ที่สนามกีฬากลาง จ.พิจิตร "พญาชาละวัน" พิจิตร เอฟซี เปิดสนามรับการมาเยือนของ "นักรบลาวา" บุรีรัมย์ เอฟซี เกมนี้ เจ้าถิ่นขาดผู้เล่นตัวหลักอย่าง อำนาจ รักประเสริฐ ที่ติดโทษแบน ส่วนผู้เล่นที่ลงสนามนำโดย ศุภกร นาคน้อย, โอลิเวร่า, และ พิสิฐ ยืนยิ่ง ส่วน บุรีรัมย์ นำโดย ศุภกิจ จินะใจ, เกียรติชัย ศรีโปฎก และ อุกฤษณ์ วงศ์มีมา
 
     เริ่มเกมครึ่งแรก ก็มีประตูแรกเกิดขึ้นทันที จากลูกฟรีคิกตรงหัวกะโหลกกลางประตู เป็นทางด้าน ศิวพงษ์ เจริญศิลป์ ยิงอัดกำแพงทะลุเข้าไป แล้วเป็นทาง วิคเตอร์ เมนซ่า วิ่งมาซ้ำจ่อๆ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายให้กองเชียร์บุรีรัมย์ ได้เฮ ก่อน 1-0
 
     หลังจากเสียประตู พิจิตร เร่งกมบุกเข้าใส่ได้ลุ้นหลายครั้ง น.17 โคฟี่ เอ็ทซิบา ขึ้นเกมทางกราบขวา ก่อนเปิดไปหน้าประตูให้ ศุภกร นาคน้อย ได้โหม่ง แต่บอลย้อยไปตกหลังตาข่ายประตูอย่างน่าเสียดาย
 
     ผ่านเกมการแข่งขันไปกว่าครึ่งชั่วโมงแรก สกอร์ยังคงเป็น บุรีรัมย์ ที่ออกนำอยู่ รูปเกมเป็นทางด้านเจ้าถิ่น ที่เปิดเกมรุกบุกเข้าใส่ได้ชัดเจนมากกว่า หมด 45 นาทีแรก ไม่มีสกอร์เพิ่ม บุรีรัมย์ ยังบุกมานำ พิจิตร อยู่ 1-0
 
     ครึ่งเวลาหลัง น.55 พิจิตร เกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ ศุภกร นาคน้อย เบียดแย่งบอลกับกองหลังของบุรีรัมย์ จนมีโอกาสได้ซัด กลางเขตโทษแต่บอลไม่ตรงกรอบ
 
     เกมการแข่งขันยังคงเปิดแลกกันตลอดเกม น.82 บุรีรัมย์ ได้ลุ้นประตูที่สองจากลูกยิงของ เกียรติชัย ศรีโปฎก แต่ คำแก้ว โสภา ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นยังโชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกไปได้
 
     น.85 พิจิตรได้เสียวจากลูกยิงของ โคฟี่ เอ็ทซิบา บอลไปแฉลบหัวกองหลังทีมเยือนหวิดย้อยเข้าประตู
 
     น.87 ศุภกร ได้วอลเลย์นอกรอบเขตโทษ แต่ อุกฤษ ยังโชว์เหนียวปัดออกไปได้อีก หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม บุรีรัมย์ เอฟซี บุกมาเฉือนชนะ พิจิตร เอฟซี ไปได้ 1-0 

     หลังเกมการแข่งขัน สรศักดิ์ แรตสอน กุนซือ พิจิตร เอฟซี เผยว่า "เกมวันนี้ก็ต้องบอกว่าเราเล่นกันได้ดีแล้ว เสียแค่จังหวะจบทำกันไม่ได้เอง ที่ต้องฝากก็คือเรื่องของกรรมการอยากให้ช่วยพัฒนาเรื่องของการตัดสินให้เป็นกลางกว่านี้หน่อย เหลืออีกเกม เชื่อว่ายังมีลุ้นในการเตะเพลย์ออฟ เพราะเราจะเตะในบ้านรับ ตรัง ส่วนอีกทีม ม.รังสิตฯ จะไปเยือน บุรีรัมย์ เอฟซี คิดว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาดน่ามีลุ้น
 
