การประชุมสัมมาความพร้อมการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพซีซั่น 2011 ได้ฤกษ์คลอดโปรแกรมไทยลีก กิเลน รับขวัญ อาร์มี่ฯ, ฉลามชล,  ปราสาทสายฟ้า งานหนัก ส่วน 3 ทีมน้องใหม่โชคดีได้เล่นในบบ้านทั้งหมด แต่โปรแกรมดิวิชั่น 1 ยังไม่ลงตัวเรื่องสนามรอประกาศในสัปดาห์หน้า

การประชุมสัมการเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพประจำปี 2554 ณ ห้อง เวิร์ด บอลลูม ชั่น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์โดยมี "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก, นายพีระ ฟองดาวิรัตน์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และ "บิ๊กย้อย"  พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญาชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยบรรดาตัวแทนทีมจากศึกไทยพรีเมียร์ลีกและดิวิชั่นก็มากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา 
 
โควต้าแข้งนอกตามเดิมเพิ่มสำรอง

เริ่มต้นการสัมมาฯ ด้วย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ปธ.ไทยพรีเมียร์ลีก ได้กล่าวว่า ในเรื่องของกฎระเบียบการแข่งขันในปีนี้ (2554) ยังคงเข้มเหมือนเดิม โดยเฉพาะโควต้านักเตะต่างชาติที่ยังคงเดิมคือ ไทยพรีมเมียร์ลีกใช้โควต้า 7 ลง 5 ส่วนในศึกดิวิชั่น 1 ใช้โควต้า 3 บวก 1 ส่วนกฏทีมีการเปลี่ยนแปลงคือจำนวนผู้เล่นสำรองในแต่ละเกม ซึ่งจะมีทั้งหมด 7 ราย และเมื่อรวมกับผู้เล่นในสนามอีก 11 ราย จะทำให้ในซุ้มม้านั่งสำรองมีผู้เล่นทั้งหมด 18 รายที่สามารถเข้ามาอยู่ในส่วนนี้ได้เท่านั้น
 
เอาจริงเรื่องสนามพร้อมกว่าปีที่แล้ว

สำหรับเรื่องของสนาม ดร.วิชิต ได้กล่าวเช่นกันว่า เริ่มตั้งแต่พื้นสนามต้องไม่ขรุขระ ซึ่งเมื่อสนามดีจะส่งผลให้เกมการแข่งขันออกมาสวยงามด้วย ถัดมาคือเรื่องของไฟสนามที่ฤดูกาลมีความสำคัญมาก เนื่องจากมีการถ่ายทอดสด ทำให้สนามของแต่ละทีมที่ต้องลงเล่นในเวลา 18.00 น.ต้องผ่านมาตรฐานที่ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก กำหนดคือต้องมีความส่องสว่างอย่างต่ำ 600 ลักซ์ ทั้งนี้ก็เพื่ออำนวยความสะดวกในการมองเกมการแข่งขันของผู้ตัดสินอีกด้วย
 
ยันไทยลีกมีถ่ายทอดสดทุกเกม

พร้อมกันนี้ ดร.วิชิต ยังได้กล่าวถึงการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลในปีนี้ด้วยว่า สำหรับการแข่งขันฟุตบอลในศึกไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2011 ที่จะเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ตนขอยืนยันว่าจะมีการถ่ายทอดสดทุกแมตซ์อย่างแน่นอน ซึ่งก็จะทำให้แต่ละเกมที่ไทยลีกแข่งขันแฟนบอลที่ไม่สะดวกมาชมเกมในสนามก็สามารถรับผ่านทางโทรทัศน์ได้อีกหนึ่งช่องทาง ส่วนในศึกดิวิชั่น 1 นั้นนโยบายการถ่ายทอดสดนั้น ณ ตอนนี้มีเพียงแค่บางเกมที่มีความสำคัญๆ เท่านั้นถึงจะมีการถ่ายทอดสด
 
