"โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด เปิดรังบู๊ "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี สุดเดือด ก่อนคว้าชัยไปด้วยสกอร์ 2-1 โดย ธีระเวคิน สีหวงศ์ ของเจ้าถิ่นรับใบแดงส่งท้าย ด้าน "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด เจ๊ากับ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม แบบจืดชืด 0-0 ศึกลุกหนังไทยลีก นัดปิดท้ายฤดูกาล เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา

    การแข่งขันฟุตบอล "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" นัดสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม 2553

พัทยา ยูไนเต็ด 2-1 ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี

       ที่สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 6 ของตาราง เปิดบ้านพบกับ "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ทีมอันดับ 14 ที่ตกลงไปเล่น ด.1 ในซีซั่นหน้า แน่นอนแล้ว เกมนี้จึงไม่มีผลต่อทั้งสองที่ โดยนัดแรกเจอกันที่เจอกันทั้งคู่เสมอกันมา 1-1
         เกมนี้ "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือเจ้าถิ่น นัดนี้จะเป็นนัดสุดท้ายที่เจ้าตัวจะคุมทีม ก่อนย้ายไปเป็นผู้ช่วยโค้ชให้กับทีม อินทรีเพื่อนตำรวจ ฤดูกาลหน้า ไม่สามารถใช้บริการ ลูโดวิค ทาคาม ศูนย์หน้าดาวซัลโว กับ ทศพล การปลูก สองผู้เล่นตัวหลัก จึงต้องปรับส่ง ธนา ชะนะบุตร ยืนคู่กับ ปฏิพณ เพชรวิเศษ ในแดนหน้า ส่วนตำแหน่งอื่นจะเป็นผู้เล่นตัวหลักลงกันถ้วนหน้า
         ขณะที่ วิสูตร วิชายา เฮดโค้ชของ กูปรีอันตราย แม้ว่าจะตกชั้นไปแล้ว แต่ก็ขอสู้กับพัทยา อย่างเต็มที่ โดยนัดนี้จะได้ ปรัชญา หงส์อินทร์ ลงเล่น ส่วนตำแหน่งอื่นใช้ทีมสำรองที่สมบูรณ์ลงผสมกับตัวจริงด้วยเช่นกัน
         เริ่มเกมครึ่งแรกไม่ถึงนาที พัทยา ทักทายก่อน จากการสับไกลระยะ 28 หลาของ สันติ ไชยเผือก หวดด้วยเท้าซ้ายเต็มแรงแต่ ซาเมน รูเบน ประตู กูปรี ยังไม่พลาดลอยตัวปัดข้ามคานไปได้ เตะมุมเข้าไปแต่ก็ไม่มีอะไร
         น.13 ธนา ชะนะบุตร ได้ทีเลี้ยงบอลฝ่าแนวรับเข้าไปทางกรอบโทษซ้าย แต่ไม่มีจังหวะยิง ก่อนโดน เอ็นจี อเจเนวู วิ่งมาแย่งบอลจากขา น.17 ศรีสะเกษ ได้ฟรีคิกนอกกรอบโทษ ทางชวา เทวา ศรีธรรมานุสาร เปิดบอลย้อยเข้าหัว สุพรรณ หาดคำ โหม่งข้ามคาน
         เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่ง น.22 ธนา ชะนะบุตร เบียดแย่งบอลกับวิกเตอร์ อโมโร่ ทางขวาก่อนเลี้ยงหลบ 2 กองหลังหาจังหวะซัดด้วยซ้ายหน้าปากประตู แต่บอลเหินข้ามคานอย่างหน้าเสียดาย
         น.26 พัทยา น่าจะได้จุดโทษ จากจังหวะที่ อิทธิพล พูลทรัพย์ วางบอลยาวมาให้กับ ปฏิพณ เพชรวิเศษ จับบอลด้วยเท้าซ้าย กระชากเบอลเข้าไปแต่โดน ซาเมน รูเบน วิ่งล้มตัวตัดขา ผู้ตัดสิน ไม่ว่าอะไร น.37 สมภพ นิลวงศ์ โดนใบเหลืองจากการเข้าเสียบ เทวา ศรีธรรมานุสาร ลงไปนอน
         น.33 ไพโรจน์ อนันตณรงค์ เลี้ยงเลาะริมเส้นขวาก่อนเปิดบอลเรียดเลยปากประตู มาถึง ยอน ดอง คิม วิ่งมตวัดด้วยซ้าย นริศ ทวีกุล ประตูโลมา ล้มตัวเซฟ บอลไปเข้าทาง วุฒิชัย ทาทอง จับบอลหนึ่งจังหวะอย่างใจเย็นก่อนซัดด้วยซ้ายเต็มแรง บอลพุ่งตรงตัว นริศ ปัดออกมาได้อีกครั้ง
