มุนเซ่ อุลริช โชว์เหวอไป 2 ลูกจนทำ การท่าเรือไทย เอฟซี พังไม่เป็นท่า โดน ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้าขยี้ 2-0 พิภพ ,คูชิดะ เก็บนิ่มๆ  โค้ชเฮงรับดวงเฮงสมชื่อที่ได้ 3 แต้มประเดิมง่ายๆ ขณะที่ เสื้อเตี้ย ทำดีแล้วแต่โชคร้ายเอง ด้าน เดวิด บูธ ประเดิมคุมกูปรีไม่สวยงามเท่าไรเมื่อต้องไล่ตามตีเสมอ ราชนาวีในบ้านตัวเอง 1-1 บ่นทีมยังไม่เข้าที่ ผู้การเรืองพอใจไม่กลับบ้านมือเปล่า

ไทยพรีเมียร์ลีก 19 ก.พ.54

ชลบุรี เอฟซี 2 –การท่าเรือไทย เอฟซี 0

การแข่งขันฟุตบอลในศึก "สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก" ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยมเป็นการพบกันระหว่าง "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ที่เปิดสนามแห่งนี้รับการมาเยือนของ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี เจ้าของแชมป์โตโยต้าพรีเมียร์คัพทมีล่าสุด ซึ่งเกมนี้ถือได้ว่าเป็นเกมประเดิมสนามของทั้งคู่ด้วยเช่นกัน โดยเกมนี้เจ้าบ้านส่งชุดใหญ่ลงสนามมี เทิดศักดิ์ ใจมั่น และ พิภพ อ่อนโม้ นำทัพ ส่วนทีมเยือนก็มาเต็มเช่นกันทั้ง จิรวัฒน์ มัครมย์ และ สมปอง สอเหลบ ลงสนามกันครบ

เริ่มเกมการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก เพียงแค่ น.2 ประตูก็มาทันทีจากจังหวะเปิดฟรีคิกเข้ามาของ เทิดศักดิ์ ใจมั่น และเป็น มุนเซ่ อูริซ นายทวารทีมเยือนรับบอลหลุดมือมาเข้ามาทาง "เจ้าชายกบ" พิภพ อ่อนโม้ ที่ยืนรอหน้าประตูรับส้มหล่นซัดเผาขนเข้าไปอย่างง่ายดาย พร้อมส่งให้เจ้าบ้านออกนำไปก่อน 1 - 0 หลังจากนั้นเป็น สิงห์เจ้าท่า ที่พยายามบุกกดดันอย่างหนักหวังที่จะเอาประตูคืน และนาทีที่ 10 จิรวัฒน์ มัครมย์ มิดฟิลด์ทีมเยือนได้ลองซัดฟรีคิกระยะ 25 หลาบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปแค่คืบเท่านั้น

เกมผ่านมาถึง น.20 โอกาสของทีมเยือนก็มาอีกครั้งจากการลองยิงไกลเกือบ 30 หลาของ สมปอง สอเหลบ แต่ยังตรงตัว สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายทวารทีมเยือน ถัดมาอีก 2 นาที สิงห์เจ้าท่า น่าจะได้ประตูเสมออย่างที่สุดจากจังหวะที่ เอกชัย สำเร หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลเดี่ยวตัวต่อตัวกับนายทวารทีมเยือนแต่กลับยิงไปตรงตัวอย่างชวดได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย

ต่อมา น.24 ทีมเยือนปล่อยโอกาสทองหลุดมืออีกครั้ง เมื่อกองหลังเจ้าบ้านสกัดพลาดบอลมาเข้าทาง สมปอง สอเหลบ ที่ยืนอยู่คนเดียวหน้าประตูแต่กองหน้าดีกรีทีมชาติไทยรายนี้กลับกระดกบอลเข้าคานออกไปอย่างเหลือเชื่อ ถัดมา น.26 โอกาสยิงแบบเต็มเท้าของเจ้าบ้านก็มาบ้างจากการยิงไกลของ เอกพันธ์ อินทเสน แต่เรดาห์ยังไม่เข้าที่ทำให้หลุดกรอบออกไปค่อนข้างเยอะ

