“แพง ขวัญข้าว” งดแสดงความคิดเห็นหลัง “สันติ เศวตวิมล” ผู้เป็นพ่อเขียนคอลัมน์แก้ต่างหลังคนอื่นเข้าใจไปถ่ายนู้ด พร้อมไม่ขอยุ่งกรณี “ขวัญข้าว กานต์พิชชา” ออกอาการไม่พอใจบิดาเหตุเข้าใจว่าถูกพาดพิง
      
กลายเป็นเรื่องใหญ่โตหลังจากที่ “สันติ เศวตวิมล” คอลัมน์นิสต์ชื่อดังได้เขียนบทความเรื่อง “แพง ขวัญข้าว...แพง กานต์พิชชา คนละขวัญ คนละข้าวอย่าเข้าใจผิด” ลงหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง โดยมีเนื้อหาแก้ต่างให้ลูกสาว“แพง ขวัญข้าว เศวตวิมล” พร้อมกับบรรยายเกียรติคุณและศักดิ์ศรีของลูกสาว รวมไปถึงชาติตระกูลของตนเองเสร็จสรรพ์ หลังหลายคนเข้าใจผิดว่าลูกสาวของตนนั้นไปถ่ายแบบนู้ดให้กับนิตยสารสลิมคัพ แต่ที่จริงแล้วคนที่ถ่ายแบบให้กับนิตยสารดังกล่าวนั้นคือ “ขวัญข้าว กานต์พิชชา สถาปิตานนท์” ที่ชื่อเล่นเหมือนลูกสาวตนต่างหาก จากกรณีดังกล่าวสร้างความไม่พอใจ ให้กับผู้ที่ถูกพาดพิงถึงอย่างขวัญข้าว กานต์พิชชา อย่างจัง เป็นเหตุให้เจ้าตัวปรี๊ดแตกร้องห่มร้องไห้ที่ถูกแม่ช้อยนางรำเขียนบทความ ดูถูกดูแคลนศักดิ์ศรีของตนและวงศ์ตระกูล
      
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เจอกับสาวแพง ขวัญข้าวจึงสอบถามถึงกรณีดังกล่าว งานนี้เจ้าตัวถึงกับส่ายหัวไม่ขออกความคิด เห็นใดๆ กับเรื่องดังกล่าวแม้แต่กรณีเดียว บอกแต่เพียงทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว
      
“เรื่องนี้ก็พอจะทราบเหมือนกัน แต่เราก็มีหน้าทีที่ต้องทำ พี่ๆ นักข่าวก็มีหน้าทีที่ต้องสัมภาษณ์ แพงเองเป็นพิธีกรก็มีหน้าที่ดำเนินรายการ ทุกคนมีหน้าที่ของแต่ละคน แพงไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ กับเรื่องดังกล่าวแพงก็ได้คุยกับคุณพ่อเหมือนกันแต่ ไม่มีอะไรค่ะ คือแพงไม่พูดดีกว่า แพงไม่อยากพูดให้มันเป็นเรื่อง ขอไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้จะดีที่สุดค่ะ”
      
“ส่วนเรื่องที่เขาถ่ายแบบเซ็กซี่แล้วคนคิดว่าเป็นเรามันส่งผลกระทบมาถึงไหม อืมพี่ๆเองก็รู้อยู่ว่ามันอะไรยังไง แพงไม่ขอพูดแล้วกันค่ะ ขอไม่ออกความเห็นเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องไม่อยากให้เป็นกระแส ไม่มีความเห็นอะไรทั้งสิ้นกับเรื่องนี้จริงๆ ค่ะ แค่อยากจะบอกว่าทุกคนมีหน้าที่ของทุกคนที่ต้องทำ อย่างคุณพ่อแพงก็มีหน้าที่เป็นนักหนังสือพิมพ์มีหน้าที่ที่จะต้องวิจารณ์ก็ ถือว่าท่านได้ทำหน้าที่ของตัวเองแค่นั้นค่ะ เราแบ่งแยกกันถูก ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ตามแต่แพงไม่อยากตอบโต้เพราะแพงไม่อยากมีเรื่อง ขอไม่พูดไม่ออกความเห็นใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยดีกว่า”
      
“ที่ไม่ยุ่งและไม่ออกความเห็น ไม่ใช่ว่าคุณพ่อสั่งห้ามหรือว่าอะไรนะคะ แพงว่าไม่พูดดีที่สุดระหว่างแพงกับคุณพ่ออย่างที่บอกว่าเราคุยกันแล้ว เราชินเราอยู่ในวงการนี้มานานเรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร แพงเลยไม่ขอออกความเห็นอะไร ไม่ตอบโต้ไม่วิจารณ์จะเป็นการดีที่สุดนะคะ”
      