         น.38 ศรีสะเกษ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 การจ่ายบอลของ เทวา ศรีธรรมานุสาร ผ่านแนวรับ พัทยา ให้กับ ปิยะวัฒน์ ทองแม้น หลุดเข้ามาดวลดวลตัวต่อตัวกับ นิรศ ประตู พัทยาก่อนแปบอลเล่นทางสวนตัว นายทวาร โลมา บอลไหลเข้าประตูไปนิ่มๆ ทีมเยือน ศรีสะเกษ ขึ้นนำ เจ้าบ้านพัทยา 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
         ครึ่งหลัง น.50 พัทยา ยูไนต็ด ได้ลุ้นประตูตีเสมอ จากการเปิดบอลจากริมเส้นขวาเข้าไปหน้าเขตโทษ สุพรรณ หาดคำ เซนเตอร์ กูปรี โหม่งเคียร์ บอลย้อยเข้าทาง สันติ ไชยเผือก วิ่งมากดด้วยหลังเท้าขวาบอลพุ่งข้ามคานไปอีก
         น.56 ความพยายาม ของ เจ้าบ้านพัทยาก็สำเร็จ เมื่อ ธนา ชะนะบุตร หลุดเข้าไปบริเวณกรอบโทษทางซ้ายก่อนใจกว้างปาดบอลต่อให้กับ ธีระเวคิน สีหวงศ์ วิ่งเข้าแปตามน้ำเข้าไป ซุกก้นตาข่ายพัทยา ตีเสมอ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี 1-1
         จากนั้นเกมต้องหยุดชงักไป เนื่องจาก ชลัช ภิรมย์ ผู้ควบคุมการแข่งขัน เห็นว่าไฟสนามทางฝั่งของ ศรีสะเกษ เกิดการขัดข้อง ต้องรอการแก้ไขก่อน จึงจะอนุญาตให้แข่งต่อไปได้ ซึ่งตามกฎของ ทีพีเอล ต้องรออย่างน้อย 45 นาที
         โดยทาง ชลัช ภิรมย์ ผู้ควบคุมการแข่งขัน ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ไฟดังกล่าว ไม่สามารถแก้ไขให้ใช้งานต่อได้ภายใน 45 นาที หากเป็นตามหลักสากล จะต้องมีการทำการแข่งขันกันใหม่ทั้งหมด แต่ตามกฎของทาง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จะปรับแพ้ใน 2-0 ทันที และอาจมีการปรับเงินกับทาง สโมสรด้วยและเมื่อผ่านไปกว่า 42 นาทีระบบไฟในสนาม ก็สามารถใช้งานได้ทำให้ดำเนินแข่งขันต่อได้ตามกฎ
         น.69 แฟนบอลเจ้าถิ่นพัทยา ได้เฮดังๆ บ้าง เมื่อทีมพัทยาขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ทีมได้ฟรีคิกบริเวณเส้นกรอบโทษ และเป็น สันติ ไชยเผือก รับหน้าที่ปั่นเรียดด้วยเท้าซ้ายอ้อมกำแพง กูปรี แฉลบเสาสองเข้าไป ชนิดที่ ซาเมน รูเบน นายทวาร กูปรี ได้แค่มอง
         จากนั้น ศรีสะเกษ โหมบุกหนัก ทำให้ผู้เล่น พัทยา ต้องเข้าสกัดหนักเพื่อหยุดเกม และโดน เปรมวุฒิ วงศ์ดี และ อิทธิพล พูลทรัพย์ สองผู้เล่นเจ้าบ้านรับใบเหลืองไป
         ช่วงนาทีสุดท้าย ศรีสะเกษ น่าจะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุด เมื่อ ทัตพงษ์ หล้าธรรม เลี้ยงบอลหลบ ผู้เล่น พัทยาเข้าไปในกรอบโทษทางขวา ก่อนจะปาดเข้ามาให้กับ วุฒิชัย ทาทอง ตวัดหวืดไปเข้าทาง อดาม่า โคเน่ ยืนยิงจ่อๆ พลาดไปอย่างไม่น่าเชื่อ
         หลังจากนั้นเพียงหนึ่งนาที พัทยา เหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ ธีระเวคิน สีหวงศ์ มาโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง ออกจากสนามไป หมดเวลาการแข่นขัน พัทยา ยูไนเต็ด เฉือน ชนะ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี 2-1