เกมผ่านมาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้ายแม้ว่าทั้งสองทีมยังคงพยายามบุกใส่กันตลอด แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ ด้วยกันทั้งคู่ ประกอบกับโอกาสยิงยังมีอยู่ไม่เยอะเท่าที่ควรด้วย หลังจากนั้นไม่นานผู้ตัดสินก็เป่าจบ 45 นาทีแรกของเกม ส่งผลให้ ฉลามชล ออกนำ สิงห์เจ้าท่า ไปก่อน 1 - 0

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลัง เจ้าบ้านไม่รอช้าทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่น 1 ราย โดยส่ง ดาร์โก ราโคเซวิด ลงมาเล่นแทน อาทิตย์ สุทรรพิธ ที่โชว์ฟอร์มไม่ออกในช่วง 45 นาทีแรกพร้อมกันนี้ยังเปลี่ยนมาเล่นในระบบ 5-3-2 อีกด้วย ส่วนทีมเยือนยังคงใช้ชุดเดิมลงบู๊ต่อไป และ น.53 จังหวะยิงประตูครั้งแรกของครึ่งหลังก็มาเป็นของ ชลบุรี จากการยิงไกลของ เทิดศักดิ์ ใจมั่น แต่ยังไม่แม่นพอออกหลังไปไกล

ต่อมา น.63 เจ้าท่า ก็ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ต่อเกมขึ้นมาได้สวยทางฝั่งขวา โดยอาลีฟ เปาะจิ ได้เปิดเข้ามากลางประตูและเป็น สมปอง สอเหลบ ที่วิ่งมาแปบนเส้น 18 หลาบอลพุ่งหลุดกรอบออกไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ต่อมาเป็นคราวของเจ้าบ้านบ้างและเป็น "น้าเทิด" ที่ได้ลองส่องฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลาและก็ยังเหมือนเดิมบอลหลุดกรอบออกไปไกล

แต่แล้ว น.72 ความผิดพลาดอันเล็กน้อยของ เจ้าท่า ก็มาพลาดเสียประตูที่ 2 จนได้จากจังหะที่ ชลบุรี ได้ฟรีคิก เทิดศักดิ์ ใจมั่น เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษเป็น สุทธินันท์ พุกหอม โหม่งตั้งเข้าไปหน้าประตูบอลลอบข้ามมือ ชนยทวารทีมเยือนไปตกบนคานแล้วกระเด้งมาเข้าทาง คาซูโตะ คูชิดะ ที่รออยู่บนเส้น 6 หลา ตั้งป้อมยิงเข้าไปอย่างง่ายดาย พร้อมส่งให้ ฉลามชล ออกนำไปแล้ว 2 - 0

เกมผ่านมาถึงในช่วง 10 นาทีสุดท้าย แม้ว่า เจ้าท่า จะพยายามส่งดาวเตะตัวสำรองรายอื่นๆ ลงมาเปลี่ยนเกมทั้ง จาค็อบ บาเล่ และ สตีเฟ่น ร็อบ แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อจังหวะจบสกอร์ยังไม่เฉียบขาดพอ ส่วนเจ้าบ้านช่วงเวลาที่เหลือก็เล่นแบบประคองเกมแล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็จบ 90 นาที ส่งผลให้ ชลบุรี เปิดบ้านเอาชนะ การท่าเรือไทย เอฟซี ไปแบบเบาะๆ 2 - 0 ส่งผลให้คว้า 3 แต้มประประเดิมไทยลีก 2011 ได้สำเร็จ ส่วนทีมเยือนต้องน้ำตาจกกลับบ้านไปตามระเบียบหลังไม่มีแต้มในเกมนี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (GK)- ชลทิตย์ จันทคาม, สุทธินันท์ พุกหอม, สุรีย์ สุขะ, อุนชา กิจพงษ์ศรี- อาทิตย์ สุนทรพิธ (ดาร์โก ราโคเซวิด), เอกพันธ์ อินทเสน, อดุลย์ หละโสะ (เกรียงไกร พิมพ์รัตน์), คาซูโตะ คูชิดะ, เทิดศักดิ์ ใจมั่น - พิภพ อ่อนโม้ (C) (วลาดิเมียร์ ริบิค)

การท่าเรือไทย เอฟซี : มุนเซ่ อูลริช (GK) - มาริโอ ดาซิลวา, มูดูโร่ มอยซี่, มงคล นามนวด, อาลีฟ เปาะจิ- จิรวัฒน์ มัครมย์ (C), เกียรติเจริญ เรืองปาน (สตีเฟ่น ร็อบ), วรวุฒิ วังสวัสดิ์, เอกชัย สำเร (จาค็อบ บาเร่), เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ - สมปอง สอเหลบ (สราวุฒิ คงเจริญ)

จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด : 6,564 คน

ค่าจำหน่ายของที่ระลึก :432,530 บาท

ค่าบัตรผ่านประตู : 702,020 บาท

เฮงรับโชคดีท่าเรือพลาดเอง

วิทยา เลาหกุล ผู้จัดการทีมชลบุรี  ยอมรับว่าวันนี้เราโชคดีที่ได้รับชัยชนะ เพราะเราเล่นได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร และโชคดีเป็น 2เท่าที่ได้ 2ประตูจากความผิดพลาดของทีมเยือน โดยเฉพาะเกมครึ่งแรกที่น่าจะเสียประตูหลายครั้งแต่ก็รอดมาได้ ส่วนการขาด ณัฐพงษ์ สมณะ ในวันนี้ก็ส่งผลกระทบพอสมควร เนื่องจาก อนุชา กิจพงษ์ศรี ยังไม่ค่อยเข้าขากับผู้เล่นคนอื่นๆ เทาไหร่ ทำให้หลังจากนี้ต้องพยายามฝึกผู้เล่นคนอื่นๆ ให้เล่นทางฝ่างซ้ายไม่บ้างหากเกิดเหตุสุดวิสัติแบบนี้จะได้รับมือทัน ส่วนบรรดาแข่งต่างชาติที่ได้ลงสนามในวันนี้ทุกๆ คนก็ทำผลงานได้คี โดยเฉพาะ คูชิดะ ที่คุมเกมแดนกลางได้เป็นอย่างดี และยังสามารถทำประตูให้กับทีมได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามวันนี้สำคัญที่สุดคือเราได้ 3แต้มแรกมาครอง

เตี้ยพอใจลูกทีมเต็มที่

สะสม พบประเสริฐ : เป็นเกมที่ การท่าเรือ ค่อนข้างจะโชคร้าย เนื่องจากพลาดเสียประตูง่ายๆ ทั้ง 2 ลูก แต่ยอมรับว่าลูกทีมเล่นกันได้ค่อนข้างดี ขาดเพียงจังหวะจบสกอร์ที่ยังขาดๆ เกินๆ สำหรับความผิดพลาดในวันนี้คงต้องกลับพิจารณาอีกครั้ง ส่วนจะดร็อปใครหรือไม่นั้นเกมหน้าคงต้องว่ากันอีกครั้ง ส่วนบรรดานักเตะต่างชาติก็คงต้องไปปรับจูนกับเพื่อนร่วมทีมอีกสักระยะ แต่เชื่อว่าลูกทีมทุกคนจะกลับมาได้อย่างแน่นอน สำหรับเป้าหมายในไทยลีกยังคงเหมือนเดิมคือขอดูเกมต่อเกม ซึ่งบางทีเราอาจจะแพ้ทีมใหญ่ๆ  4 -5 เกม แต่กลับไปชนะทีมเล็กๆ อีก 30 เกมที่เหลือก็เป็นไปได้ แต่วันนี้ตนภูมิในลูกทีมทุกๆ คนที่สู้อย่างเต็มที่

ศรีสะเกษ เมืองไทย 1  –ราชนาวี 1

ฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 ในวันที่ 19 ก.พ. 2554 "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ที่วันนี้มาในชุดส้มล้วนลงเล่นที่สนามศรีนครลำดวน ต้อนรับการมาเยือนของราชนาวีที่มาในชุดสีน้ำเงินล้วน โดยในเกมนี้เป็นเกมแรกของทั้งคู่

