อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือตาคม อาร์เซน่อล ทนไม่ไหว จวกแหลกกรณี 2 ใบแดงฉาวของ ชาบี อลอนโซ่ และ เซร์คิโอ รามอส สองแข้งดัง เรอัล มาดริด เป็นการโกงเกมลูกหนังแบบหน้าด้านๆ ยันไม่ว่าเป็นทีมไหน หากทำเรื่องแบบนี้ สมควรโดนประณามเป็นอย่างยิ่ง และนี่อาจเป็นตัวอย่างสอนใจให้ทุกคนคิดได้ว่า อย่าเล่นสกปรกในวงการลูกหนังอีกเลย

     อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล สโมสรดังแห่ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ร่วมด้วยช่วยวิจารณ์การสืบสวนของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ต่อกรณีใบแดงอื้อฉาวของ ชาบี อลอนโซ่ ห้องเครื่องตัวเก่ง และ เซร์คิโอ รามอส แบ็กจอมบุก เรอัล มาดริด ระหว่างเกมถล่ม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 4-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม จี เมื่อวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
 
     จากใบแดงในเกมล่าสุดนั้น ทำให้ดาวเตะทีมชาติสเปนทั้งสองราย ถูกลงโทษห้ามลงสนามในเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม นัดดวลแข้ง โอแซร์ วันพุธที่ 8 ธันวาคมนี้ ก่อนกลับมาเป็นกำลังสำคัญ "ราชันชุดขาว" อีกครั้ง ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งมีหลายฝ่ายต่างออกมาวิจารณ์ว่า โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุเกส ได้สั่งลูกทีมทั้งคู่เรียกใบเหลืองที่สองแบบไม่จำเป็น ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน
 
     เวนเกอร์ ซึ่งอาจต้องพา "ไอ้ปืนใหญ่" ฟาดแข้ง มาดริด ในรอบน็อกเอาต์ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า "คุณไม่อยากเห็นเรื่องนี้หรอก มันน่าอายที่เห็นเรื่องนี้จากสโมสรยักษ์ใหญ่ และเมื่อคุณเห็นเรื่องนี้แล้ว โดนรวมๆ แล้ว มันนำพาภาพลักษณ์อันย่ำแย่ของเกมที่คุณไม่ต้องการมาให้ ผมเคารพ เรอัล มาดริด จากคุณภาพของพวกเขา สำหรับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ แต่ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด หรือทีมไหน คุณย่อมไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้ในสนามฟุตบอลอยู่แล้ว"
 
     เมื่อ ถูกถามว่า นี่เป็นการตั้งใจโกงหรือเปล่า โค้ชชาวน้ำหอม ตอบว่า "คุณสามารถเรียกมันว่าอะไรก็ได้ตามต้องการ แต่คุณย่อมไม่อยากเห็นมันในสนามฟุตบอล มันเหมือนกันเสมอแหละ ในสนามฟุตบอลแล้ว คุณย่อมอยากเคารพคนที่จ่ายเงินมาดูการแข่งขันฟุตบอล แล้วพวกเขาต้องการอะไรล่ะ? ก็ดูฟุตบอล ไม่ได้มาดูเรื่องแบบนี้ไง ไม่ว่าจะเป็น อาร์เซน่อล หรือ เรอัล มาดริด หรือใครก็ตาม คุณยอมรับไม่ได้อยู่แล้ว"
 
     "คุณพูดไม่ได้หรอกว่า มันไม่ได้ผ่านเข้ามาในใจของคุณ และคุณต้องซื่อสัตย์อย่างถ่องแท้กับเรื่องนี้ แต่เมื่อคุณเห็นมันในโทรทัศน์ ผมต้องบอกว่า ความจริงที่เกิดขึ้นนั้น เป็นการแสดงออกที่ดีที่สุดในการคิดกับตัวเองว่า "อย่าทำแบบนั้นอีกเลย" ผมไม่เคยคิดทำแบบนั้นเลย เพราะมันเหมือนเรื่องน่าขยะแขยงอันโจ่งแจ้ง"
 
     "เพราะ ว่ามันผ่านเข้ามาอยู่ในใจของคุณ หากคุณเล่นอีกสองแมตช์ถัดไป ซึ่งเป็นเกมใหญ่ที่สุดของฤดูกาล แล้วก็ต่อด้วยเกมที่ไม่มีความหมายหลังจากนั้น พวกนักเตะก็น่าจะถูกแบนได้ มันผ่านมาอยู่ในใจของคุณได้อยู่แล้ว แต่ผมคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดที่ทำให้คุณไม่ควรคิดถึงมัน เพราะมันดูเหมือนเรื่องแย่ๆ อย่างโต้งๆ กันเลยทีเดียว" นายใหญ่แห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ร่ายยาว