เน้นความปลอดภัยเป็นหน้าที่เจ้าบ้าน

ส่วนเรื่องของความวุ่นวายในระหว่างเกมการแข่งขันนั้น ดร.วิชิต ได้ชี้แจ้งว่า เรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของทีมเจ้าบ้านที่ดูแลการแข่งขันตั้งแต่ต้นเกมไปจนถึงจบเกมการแข่งขัน โดยต้องมีเจ้าหน้าอย่างน้อย 10 รายไม่ว่าเกมการแข่งขันจะผู้ชมหรือไม่ก็ตาม แต่ทั้งนี้ถ้าหากในเกมที่มีผู้ชมเกินหลัก 1,000 คนให้เพิ่มหน่วยรักษาความปลอดภัยได้เรื่อยๆ หรือจะเพิ่มในอัตรา 3 / 1,000 รายก็ได้ พร้อมกันนี้หากเกิดอันใดในสนามที่ดูแล้วไม่น่าไว้วางใจทางผู้ตัดสินหรือแมตซ์คอมฯสามารถยกเลิกการแข่งขันได้ในทันทีด้วย
 
เดดไลน์ตลาดนักเตะ 9 ก.พ.นี้

ส่วนในเรื่องของตลาดซื้อขายนักเตะที่เปิดมาได้สักระยะแล้ว และจะทำการปิดลงในวันที่ 9 ก.พ.นี้เท่านั้น ซึ่งตนอยากจะวอนให้บรรดาทีมต่างๆ ช่วยเร่งรัดเคลียร์เรื่องการโยกย้ายนักเตะให้เสร็จก่อนกำหนดด้วย ดังนั้นถ้าหากเกิดมีปัญหาในเรื่องของสัญญาต่างๆ ยังไม่แล้วเสร็จจะขอพิจารณาเป็นกรณีไปเท่านั้น
 
ย้ำเชิ้ตดำต้องทำงานเข้มขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ""ดร.วิชิตยังได้ชี้แจ้งเรื่องผู้ตัดสินด้วยว่า ต้องมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน เริ่มตั้งแต่การเปิดคัดต้องให้ระบบการตัดสินของฟีฟ่าเข้ามาช่วยด้วย ที่สำคัญอาจจะมีการเพิ่มผู้ตัดสินที่อยู่หลังประตูด้วย ซึ่งยังต้องให้ทางฟีฟ่าอนุมัติก่อน แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องของอัตราว่าจ้างผู้ตัดสินคงจะปรับเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำงานให้กับบรรดาเหล่าเชิ้ตดำทั้งหมาย อีกทั้งยังมีรางวัลผู้ตัดสินยอดเยี่ยมมอบให้ด้วยหลังจากการแข่งขันจบลง ซึ่งก็เชื่อว่าน่าจะส่งผลดีต่อต่อการตัดสินอย่างแน่นอน

คลอดโปรแกรมไทยลีก,ด.1ยังไม่ลงตัว

ช่วงสุดท้ายของการสัมนาไทยลีกได้มีการคลอดโปรแกรมไทยลีกออกมาเป็นครั้งแรกด้วย โดยการแข่งขันในเกมแรกจะเริ่มขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ โดยผลการจับฉลากเกมแรกของไทยลีกมีดังต่อไปนี้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด พบกับ เมืองทองฯ, พัทยา ยูไนเต็ด พบกับบางกอกกล๊าส เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี พบกับ การท่าเรือไทย เอฟซี, ขอนแก่น พบกับโอสถฯ สระบุรี, เพื่อตำรวจ พบกับ ทีโอที, บีอีซี เทโรศาสน พบกับ บุรีรัมย์พีอีเอ, เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ ทีทีเอ็ม พิจิตร, ศรีสะเกษ เอฟซี พบกับราชนาวี ระยอง และ ศรีราชา เอฟซี พบกับ เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี
 
ส่วนโปรแกรมการแข่งขันในศึกดิวิชั่น 1 นั้น ดร.วิชิต ได้กล่าวว่า คงจะต้องมีการประกาศอีกครั้ง เนื่องจากบางทีมยังไม่แน่นอนในเรื่องของสนามที่บางทีมไปตรงกับทีมในไทยลีก และยังมีทีมที่ยังต้องเล่นเพลย์ออฟกันด้วย แต่อย่างไรก็ตามสัปดาห์หน้าคงจะประกาศโปรแกรมดิวิชั่น 1 ได้อย่างแน่นอน

นัดแรกกิเลนเลื่อน5มี.ค. ท่าเรือ19ก.พ.

