วอยเซียก เซสนีย์ อดีตนายทวารทีมชาติ โปแลนด์ ตกลงกลับมาสวมถุงมือเฝ้าเสาให้กับ บาร์เซโลน่า เพื่อแทนที่ มาร์ค อังเดร แทร์ ชเตเก้น ที่เจ็บยาว

อดีตมือกาวทีม ยูุเวนตุส ซึ่งประกาศรีไทร์ไปแหม็บๆเมื่อช่วงซัมเมอร์ได้รับการติดต่อจากทีมดังของ ลา ลีกา และส่งผลให้เจ้าตัวเซย์เยสทันที

แม้จะมีข่าวลือกับ อัล นาสเซอร์ ต้นสังกัดของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในช่วงเปิดตลาดหน้าร้อน แต่สุดท้ายนายด่านตาข่ายวัย 34 ปีตัดสินใจแขวนถุงมือ

"ผมลงเล่นมานาน 18 ปีทั้งชีวิต วันนี้แม้ร่างกายของผมยังพร้อมท้าทาย แต่หัวใจของผมไม่เอาอีกแล้ว ผมรู้สึกว่าถึงเวลาที่ต้องใส่ใจกับครอบครัวของผม" อดีตโกลทีม อาร์เซน่อล ระบุหลังอำลาสังเวียนแข้ง

แต่ในที่สุด บาร์เซโลน่า แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในสโมสรที่ไม่มีนักเตะคนไหนกล้าปฏิเสธเช่นเดียวกับ เรอัล มาดริด และทำให้ ฮันซี่ ฟลิค กุนซือด๊อยทช์ได้ เซสนีย์ ไปเป็นตัวแทนของ แทร์ ชเตเก้น

อย่างไรก็ดี ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่ามีนักเตะหลายรายที่กลับมาค้าแข้งต่อหลังรีไทร์ไปแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามโดยในวันนี้เราจะย้อนอดีตไปที่สตาร์ดังในข่ายนี้สักหกราย

- พอล สโคลส์

กองกลางเด็กปั้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของสโมสรเมื่อปี 1993 และประกาศรีไทร์ในปี 2011

อย่างไรก็ดี ดาวเตะอิงลิชซึ่งผันตัวมาเป็นสตาฟฟ์โค้ชของ ผีแดง ในเวลานั้นเกิดรู้สึกคันแข้งคันขาขณะคุมทีมสำรองของสโมสรซ้อม และแจ้งกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ว่าอยากกลับมาเล่นต่อโดยเขาพร้อมเซ็นสัญญากับทีมอื่นหาก ผีแดง ไม่คิดต้อนรับ

ด้วยเหตุที่สโมสรประสบกับปัญหามีแผงกลางล้มเจ็บหลายราย สโคลส์ จึงกลับมาสวมสตั๊ดอีกรอบในเกม เอฟเอคัพ เดือนม.ค.2012 และพาทีมสยบ แมนฯ ซิตี้ ได้ 3-2 ในฐานะตัวสำรองหลังจากแขวนรองเท้าเมื่อหกเดือนก่อน

สำหรับซีซั่นที่ว่า 2011/12 สโคลส์ ลงเล่นให้ ผีแดง รวม 21 นัด และมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นถัดมา 2012/13 ก่อนที่เขาและป๋าเฟอร์กี้จะประกาศรีไทร์พร้อมกันในช่วงซัมเมอร์

- มาร์ค โอเวอร์มาร์ส

ปีกดัตช์จำต้องอำลาสังเวียนแข้งในวัย 31 ปีเมื่อปี 2004 หลังเจ็บเข่าขณะค้าแข้งกับ บาร์ซ่า แต่อีกสี่ปีต่อมา อดีตสตาร์ทีม อาแจ็กซ์ และ อาร์เซน่อล ลงเล่นเกม เทสทิโมเนี่ยล แมตช์ ของ ยาป สตัม และเขาโชว์ฟอร์มได้ดีจนได้รับข้อเสนอจากหลายสโมสรทั้งในบ้านเกิด และเมืองไส้กรอก

แรกทีเดียว โอเวอร์มาร์ส บอกปัดทุกข้อเสนอ แต่สุดท้ายเขาตกลงจรดปากกากับ โก อเฮด อีเกิ้ลส์ ในปี 2008

รวมแล้วเขาลงเล่นในลีกดิวิชั่นสองของบ้านเกิดรวม 24 นัด แต่อาการเจ็บเข่ากลับมารังควานเขาอีกรอบ และทำให้ โอเวอร์มาร์ส ตัดสินใจแขวนรองเท้าอย่างถาวรหลังจบซีซั่น

- แลนดอน โดโนแวน

เป็นอีกรายที่ทนความยั่วยวนของเกมลูกหนังไม่ได้ แถมกลับมาค้าแข้งต่อสองรอบด้วยซ้ำหลังอำลาสนามไปแล้ว

อดีตดาวดังทีมชาติ สหรัฐฯ รีไทร์หนแรกในปี 2014 ช่วงที่ลงเล่นให้ทีม แอลเอ แกแลคซี่ แต่หลังจากทีมรักเสียสตาร์ดังที่ล้มเจ็บพร้อมกันสามรายรวมถึง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ด้วยขณะที่ โดโนแวน ทำงานเป็นคอมเมนเตเตอร์เกมดังกล่าวพอดี เขาจึงถูกขอให้กลับมาลงเล่นให้สโมสร

สุดท้ายแล้วดาวเตะแยงกี้ตอบตกลง และลงเล่นทั้งหกเกมที่เหลือของฤดูกาลปกติ รวมทั้งสามเกมในรอบเพลย์ออฟ และยิงได้หนึ่งประตู

จากนั้นในปีต่อมา โดโนแวน สร้างเซอร์ไพรส์เซ็นสัญญากับ เลออน ทีมในลีกเม็กซิกันขณะมีอายุ 36 ปี แต่ลงเล่นไปแค่ห้าเดือนก่อนรีไทร์อีกรอบ

- อาร์เยน ร็อบเบน

ร็อบเบน ค้าแข้งกับทีมใหญ่หลายรายทั้ง เชลซี , เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น ก่อนรีไทร์ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 หลังบอกลาทีม เสือใต้

อย่างไรก็ดี ปีต่อมาเขากลับมาสวมรองเท้าลงเล่นให้กับ โกรนิงเก้น ทีมแรกในอาชีพพ่อค้าแข้ง แต่แค่ 28 นาทีในการกลับมารับใช้ทีมในบ้านเกิดเป็นคำรบสองนัดปะทะกับ พีเอสวี อดีตต้นสังกัดอีกแห่งของเขา ปีกดัตช์จอมลีลาก็บาดเจ็บจนต้องร้างสนามไปนานเกือบเจ็ดเดือน

แม้จะเรียกความฟิตกลับมาทันในช่วงท้ายซีซั่น แต่เขาได้ลงสนามเพียงไม่กี่เกมก่อนอำลาสังเวียนแข้งอีกรอบ

- เยนส์ เลห์มันน์

ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน อดีตนายทวารทีมชาติ เยอรมนี กลับมาสวมถุงมือเฝ้าเสาให้ อาร์เซน่อล อีกหนหลังรีไทร์กับ สตุ๊ตการ์ท ไปแล้ว

เลห์มันน์ ตกลงเซ็นสัญญากลับมารับใช้ทีม ปืนใหญ่ ในเดือนมี.ค.2011 เนื่องจาก เซสนีย์ , ลูคัส ฟาเบียนสกี้ และ วิโต้ มานโนเน่ นัดกันล้มเจ็บทั้งหมดกระทั่งเหลือแค่ มานูเอล อัลมูเนีย ฟิตแค่รายเดียว

เลห์มันน์ ประกาศอำลาสนามเมื่อเก้าเดือนก่อนหลังลงเล่นให้ทีม ม้าขาว ในบ้านเกิดสองซีซั่นหลังย้ายออกจากทีม ปืนใหญ่ และอันที่จริงเขากลับมาที่ลอนดอนเพื่ออบรมใบอนุญาตโค้ชอยู่ที่ซุ้มข้างสนามของ เดอะ กันเนอร์ส ในเวลานั้น แต่หลังจาก อัลมูเนีย เดี้ยงไปอีกรายขณะซ้อมก่อนเกมบุกไปเยือน แบล็คพูล หลังจากมือกาวด๊อยทช์กลับสู่สโมสรได้ไม่กี่สัปดาห์ เขาก็ลงเฝ้าเสาในวัย 41 ปีพาทีมกำชัย 3-1

อย่างไรก็ดี มันเป็นแค่เกมเดียวที่ เลห์มันน์ ลงเล่นให้ อาร์เซน่อล หนที่สอง และเขาอำลาสนามอีกรอบหลังจบซีซั่น

- โยฮัน ครัฟฟ์

ตำนานทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ประกาศรีไทร์ในวัย 31 ปีเมื่อปี 1978 ขณะค้าแข้งกับ บาร์ซ่า แต่เพียงไม่กี่เดือนเขาก็จับสตั๊ดมาสวมอีกหนหลังถูกหลอกให้ลงทุนทำฟาร์มหมูจนหมดเงินไปเยอะ

ในตอนนั้น ครัฟฟ์ และครอบครัวย้ายมาใช้ชีวิตในอเมริกาแล้ว เขาจึงตัดสินใจค้าแข้งใน นอร์ท อเมริกัน ซ็อคเกอร์ ลีก (เอ็นเอเอสแอล) กับทีม ลอส แอนเจลีส อัซเท็คส์ หนึ่งปี และได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ เอ็นเอเอสแอล ก่อนหันไปลงเล่นให้ วอชิงตัน ดิโพลแมตส์ สองปีโดยมีการลงเล่นให้ เลบันเต้ ในลีก เซกุนด้า  คั่นกลาง

กระทั่งปี 1981 ครัฟฟ์ ก็กลับมาค้าแข้งกับ อาแจ็กซ์ อีกรอบ และพาทีมซิวแชมป์ลีกดัตช์สองปีซ้อน แต่สโมสรไม่ต่อสัญญาใหม่ ดังนั้นในปี 1983 เขาจึงย้ายไปร่วมทีมคู่แค้น เฟเยนูร์ด และพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกของสโมสรในรอบสิบปีซึ่งเป็นซีซั่นสุดท้ายในการค้าแข้งของเขาโดย ครัฟฟ์ รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเมืองกังหันลมด้วยขณะมีอายุ 37 ปี