     ด้าน เนวิน ชิดชอบ ที่ปรึกษาบุรีรัมย์ เอฟซี เผย "เป็นเกมที่นักเตะเล่นไม่ดีเท่าที่ควร จะเป็น แต่ 3 คะแนนที่ได้มาก็ถือว่าน่าพอใจ ขออีกเพียงแต้มเดียว ก็จะเป็นการการันตีในการเลื่อนชั้น แต่เกมหน้าเล่นในบ้านยังไงก็เล่นกันอย่างเต็มที่แน่นอน"

 
     ที่สนามกีฬา จ.สระบุรี "ขุนศึก" สระบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 3 ของสาย เอ เปิดบ้านพบกับ "พะยูนพิฆาต" ตรัง เอฟซี ทีมบ๊วยของตาราง เกมนี้ สระบุรี เอฟซี ตัวหลักแบนถึง 4 คน ส่วน ตรัง เอฟซี มาแบบฟูลทีม และนัดนี้เจ้าบ้านต้องการชัยชนะอย่างมาก เพื่อลุ้นเป็น 1 ใน 2 ทีมเลื่อนชั้นอัตโนมัติ
 
     เปิดเกมขึ้นมา ทั้งสองฝั่งก็เดินหน้าแลกกันทันที แต่ น.9 สระบุรี เอฟซี ก็ได้ประตูนำก่อน จาก มนัส ตัดสุนทร กระชากถึงเส้นหลังทางขวาเปิดมาหน้าประตู วาเลนไทน์ โกลตรัง เอฟซี ปัดไม่พ้นเข้าทาง เอกภพ สนิทวงษ์ ซัดไม่เหลือ สระบุรี เอฟซี 1-0
 
     เมื่อเสียประตูเกมของตรังเริ่มป่วน น.14 ก็มาโดนอีกเม็ด จากการทำชิ่งหน้าประตูหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ มนัส ตัดสุนทร ยิงไม่เหลือแค่ระยะ10 หลาให้เจ้าบ้านหนีไปเป็น 2-0
 
     น.21 สถานการณ์ของ ตรัง เอฟซี ก็ยิ่งแย่ลงอีกเหลือ 10 คน เมื่อ วาเลนไทน์ ผู้รักษาประตูถูกใบแดงในจังหวะออกมาตัดบอล แต่ดันไปรวบขา มนัส ตัดสุนทร ล้มลงในจังหวะหลุดเดี่ยว จากนั้น ตรัง เอฟซี ปรับทัพถอด กิตติพงษ์ รงรักษ์ ออกส่ง เอกวัตร นุ่นชูผล โกลสำรองลงไปแทน
 
     เกมของ ตรัง เอฟซี เริ่มต่อไม่ติด น.28 ก็พลาดอีก วาเลนดี้ เอ็นโจมัน กระชากบอลขึ้นทางริมเส้นขวาถึงเส้นหลัง หักมาหน้าประตูเลยมาถึงเสาสองเข้าทาง ศตวรรษ เตะบอลหาจังหวะซัดตูมเดียวเข้าไป สระบุรี เอฟซี หนีไป 3-0
 
     เสียไปสามเม็ดแต่นักเตะ ตรัง เอฟซี ยังไม่ท้อ พยายามต่อบอลสู้ ช่วงท้ายเกมทำได้ดี ตารุดดิน อุสมา ได้ส่องแต่ไม่ตรงกรอบ และจบครึ่งแรก สระบุรี เอฟซี นำ ตรัง เอฟซี 3-0
 
     ครึ่งหลังทีม ตรัง เอฟซี ลงมาเกมดีขึ้น มีโอกาสสร้างความปั่นป่วนได้เป็นระยะ แต่ก็ดีอยู่ได้แค่ 10 นาที จากนั้น สระบุรี เอฟซี เริ่มตั้งเกมได้และสามารถคุมเกมพับสนามบุกอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง น.70 ก็ได้ประตูอีกครั้งจากการแปโล่งๆ ของ มนัส ตัดสุนทร ให้ สระบุรี เอฟซี หนีไปเป็น 4-0
 
     ตรัง เอฟซี ที่เหลือผู้เล่นน้อยกว่าพยายามที่จะเปิดเกมแลกสู้แต่ในจังหวะสุดท้ายยังต่อไม่ติดทำให้จบเกม สระบุรี เอฟซี เอาชนะ ตรัง เอฟซี 4-0 

 
     หลังจบเกม ธชตวัน ศรีปาน กุนซือ สระบุรี เอฟซี กล่าวว่า เป็นเกมที่ง่ายกว่าที่คิด เพราะได้ประตูเร็ว และเด็กเล่นดีตามแผนที่วางไว้ นัดสุดท้ายก็เต็มที่พยายามเก็บ 3 แต้ม
 
     ด้าน ชรินทร์ เพชรฤทธิ์ กุนซือ ตรัง เอฟซี กล่าวว่า ทุกคนเล่นกันเต็มที่แล้ว ยอมรับ สระบุรี เอฟซี แข็งแกร่งกว่า และเราเองก็เสียประตูง่ายเกินไป นัดสุดท้ายก็ยังเต็มที่อยู่เพื่อศักดิ์ศรี และเตรียมทีมเอาไว้ฤดูกาลหน้าต่อไป
    

 
     ที่สนาม ม.กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต "เจ้าเวหา" ม.รังสิต-เจ.ดับบลิว. ทีมอันดับ 4 ของสาย เอ เปิดบ้านรับการมาเยือนของจ่าฝูง "พยัคฆ์ล้านนา" เชียงใหม่ เอฟซี โดยเกมนี้ หากทีมเยือนบุกมาเก็บ 3 คะแนนเต็ม พวกเขาจะเลื่อนชั้น สู่ดิวิชั่น 1 ในซีซั่นหน้าทันที ขณะที่เจ้าบ้านต้องการชัยชนะ เพื่อเพิ่มโอกาสในการจบอับดับ 4 ลุ้นเพลย์ออฟเลื่อนชั้นต่อไป
 
     เริ่มเกมครึ่งแรกเจ้าบ้านที่สถานการณ์บีบให้ต้องชนะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกมทันที ขณะที่ทีมเยือนเองไม่เกรงศักดิ์ศรีเจ้าถิ่น เปิดเกมรุกเข้าสู้ท่ามกลางกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย ที่เข้ามาให้กำลังใจทีมรักอย่างหนาตา
 
     เข้าสู่นาทีที่ 10 ของเกมเป็น "เจ้าเวหา" ที่มีโอกาสลุ้นประตูก่อนจากฟรีคิกระยะ 25 หลา กลางประตู ธาดา ทองท้วม รับหน้าที่สังหารบอลโค้งถากสามเหลี่ยมเสาสองออกหลังอย่างน่าเสียดาย
 
     แต่อีก 4 นาทีต่อมา "พยัคฆ์ล้านนา" ได้ลุ้นประตูบ้างจากการที่กองหลังเจ้าบ้านโหม่งสกัดบอลไม่ดีมาเข้าทาง ชนัตพล สิขะมณฑล แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยขวาเต็มแรงระยะ 18 หลา แต่ ณรงค์ วงศ์ทองคำ ยังปัดปลายมือออกหลังได้ทัน
 
     หลังจากผ่าน 20 นาทีแรกของการแข่งขันทีมเยือน เชียงใหม่ เอฟซี เริ่มครองเกมได้ดีกว่า มีการต่อบอลกันอย่างไหลลื่น ขณะที่ ม.รังสิต-เจ.ดับบลิว. แม้ว่าจะพยายามเปิดเกมเข้าใส่แต่ว่าการจ่ายบอลในแดนกลางยังขาดความแม่นยำต้องหันมาเน้นยิงไกลทำให้ไม่มีโอกาสสร้างความกดดันให้กับ พรรษา มีสัตย์ธรรม นายด่านของทีมเยือน มากเท่าที่ควร
 
     กระทั่งนาที 38 ทีมเยือนมาได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากการเปิดจากด้านขวาของ ธนพล นาตาแสง ไปหน้าประตูให้ จิปกัง คัทโชอัง โหม่งเช็ดส่งบอลเสียบเสาสองสวยงาม เชียงใหม่ เอฟซี บุกมานำก่อน 1-0
 
     ช่วงท้ายเกมเจ้าบ้านมีโอกาสลุ้นประตูตีเสมอจากลูกฟรีคิก ธาดา ทองท้วม เล่นสั้นให้ สมหมาย ไทรน้อย หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ว่ายังเข้าซอง พรรษา มีสัตย์ธรรม ทำให้จบครึ่งแรก เชียงใหม่ เอฟซี ยังนำ ม.รังสิตฯ อยู่ 1-0
 