เจ้าถิ่นภายใต้การคุมทีมของ เดวิด บูธ ลงเล่นด้วยระบบ 4 - 4 - 2 ใช้ ธนา ชะนะบุตร และ อิสระพงษ์ ลิละคร เป็นตัวทำเกมทางริมเส้น คู่หูในแดนหน้าเป็น วุฒิชัย ทาทอง กับ ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ขณะที่ "ตะหานน้ำ" ใช้ระบบ 4 - 5 - 1 วาง โอลอฟ วัตสัน เป็นหน้าเป้า

ทันทีที่เริ่มเกมทั้งคู่แลกหมัดกันทันที ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ได้ลุ้นก่อน น.2 อิสระพงษ์ ลิละคร อาศัยความเร็วพาบอลไปจนสุดเส้นหลังแล้วตบเข้ากลางแต่เพื่อนตามชาร์จไม่ทัน

นาทีต่อมาโอกาสเป็นของราชนาวีบ้าง เอดู กัมฟี่ พาบอลมาทางฝั่งซ้ายแล้วแทงขึ้นหน้าให้ โอลอฟ วัตสัน ยิงไปติดบล็อคของเจ้าถิ่น

ลูกทีมของ น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว น่าจะออกนำสุดๆ น.11 โอลอฟ วัตสัน ตะบันด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษไปติดเซฟของ วัชรพงษ์ กล้าหาญ กระเด้งมาเข้าทางของ คริสเตียน เอ็กบ้า ซ่ำจ่อๆออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ

ข่าวร้ายของทีมเยือนก็มาถึง น.16 อมาร่า เจอร์รี่ มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แล้วให้ เสกสันต์ ชาวทองหลาง ลงมาเล่นแทน เท่านั้นยังไม่พอตัวตัดเกมอย่าง ภานุวัฒน์ กองจันทร์ ก็มาเจ็บอีกรายต้องเปลี่ยนตัวคนที่ 2 ส่ง อนุวัฒน์ ศรชัย มาเล่นแทนหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง

น.36 ราชนาวีได้เฮก่อนจากการโยนบอลจากทางฝั่งขวาเลยมาถึง อนุวัฒน์ ศรชัย ยิงด้วยเท้าซ้ายจากระยะ 10 หลา บอลเสียบเสาไกลเป็นประตูขึ้นนำ 1 - 0

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บเจ้าถิ่นตามตีเสมอ 1 - 1 อิสระพงษ์ ลิละคร โยนบอลจากทางฝั่งขวา คมสันต์ เมินดี เตะสกัดไปโดน ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ที่วิ่งเข้ามาขวางส่งให้บอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไปแบบโชคช่วย จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1 - 1

เกมในครึ่งหลัง ราชนาวีมีนักเตะบาดเจ็บระนาวต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนสุดท้ายเมื่อ ชินกร ดีสาย ผู้รักษาประตูมือ 1 ที่ปฐมพยาบาลในครึ่งแรกถึง 2 ครั้ง เล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง ชัยพร อุตตะมะรัตน์ ลงมาเฝ้าเสาแทน ทางด้านเจ้าถิ่นเปลี่ยนคนแรกส่ง วิชา นันทะศรี แทน ธนา ชะนะบุตร

น.51 กุศล เพ่งผล กัปตันทีมราชนาวีโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกมเมื่อไปตัดฟาวล์ ปิยะวัฒน์ ทองแม้น

ศรีสะเกษเกือบได้ประตูออกนำ น.57 ประลอง สาวันดี เปิดลูกเตะมุม เจมส์ ค็อบบลาห์ ดิสซิรามาห์ ได้โหม่งแต่เช็ดบางเกินไปทำให้บอลผ่านหน้าประตูออกไปอย่างหวาดเสียว

น.65 ศรีสะเกษได้ลุ้นอีกครั้ง อิสระพงษ์ ลิละคร โยนฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งซ้าย วิคเตอร์ อมาโร่ โถมตัวเข้าโหม่งจากกรอบ 6 หลาทว่ายังไปตรงตัวของ ชัยพร อุตตะมะรัตน์

ราชนาวีใกล้เคียงกับการขึ้นนำเช่นกัน น.67 จากจังหวะสวนกลับ ศุภชัย ขำทรัพย์ ไหลบอลออกฝั่งขวาให้ คริสเตียน เอ็กบ้า ครอสเข้ากลาง วัชรพงษ์ กล้าหาญ ออกมาตัดบอลแต่จั่วลมไปแล้วทว่า เอดู กัมฟี่ ก็โหม่งข้ามคานไปอีก

ผ่านมาถึงตรงนี้เจ้าถิ่นครองเกมเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด น.72 มีลุ้นจากลูกนิ่งเมื่อ ประลอง สาวันดี โยนฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งขวา วุฒิชัย ทาทอง พุ่งโหม่งในกรอบเขตโทษ ชัยพร อุตตะมะรัตน์ ยังเซฟไว้ได้อีกครั้ง

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรกลูกทีมของ เดวิด บูธ มาได้ฟรีคิกอีกคราวนี้ อิสระพงษ์ ลิละคร ยิงเองจากระยะกว่า 35 หลาแต่ก็ยังไม่เข้าป้ำ เวลาที่เหลือยิงกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมเสมอกันไป 1 - 1 แบ่งไปทีมละแต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี : วัชรพงษ์ กล้าหาญ (GK) - ไพรสณฑ์ ฮุนทวีชัย,สุพรรณ หาดคำ (C - (เอกพันธ์ จันดากรณ์ น.68),เจมส์ ค็อบบลาห์ ดิสซิรามาห์,ประลอง สาวันดี - อิสระพงษ์ ลิละคร,วิคเตอร์ อมาโร่,เอ็มมานูเอล ฟริมปง (หัตฐพร สุวรรณ น.72),ธนา ชะนะบุตร (วิชา นันทะศรี น.46) - วุฒิชัย ทาทอง,ปิยะวัฒน์ ทองแม้

ราชนาวี : ชินกร ดีสาย (GK - ชัยพร อุตตะมะรัตน์ น.46) - ชณธวัฒน์ ศรีสุข,กุศล เพ่งผล (C),อมาร่า เจอร์รี่ (เสกสันต์ ชาวทองหลาง น.16),มารุต ดอกมะลิป่า - ภานุวัฒน์ กองจันทร์ (อนุวัฒน์ ศรชัย น.30),คมสันต์ เมินดี,ศุภชัย ขำทรัพย์,เอดู กัมฟี่ - คริสเตียน เอ็กบ้า,โอลอฟ วัตสัน

บูธรับกูปรียังไม่ลงล๊อค

เดวิด บูธ กุนซือของศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ได้เผยหลังจบเกมด้วยอาการเซ็งว่า เห็นได้ชัดว่าทีมยังไม่ลงตัวเนื่องจากนักเตะใหม่เข้ามาเยอะ จึงมีปัญหาในเรื่องของระบบทีมที่ยังเล่นไม่เข้ากับนักเตะเก่า อีกทั้งการอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลก็เป็นการลงเล่นกับทีมในระดับดิวิชั่น 2 เป็นส่วนมาก ดังนั้นการเล่นกับทีมในลีกสูงสุดจึงทำให้เห็นข้อแตกต่างค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้นักเตะควรจะต้องเล่นในเกมของตัวเองให้มากกว่านี้เพราะดูแล้วลูกทีมยังเสียสมาธิมากเกินไป

ผู้การเรืองพอใจบุกแชร์แต้ม

ทางด้าน น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว เฮดโค้ชราชนาวี การบุกมาเสมอได้ถือว่าพอใจเพราะที่ผ่านมามีเวลาเตรียมทีมน้อยกว่าทีมอื่นๆเล่นได้เท่านี้ก็เป็นไปตามเป้าแล้ว นอกจากนี้นักเตะที่เปลี่ยนตัวทั้ง 3 คน ก็ไม่ใช่เปลี่ยนเพราะแก้เกม แต่จำเป็นต้องเปลี่ยนเพราะนักเตะบาดเจ็บ ส่วนเรื่องที่ว่าพึ่งพา โอลอฟ วัตสัน มากเกินไปนั้นเป็นเพราะ รัฐพร แซ่ตั๋น สภาพร่างกายยังไม่พร้อมจึงมีความจำเป็นต้องเล่นกองหน้าคนเดียวไปก่อน