ไม่ขอออกความเห็นกรณีที่เซ็นเซทีฟ อย่างเรื่องวงศ์ตระกูล แต่ยอมรับจากกรณีดังกล่าวทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นตนที่ถ่ายแบบนู้ด ยืนยันไม่คิดจะถ่ายแนวเซ็กซี่แน่นอน
      
“เรื่องที่พูดถึงวงศ์ตระกูลคงไม่มีอะไรต้องตอบกับเรื่องนี้ แพงขอร้องจริงๆแพงขอไม่ตอบไม่ให้ความเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยจะดีที่ สุด ส่วนที่เขาก็คุณแม่ออกมาตอบโต้ตัวแพงไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้แค่ว่าทำไมถึงเป็นข่าวขึ้นมา พอดีว่าเพื่อนโทรมาบอก ที่ผ่านมาแพงเองก็ไม่เคยออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับใครแล้วเกี่ยวกับกรณีนี้ แล้วแพงว่าพูดไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ใครอยากจะร้องอยากจะพูดอะไรมันก็เป็นสิทธิของเขา แล้วแพงเชื่อว่าทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีความเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยจริงๆคะ”
      
“แต่ต้องยอมรับว่ามีคนเข้าใจผิดเยอะว่าแพงไม่เป็นอย่างนั้นจริงๆ นะคะอันนี้ เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ ขนาดพี่นักข่าวยังเข้าใจผิดกันเลย แต่ก็ไม่เป็นไรตัวแพงไม่ได้แคร์ เพราะมันก็คนละคนกันเลย ทุกอย่างอยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคนมากกว่า เลยต้องออกมาปกป้องตัวเองบ้างไหม ไม่เอาไม่พูดจริงๆ แพงไม่ขอออกความเห็น ไม่เอามันไม่ใช่เรื่องของเรา มันไม่ผิดนะที่เขาจะมาชื่อเดียวกับเรา แต่แพงไม่ขอยุ่งดีกว่า อยู่แบบนี้สบายกว่า ขอมีแต่เรื่องดีๆเข้ามา ไม่อยากให้ไปกระทบอะไรใคร ส่วนเรื่องจะไปถ่ายเซ็กซี่นี่ไม่มีทางแน่นอน ไม่มีแน่ๆ เพราะโดนหลายด่านแน่ ไม่มีอะไรให้โชว์ด้วย คุณพ่อห้ามไหมมันเป็นเรื่องหลายๆ อย่าง”
      
ส่วนความรักกับแฟนหนุ่มฝรั่ง "แดเนียล ดานิเอล เบลสซิ่ง" เจ้าตัวยังไม่ขอเปิดปากหมกเม็ดความสัมพันธ์ แต่แย้มพาฝ่ายชายไปรู้จักกับครอบครัวแล้ว
      
“ส่วนเรื่องความรักตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกัน แพงแฮปปี้กับการทำงาน วาเลนไทน์ไม่มีแพลนไปไหนค่ะ ความสัมพันธ์ก็ยังไม่มีอะไรค่ะ แพงไม่ได้อินเรื่องความรัก อยากใช้ชีวิตปกติ ไม่ใช่ว่าไม่กล้าเปิดนะคะ แพงว่าบางทีเราพูดอะไรเยอะๆ ไปมันก็ไม่ดี มันไม่ใช่เรื่อง แพงว่าปล่อยมันไว้เฉยๆ ให้มันเป็นเรื่องของเรา ให้มันเป็นในสิ่งที่มันควรจะเป็นดีกว่าค่ะ ไม่ใช่ที่แพงปิดเพราะว่าเข็ดกับความรักครั้งก่อนนะคะ ไม่เข็ดค่ะลืมมันไปหมดแล้ว มันเหมือนกับพอเราโตขึ้นจุดที่เราโฟกัสมันก็เปลี่ยนไป เหมือนเราอยากจะทำอะไรให้ดีๆ ให้ประสบความสำเร็จ ก็ดูๆ กันไป เราเองก็รู้จักมานานแล้ว ก็สนิทกันอย่าไปหาคำจำกัดความอะไรมันเลยจะดีกว่าค่ะ เขาก็เป็นคนดี แต่ไม่ใช่ว่าคนนี้ยังไม่ชัวร์เลยไม่กล้าเปิด เราคบกันแบบชิลล์ๆ ค่ะ”
      
“ใครดีกับเราเราก็ดูไปไม่อยากจะให้อะไรมาจำกัด เพราะเคยจำกัดมาแล้ว แล้วมันเป็นไงล่ะ พอครั้งนี้ก็เลยอยากชิลล์ๆ สบายๆ เขาเองก็รู้จักกับครอบครัวแพงค่ะ ก็เคยไปทานข้าวกัน แพงเองก็พยายามมองว่าเราจะต้องเจอทั้งข่าวดีและข่าวไม่ดี แต่ถ้าอะไรที่มันจะไม่ดีแพงก็ไม่ขอออกความคิดเห็นดีกว่า แพงว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว”