ลงเอยด้วยดี "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี พร้อมเดินหน้าลุยทุกรายการในปีหน้าอย่างไร้ปัญหา "บิ๊กเชฐ" พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสร ออกมาการันตีเอง คุยกับผู้ที่จะเข้ามาร่วมทุนลงตัวแล้วรอแถลงข่าวเร็วๆ นี้ พร้อมควัก 110 ล้าน ใช้หนี้ บ.การท่าเรือไทย เอฟซี จำกัด 50 ล้าน และให้งบทำทีม 60 ล้าน ยังไว้ใจ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ คุมต่อ ทุบสถิติไทยลีก รับเน้นๆ เดือนละ 5 แสน รั้ง "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี อยู่ล่าตาข่ายให้ทีมต่อ

 

       แฟนบอล "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี อันดับ 4 ไทยลีกซีซั่นล่าสุด รวมถึงเป็นเจ้าของถ้วยแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ หนที่ผ่านมาด้วย ได้เฮ เมื่อล่าสุดทีมมีข่าวดี กับผู้ที่จะเข้ามาร่วมทุนในฤดูกาลเรียบร้อยแล้ว หลังจากก่อหน้านี้ยังไม่มีความชัดเจน แถมมีข่าวออกมาอีกด้วยว่า "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ จะทิ้งทีมไปอยู่กับทีมใหม่ หลังจากที่เจ้าตัวออกมาให้ข่าวยังไม่มีความชัดเจน ทั้งกับการร่วมทุน และการให้การสนับสนุนของการท่าเรือ 

        แต่ล่าสุด "บิ๊กเชฐ" พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสร ออกมายืนยันกับ นสพ.สยามกีฬา ถึงอนาคตของทีม เพื่อบอกผ่านไปยังแฟนบอลของตัวเองว่า ผมอยากให้แฟนบอลทีมการท่าเรือไทย เอฟซี หมดความกังวลใจกับเรื่องของอนาคตของทีมฟุตบอล โดยฤดูกาลหน้าในไทยลีกครั้งที่ 15 นั้น ทีมเราจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีปัญหาใดๆ มารบกวนอย่างแน่นอน 

        โดยล่าสุดเรื่องของการจับมือกับกลุ่มทุน ที่จะเข้ามาให้การสนับสนุนทีมสำหรับฤดูกาลหน้านั้น ผ่านพ้นไปด้วยดีแล้ว เราจะมีการเปิดตัวผู้ร่วมทุนของเราเร็วๆ วันนี้ หากสามารถทำได้ก่อนสิ้นปีก็จะทำ แต่หากไม่ทัน ก็จะมีการเปิดแถลงข่าวช่วงต้นปี อาจจะเป็นวันที่ 4 ม.ค. 54 ที่ทีมจะเริ่มกลับมาเข้าซ้อม เพื่อเตรียมทีมสำหรับฤดูกาลใหม่กันอีกครั้งทันทีก็ได้"

    

ใช้หนี้ให้ 50 ล.,ทำทีมอีก 60 ล.

       "บิ๊กเชฐ" กล่าวอีกด้วยว่า สำหรับผู้ที่จะเข้ามาร่วมทุนนั้น ผมขอเก็บเป็นความลับไว้ก่อน ยังไม่เปิดเผยขณะนี้ ถึงวันแถลงข่าวเมื่อไหร่ จะได้รับทราบอย่างแน่นอนว่าเป็นใคร โดยไม่ได้เป็นสินค้าแต่อย่างใด ซึ่งงบประมาณที่เขาจะเข้ามาร่วมทุนกับทีมผ่านทาง บ.การท่าเรือไทย เอฟซี จำกัด นั้นจะเป็นเม็ดเงินก้อนใหญ่ถึง 110 ล้านบาท เลยทีเดียว 

        แยกเป็นเงินที่เราจะนำไปใช้หนี้ให้กับ บ.การท่าเรือไทย เอฟซี จำกัด ที่มีหนี้อยู่ถึงราว 50 ล้านบาท อันเป็นหนี้ที่เกิดจากการปรับปรุงสนามใหม่ ให้เป็นเหมือนเช่นทุกวันนี้ รวมไปถึงรวมไปถึงเงินที่ บ.การท่าเรือไทย เอฟซี จำกัด ได้ไปกู้ยืมมาจากแหล่งต่างๆ เพื่อนำมาสำรองจ่ายเงินเดือนให้กับนักเตะ 