ส่วนโปรแกรมคู่ระหว่าง อาร์มี่ ยูไนเต็ด กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีพีแอลตัดสินใจเลื่อนให้ไปเตะกันในวันที่ 5 มี.ค. เนื่องจากวันที่ 12 ก.พ. ตรงกับคิวเตะ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกรอบเพลย์ออฟที่ “กิเลนผยอง”ต้องออกไปเยือนศรีวิจาย่า ที่อินโดนีเซีย และหากผ่านเข้ารอบจะเล่นอีก 1 นัดในบ้านวันที่ 19 ก.พ. ขณะที่ คู่ ชลบุรี กับ การท่าเรือไทย เอฟซี ถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 19 ก.พ. ทั้งนี้เพราะ “สิงห์เจ้าท่า”ต้องลงทำศึกโตโยต้าพรีเมียร์คัพกับ โชนัน เบลมาเร่ วันที่ 13 ก.พ.
 
บิ๊กย้อยลั่นเพิ่มกฎตัดแต้ม

สุดท้ายนี้เป็น "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญาชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวในเรื่องของบทลงโทษสำหรับการแข่งขันในฤดูกาลนี้ด้วยว่า เรื่องของโทษปรับในปีนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นระหว่างนักเตะกับนักเตะ, นักเตะกับทีมงานสต๊าฟโค้ช ฯลฯ ตนขอยืนยันว่าต้องโดนบทลงโทษที่หนักกว่าฤดูกาลที่แล้วเป็น 2 เท่าอย่างแน่นอน และที่สำคัญในฤดูกาลนี้จะมีกฎเหล็กในเรื่องของการตัดแต้มเข้ามาด้วยอย่างแน่นอน และหากหลังเกมมีรายงานเรื่องความผิดเพิ่มเติมจากผู้ตัดสินและแมตซ์คอมฯ ก็จะมีการลงโทษย้อนหลังตามมาด้วยแน่นอน
 
แฟนแห่ชมงานเอ็กซ์โปคึกคัก

ในส่วนของบรรยากาศงานมหกรรมฟุตบอลแห่งชาติ "ไทยฟุตบอล เอ็กซ์โป แอนด์ อะวอร์ด 2011" ที่เริ่มกิจกรรมในช่วงบ่ายนั้นเป้นไปอย่างคุกคัก เนื่องจากมีกิจกรรมต่างๆ ให้ร่วมสนุกกันอย่างมากมาย เช่นฟุตซอลคู่พิเศษระหว่าง นักเตะทีมชาติไทย ปะทะแข้งกับสาวๆ เกิร์ล เน็กซ์ ดอร์ การแสดงคอนเสิร์ตบนเวทีแต่ที่ผู้เข้าชมให้ความสนใจเป้นอย่างมากคือบูธของที่ระลึกของทีมฟุตบอลต่างที่นำมาออกร้านมีผู้คนให้ความสนใจเลือกชมและซื้อหากันอย่างคึกคัก รวมทั้งมีการเล่นเมชิงของที่ระลึกตางๆ ด้วย ขณะที่ภายในห้างเซ็นทรัลเวิลด์มีนิทรรศการฟุตบอลไทยตั้งแต่อดีต

 "ชุมพล" เดินทางมาเปิดงาน

ในชวงเวลา 18.00 น.ได้มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการได้รับเกียรติจากนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่รยวและกีฬาเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดพร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติอย่าง นายกนกพันธ์ จุลเกษมผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย นายวรวีร์ มะกูดีนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง

กิเลนแชมป์ไทยลีกรับ 10 ล.

ในส่วนของพิธีการมอบเงินรางวัลให้กับทีมในระดับไทยพรีเมียร์ลีกนั้นประกอบไปด้วย แชมป์ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด รับเงิน 10 ล้านบาท รองแชมป์บุรีรัมย์ พีอีเอ รับเงิน 2 ล้านบาท อันดับสาม ชลบุรี เอฟซี รับเงิน 1.5 ล้านบาท  อันดับสี่ การท่าเรือไทย เอฟซี รับเงิน 8 แสนบาท  อันดับห้า บางกอกกล๊าส เอฟซี รับเงิน 7 แสนบาท อันดับหก พัทยา ยูไนเต็ด รับเงิน 6 แสนบาท  อันดับเจ็ด โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี รับเงิน 5 แสนบาท  อันดับแปด เอสซีจี สมุทรสงคราม รับเงิน 4 แสนบาท
 
ด้านของบุคคลที่ได้รับรางวัลพิเศษประกอบไปด้วย ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมเรเน่ เดอซาเยียร์ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด  นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม ภูริฑัตจาริกานนท์ ชลบุรี เอฟซี   ผู้ทำประตูสูงสุด ลูโดวิค าคาม พัทยา ยูไนเต็ด  ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม กวิน ธธรมสัจจานันท์ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด  กองหลังยอดเยี่ยม ณัฐพร กพันธุ์ฤทธิ์ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด กองกลางยอดเยี่ยมเทิดศักดิ์ ใจมั่น ชลบุรี เอฟซี
 กองหน้ายอดเยี่ยม ศรายุทธ ชัยคำดี การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมมารยาทยอดเยี่ยม รับเงินพิเศษอีก 5 หมื่นบาท โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี
 
ด.1 ศรีราชากวาดสี่รางวัล

เงินรางวัลของทีม ระดับดิวชั่น 1 ประกอบไปด้วย แชมป์ ศรีาชา เอฟซี รับเงิน 1.5 ล้านบาท รองแชมป์ ขอนแก่นเอฟซี รับเงิน 1 ล้านบาท อันดับสาม เชียงราย ยูไนเต็ด รับเงิน 7 แสนบาทอันดับสี่ สงขลา เอฟซี 2 แสนบาท อันดับห้า นครปฐม เอฟซี รับเงิน 5 หมื่นบาทอันดับหก แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด รับเงิน 3 หมื่นบาท อันดับเจ็ดศุลกากร เงิน 2 หมื่นบาท
โค้ชยอดเยี่ยม ทรงยศ กลิ่นศรีสุข ศรีราชา เอฟซี  ดาวรุ่งยอดเยี่ยม สุรชาติสิงห์โหง่น ขอนแก่น เอฟซี ดาวซัลโว ชัยณรงค์ ทาทอง จุฬา ยูไนเต็ด  ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม นันทพล ศุภไทย ศรีราชา เอฟซี กองหลังยอดเยี่ยมสุจริต จันทกล ศรีราชา เอฟซี  กองกลางยอดเยี่ยม แนุวัฒน์ อินยิน แอร์ฟอร์ซยูไนเต็ด กองหน้ายอดเยี่ยม วสันต์ นาทะสัน เชียงราย ยูไนเต็ดทีมมารยาทยอดเยี่ยมรับเงิน 2 หมื่นบาท สุวรรณภูมิ ศุลกากร

ท่าเรือแชมป์โตโยต้ารับ 5 ล้าน

ฟุตบอลโตโยต้าลีกคัพ 2010 แชมป์การท่าเรือไทย เอฟซี รับเงิน 5 ล้านบาท รองแชมป์ บุรีรัมย์ พีอีเอ รับเงิน 1 ล้านบาท ส่วนรางวัลฟุตบอลลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 แชมป์ บุรีรัมย์ เอฟซีรับเงิน 1 ล้านบาท รองแชมป์ เอฟซี ภูเก็ต รับเงิน 5 แสนบาท อันดับสามเชียงใหม่ เอฟซี รับเงิน 3 แสนบาท อันดับสี่ ชัยนาท เอฟซี รับเงิน 2 แสนบาท