       วาทะของโค้ช
         ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือ พัทยา ยูไนเต็ด - ถือว่าเกมนี้ เราทำได้ตามเป้า ถือเป็นของขวัญให้แฟนบอลทีม พัทยา นัดส่งท้าย ถึงแม้ชัยชนะนัดนี้ อันดับจะอยู่ที่เดิมก็ตาม
         วิสูตร วิชายา กุนซือ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี - เกมนี้ ถือว่าทีมสู้ได้ดีแล้ว ก็พอใจแล้ว ที่ผ่านมา ผู้เล่นและทีมงานของศรีสะเกษ ร่วมกัน ฝ่าฟันปัญหา มาได้มากมาย ต่อจากนี้ไปคงต้องร่วมกันสู้ต่อในการแข่งขันรอบ เพลย์ออฟ เชื่อว่าเราจะสามารถกลับมาได้แน่นอน

  คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม
         พัทยา ยูไนเต็ด : นริศ ทวีกุล, อูอัตตาร่า อตานาซ 6 (เปรมวุฒิ วงศ์ดี 5.5), สมภพ นิลวงศ์ 6, นิเวส ศิริวงศ์ 6, อิทธิพล พูลทรัพย์ 6, สมชาย สิงห์มณี 6.5 (ธีระเวคิน สิงหวงศ์ 6), ธนา ชะนะบุตร 6, ปฏิพณ เพชรวิเศษ 6, ซีเกต หมาดปูเต๊ะ 6, อนุชา กิจพงษ์ศรี 6, สันติ ไชยเผือก 7.5 (นิรันดร์ฤทธิ์ เจริญสุข 5.5)
         ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี : โจฟรัง ซาเมน รูเบน 5.5, สุพรรณ หาดคำ 6, เทวา ศรีธรรมานุสาร 6.5, ไพโรจน์ อนันตณรงค์ 6 (ทัตพงษ์ หล้าธรรม 6), ปิยะวัฒน์ ทองแม้น 6.5 (อดาม่า โคเน่ 4), ปิยณัฐ โพธิ์ผา 6, วิเตอร์ อโมโร่ 6 (ประลอง สาวันดี 5.5), เอจี อเกนาวู ดิวาย 6, ยอน ดอง คิม 6.5, วุฒิชัย ทาทอง 6.5, หัตฐพร สุวรรณ 6

   แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : สันติ ไชยเผือก ปีกซ้ายของ พัทยา ยูไนเต็ด

 

 

แบงค็อก ยูไนเต็ด 0-0 เอสซีจี สมุทรสงคราม

 