       นอกเหนือจากผู้ร่วมทุนของเราจะเข้ามาเคลียร์หนี้ให้ทั้งหมดแล้ว ยังจะให้งบทำทีมอีกราว 60 ล้านบาทต่อปีอีกด้วย ซึ่งคาดว่าปีหน้าเราจะใช้ประมาณตกเดือนละ 5 ล้านบาท ในการทำทีมสู้ศึกทุกรายการที่ลงแข่ง หลังจากปีก่อนใช้ไปแค่ราวเดือนละ 3 ล้านบาทเท่านั้น

       เท่ากับต่อจากนี้ไป ทีมจะมีการบริหารอย่างเป็นเอกเทศจาก บ.การท่าเรือไทย เอฟซี จำกัด กับผู้ที่จะเข้ามาร่วมทุนกับเรา ส่วนการท่าเรือแห่งประเทศไทยนั้น เราจะสัญญาเช่าสนามแพท สเตเดี้ยม เป็นลายลักษณ์อักษร เร็วๆ นี้ ว่าจะให้ บ.การท่าเรือไทย เอฟซี จำกัด เช่าด้วยอัตราค่าเช่าเท่าไหร่ เป็นระยะเวลากี่ปี"

    

"เตี้ย" นั่งกุนซือต่อ รับเดือนละครึ่งล้าน

        สำหรับผู้ที่จะเข้ามาเป็นกุนซือใหญ่ให้กับทีมในฤดูกาลหน้านั้น นายใหญ่ทีม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ยืนยันมาแล้วว่า จะยังคงใช้บริการ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ให้รับหน้าที่คุมทีมต่อไปตามเดิมในฐานะกุนซือใหญ่ โดย "บิ๊กเชฐ" จะยังคงรับหน้าที่เป็นประธานสโมสรต่อไปตามเดิม และเป็นประธาน บ.การท่าเรือไทย เอฟซี จำกัด อีกด้วยตามเดิม

       ขณะที่ค่าเหนื่อยที่ทีมจะจ่ายให้กับ "โค้ชเตี้ย" นั้นถือว่าสร้างความฮือฮา ให้กับวงการลูกหนังไทยเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้กุนซือมาดยียวนผู้นี้ ที่ได้รับฉายาว่า "มูรินโญ่" เมืองไทย เป็นเจ้าของสถิติโค้ช ที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดในไทยลีกเลยทีเดียว 

       โดยมีการยืนยันมาจากแหล่งข่าวว่า "โค้ชเตี้ย" จะได้รับค่าจ้างในการดูแลทีมในฐานะ ผจก.ทีม หรือโค้ชใหญ่ถึงเดือนละ 5 แสนบาทเลยทีเดียว จะทำให้ปี 54 กุนซือผู้นี้ จะได้รับเงินจากการคุมทัพการท่าเรือไทย เอฟซี ก้อนโตเป็นประวัติการถึง 6 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว

    

รั้ง "โจ้" อยู่ต่อนัดคุยตัวเลขเร็วๆ นี้

        ส่วนกรณีที่มีข่าวออกมาจากปากของ "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี ว่าตัวเขาเองที่หมดสัญญากับทีมสิ้นปี 53 นี้ จะไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมการท่าเรือไทยต่อไป และมีการออกมายืนยันจากเจ้าตัวว่า มี 3 ทีมเป็นตัวเลือกคือ บางกอกกล๊าส เอฟซี, อินทรีเพื่อนตำรวจ, เอสซีจี สมุทรสงคราม ซึ่งหนุ่มโจ้บอกว่าจะเปิดเผยหลังปีใหม่นี้

       ล่าสุดในเรื่องนี้ "บิ๊กเชฐ" ออกมากล่าวว่า ผมยังอยากจะให้ "โจ้" เขาอยู่ร่วมกับทีมเราต่อไป เพราะเขาคือหัวใจสำคัญของทีม ที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในฤดูกาลที่ผ่านมา ล่าสุดที่ได้คุยกันเขาบอกว่าพร้อมจะเข้ามาคุยกับผม ซึ่งจะทำให้เราได้คุยกันว่า เขาต้องการค่าเหนื่อยใหม่เท่าไหร่ ซึ่งเราพร้อมจะดูข้อเสนอของเขา เราจะทำทุกอย่างเพื่อโนวน้าวให้เขาอยู่เป็นนักเตะที่เป็นทีเด็ด ในเกมรุกให้กับเราต่อไปให้ได้