     ครึ่งเวลาหลังเจ้าบ้านเปิดหน้าบุกแหลกหวังทวงประตูคืนทันที และเป็นฝ่ายครองเกมได้ดีกว่าในช่วงต้นแต่ว่าจังหวะสุดท้ายยังไม่แน่นอน ทำให้ พรรษา มีสัตย์ธรรม ยังไม่มีงานยากให้ต้องเหนื่อย ขณะที่ทีมเยือนอาศัยจังหวะรับแล้วโต้กลับเร็ว
 
     กระทั่งนาที 60 เจ้าบ้านน่าได้ประตูตีเสมออย่างยิ่งเมื่อ มงคล นกกาศักดิ์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงเน้นๆ ระยะแค่ 15 หลา แต่ว่า พรรษา ยังออกมาเร็วล้มตัวแหย่งเท้าสกัดบอลได้ทันทำให้ ม.รังสิตฯ พลาดการได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย
 
     นาที 72 ยังเป็นโอกาสลุ้นประตูของ "เจ้าเวหา" จากลูกเตะมุมทางกราบขวา อิทธิพล จันแปงเงิน รับหน้าที่เปิดไปหน้าประตูให้ เลสลี้ แอ๊ดเจด ได้โขกเต็มหัวบอลพุ่งกระดอนพื้นหลุดกรอบออกหลังไม่น่าเชื่อ
 
     ช่วงท้ายเกมเจ้าบ้าน ม.รังสิตฯ เป็นฝ่ายที่ครองเกมได้มากกว่าเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่โดยตลอด และน่าจะได้ประตูตีเสมอหลายครั้ง แต่ว่าไม่เฉียบคม
 
     กระทั่งนาที 89 ความหวังของเจ้าถิ่นต้องพังทะลายลงเมื่อ ณรงค์ วงศ์ทองคำ ผู้รักษาประตูของ ม.รังสิตฯ จ่ายบอลหน้าประตูพลาดมาเข้าทาง ศรันย์ ศรีเดช จับหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยซ้ายส่งบอลหนีมือผู้รักษาประตูเสียบเสาสองให้เชียงใหม่ เอฟซี นำห่าง 2-0
 
     นาที 90 เจ้าบ้านต้องเสียเปรียบมากไปอีกจากการที่ ศรันย์ ชุวัสวัส ตัวสำรองที่ลงมาใหม่ เกิดฟิวส์ขาดหวดผู้เล่นทีมเยือนโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป แม้ว่าช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ม.รังสิตฯ มามีลุ้นอีกครั้งจากจุดโทษของ สมหมาย ไทรน้อย ยิงให้ทีมไล่มาเป็น 1-2 แต่ไม่ทัน จบเกมเชียงใหม่ เอฟซี บุกมาเอาชนะ ม.รังสิต 2-1 เก็บสามคะแนนเต็ม นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มต่อไป พร้อมกับได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นดิวิชั่น 1 ในซีซั่นหน้าแน่นอนแล้ว 

     หลังเกมการแข่งขัน กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์ ผู้ฝึกสอน ม.รังสิตฯ กล่าวเปิดใจว่า "ผู้เล่นเราทุกคนทำได้ดีที่สุดแล้ว เราครองเกมได้เกือบทั้งหมด แต่ไม่สามารถจบสกอร์ได้ สถานการณ์ตอนนี้เราคงลุ้นเพลย์ออฟยากอย่างมากที่สุด เพียงการทำทีมเตรียมไว้ฤดูกาลหน้าเท่านั้น แต่ว่านัดสุดท้าย เราพร้อมจะเล่นเต็มที่ ซึ่งอาจจะมีการเซอร์ไพรส์ก็ได้"
 
     ขณะที่ สฤษดิ์ วุฒิช่วย กุนซือเชียงใหม่ เอฟซี กล่าวแสดงความยินดีกับผลงานของทีมหลังจบเกมว่า "ต้องยอมรับว่าวันนี้ ม.รังสิตฯ เล่นได้ดีกว่า และมีโอกาสมากกว่าเราหลายครั้ง นักเตะเราเล่นได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่การที่เราเก็บชัยชนะได้เป็นการการันตีว่าเราได้เลื่อนชั้นแน่นอน ต้องขอขอบคุณและแสดงความยินดีกับทุกฝ่ายที่ช่วยกันผลักดันจนทีมเราทำสำเร็จ นัดสุดท้ายเราได้เล่นในบ้านตัวเองด้วยทีมจะยังเล่นเต็มที่เพื่อเป็นของขวัญให้กับแฟนบอลที่ไม่ได้ตามมาร่วมยินดีกับเราใน