    ที่สนาม ม.กรุงเทพ รังสิต "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด รองบ๊วยของตารางที่ตกชั้นแล้ว พบกับ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม อันดับ 8 ซึ่งมีอยู่ 41 แต้ม ถ้าชนะในเกมนี้ จะมีลุ้นถึงอันดับ 6 ได้เลย ในกรณีที่ พัทยา กับ โอสถสภา เกิดพลาดท่าเสมอ หรือแพ้คู่แข่ง
         เกมนี้ เอสซีจี มีการพักตัวหลักสำหรับการเล่นโตโยต้าลีกคัพ กับการท่าเรือไทย โดยมีการผสมเอาดาวรุ่งลงหลายคน โดยมี พัชรินทร์ สุขใส กับ ทรงวุฒิ บัวเพชร ที่คุมเกมแดนกลาง ฝั่ง แบงค็อก ยังคงเน้นชุดใหญ่ เพราะต้องการแต้มเช่นกันเพื่อหนีการเป็นบ๊วยของตาราง เกมนี้ยังถือว่ามีความหมายสำหรับทั้งสองทีม
         ครึ่งแรก น.2 ปลาทูคะนอง มีลุ้นก่อนจาก เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ ที่หลุดทางซ้ายซัดมุมแคบออกข้างเสา จากนั้นเกมยังไม่เร่งกันมาก น.10 เจ้าบ้านได้โอกาสจากกองหน้า แม็กซิม ที่พลิกพาบอลหลุดทางด้านขวา กระชากเข้าเขตโทษแล้วซัดเองบอลข้ามคาน
         เกมยังไม่มีอะไรหวือหวากันมาก เพราะต่างก็ใช้การต่อบอล และตัดเกมบริเวณกลางสนาม จึงแทบจะไม่ได้ลุ้นยิงประตูกัน น.21 แบงค็อก เกือบเฮ จาก กิตติศักดิ์ ศิริแว่น ได้บอลทางฝั่งซ้ายกึ่งยิงกึ่งผ่านมาเต็มแรงบอลผ่านเสาสองออกหลัง
         น.26 เอสซีจี สมุทรสงคราม เปลี่ยนตัววคนแรก เอา สิทธิพันธ์ ชุมช่วย แทน มงคล บัวแย้ม ที่เจ็บ น.28 แม็กซิม อีกครั้งกระชากทางขวาแล้วซัดเต็มแรงบอลถากเสาสองออกหลังอีก
         เจ้าบ้านเริ่มที่จะได้กดดันมากขึ้น น.30 วุฒิพงศ์ เกิดกุล ยิงจากนอกเขต บอลโด่งข้ามคาน น.36 แข้งเทพ ได้ฟาวล์ระยะ 30 หลา กิตติศักดิ์ ศิริแว่น ยิงเข้ามือ พุทธศาสน์ บุญปก 2 นาทีต่อมา แม็กซิม กองหน้าของแบงค็อกมีโอกาสอีก แต่ก็ซัดออกหลังไม่มีลุ้นอะไร จบครึ่งแรกทั้งสองทีม ยังเสมอกันอยู่ 0-0
         ครึ่งหลัง แบงค็อก ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวเอา กามาร่า แทน แม็กซิม โดยที่เกมยังเล่นกันเนือยๆ ด้วยการดูจังหวะเป็นส่วนใหญ่ น.50 ซารีฟ สายนุ้ย ของ แบงค็อก มีอาการเจ็บต้องเปลี่ยนเอา นรวิชญ์ ไก่แก้ว เล่นแทน
         น.58 รุ่งโรจน์ สว่างศรี ปราการหลังแข้งเทพ โดน ประหยัด บุญญา ฉกบอลจากเท้าก่อนไหลออกขวาให้ พัชรินทร์ สุขใส ซัดเต็มข้อบอลโด่งข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
         แม่กลองกด ดันต่อ น.60 มิเชล เปิดบอลจากขวา ประหยัด โขกบอลจะเสียบใต้คาน วีระ เกิดพุดซา รับสุดปลายมือ นาทีต่อมา เซเลสเตียน กองหลังปลาทูศอกไส่ นรวิชญ์ โดนเหลือง
         นาทีต่อมา กิตติศักดิ์ ศิริแว่น ของแบงค็อกเข้าชน เอกภูมิ โดนเหลืองบ้าง น.64 รุ่งโรจน์ ก็หวดไส่ สิทธิพันธ์ ไม่รอดใบเหลืองเช่นกัน ขณะที่ แบงค็อก มาเปลี่ยนตัวอีกรายใน น.65 ส่งแข้งญี่ปุ่น ฟูกาซาระ แทน วุฒิพงษ์ เกิดกุล
         น.68 แข้งเทพ มีลุ้นได้ประตู จากกิตติศักดิ์ ศิริแว่น ที่ได้บอลมาจากทางขวาแต่รีบยิงไปบอลข้ามคานอีก
         น.72 แบงค็อก เตะมุมทางซ้าย กามาร่า เปิดเสาสอง นรวิชญ์ ไก่แก้ว เข้ามาชาร์จบอลข้ามคานอย่างเหลือเชื่อ น.79 กามาร่า ของแบงค็อก หลุดทางซ้ายยิงมุมแคบติดมือ พุทธศาสน์ บุญปก จากนั้นปลาทูเปลี่ยนกลางเอา อรรถนพ ชัยแป้น แทน มิเชล
         โดยท้ายเกมแบงค็อกเร่งเครื่องขึ้น น.84 ฟูกิซาระ ซัดจากนอกเขตบอลออกข้างเสานิดเดียวเกมที่เหลือต่างก็ประคองตัวกัน หมดเวลาจึงเสมอกันไป 0-0 ทำให้เอสซีจี สมุทรสงคราม จบที่อันดับ 8 ในฤดูกาลนี้ ส่วนแบงค็อก เตรียมรอเพยล์ออฟหนีการตกชั้นต่อไป

