เบน ชิลเวลล์ - เมสัน เมาน์ท, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช - ไค ฮาแวร์ทซ์, ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง, ราฮีม สเตอร์ลิง

ตัวสำรอง : มาร์คัส เบตติเนลลี่, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อาร์มานโด้ โบรย่า, เทรเวอห์ ชาโลบาห์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, คาลิดู คูลิบาลี่, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, คริสเตียน พูลิซิช, ฮาคิม ซิเย็ค

ผู้ตัดสิน : คริส คาวานาฟ