     วาทะโค้ช
         ประพล พงษ์พานิช โค้ชแบงค็อก - เราเล่นประคองจะพลาดไม่ได้ด้วย เพราะใจก็อยากจะจบที่รองบ๊วยให้ได้ ซึ่งทางทหารบกเขาโดนนำอยู่เราก็ต้องเน้นเกมรับเต็มที่ ซึ่งก็สามารถทำได้ ส่วนจากนี้ไปก็ต้องซ้อมต่อเนื่อง เพราะเรายังมีเกมลีกคัพ และถ้ามีเพลย์ออฟก็พร้อมสำหรับการฟาดแข้ง
         สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือเอสซีจี สมุทรสงคราม - ก็พอใจแล้วในปีนี้ที่ได้อันดับ 8 จากเดิมที่หนีตายมาจากท้ายตาราง จนมาถึงขนาดนี้ วันนี้เราต้องพักตัวหลักทำให้เกมรุกเราไม่คมมากนัก เพื่อที่จะไปลุ้นในเกมลีกคัพ ที่เราหวังจะเข้ารอบลึกๆ ให้ได้

 คะแนนความสามารถนักเตะทั้งสองทีม
         แบงค็อก ยูไนเต็ด : วีระ เกิดพุดซา 6.5, วิทยา หมัดหลำ 7, กิตติศักดิ์ ศิริแว่น 7.5, ทรงศักดิ์ เฮมเขียว 6, วุฒิพงษ์ เกิดกุล 6 (ฟูกิซาระ 5), จิรนัฐ นนทเกษ 6, เช็ค อาบิบ โฟฟาน่า 7, ซารีฟ สายนุ้ย 6 (นรวิชญ์ ไก่แก้ว 5), รุ่งโรจน์ สว่างศรี 6, แม็กซิม มุนดูบู 5 (กามาร่า 5), รูเบน กุสตาโว่ 6.5
         เอสซีจี สมุทรสงคราม : พุทธศาสน์ บุญปก 6.5, ประหยัด บุญญา 6, อภินันท์ แก้วปีลา 6.5, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ 6 (กัณตภณ สมพิทยานุรักษ์-), พัชรินทร์ สุขใส 6.5, ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น 6.5, มิเชล ชาริน 6.5 (อรรถนพ ชัยแป้น-), มงคล บัวแย้ม - (สิทธิพันธ์ ชุมช่วย), เซเลสเตียน 6, ฮูมี่ เอลวิส 6, ทรงวุฒิ บัวเพชร 6.5

 

  แมน ออฟ เดอะ แมตช์ :  กิตติศักดิ์ ศิริแว่น กองกลางของ แบงค็อก ยูไนเต็ด