เปิดเผยแล้ว ลิโอเนล เมสซี่ กับ โชเซ่ มูรินโญ่ คือนักเตะและกุนซือผู้อู้ฟู่ที่สุดในวงการลูกหนังประจำปีนี้ ขณะที่ยอดโปรกอล์ฟอย่าง "พญาเสือ" ไทเกอร์ วู้ดส์ คือนักกีฬาเป๋าตุงสุดๆ ในโลก

ลิโอเนล เมสซี่ ยอดกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา สังกัดสโมสร บาร์เซโลน่า ได้ชื่อเป็นนักฟุตบอลที่มีรายได้มากที่สุดในโลกประจำปี 2011 ขณะที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์มากฝีมือชาวโปรตุเกสของ เรอัล มาดริด เป็นคนที่มีรายได้มากที่สุดเช่นกันในฐานะโค้ช ตามรายงานจาก "ฟร้องซ์ ฟุตบอล" นิตยสารฟุตบอลชื่อดังเมืองน้ำหอม ฉบับเมื่อวันจันทร์ที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา

เมสซี่ เจ้าของรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี 2 สมัย ได้รับเงินค่าจ้างจากต้นสังกัดและมีรายได้จากงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ รวมกันมากถึง 31 ล้านยูโร (ประมาณ 1,240 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ถือว่ายังน้อยกว่า ไทเกอร์ วู้ดส์ ยอดโปรกอล์ฟชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นนักกีฬาที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แบบเกือบๆ เท่าตัวเลยทีเดียว เพราะปีนี้ "พญาเสือ" รับไปเหนาะๆ 53 ล้านยูโร (ประมาณ 2,120 ล้านบาท)

สำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสของ เรอัล มาดริด ปีนี้รับไป 27.5 ล้านยูโร (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) ซึ่งถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในบรรดานักเตะทุกคน ส่วน เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าดาวดังทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าป้ายที่ 3 รับไป 20.7 ล้านยูโร (ประมาณ 828 ล้านบาท) โดยศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีนักเตะถึง 7 คนด้วยกันที่ติดอยู่ในกลุ่ม 20 อันดับแรก

ขณะที่ผู้เล่นซึ่งเคยค้าแข้งในเวที พรีเมียร์ลีก และตอนนี้กำลังโลดแล่นอยู่ในศึก เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (เอ็มแอลเอส) สหรัฐอเมริกา อย่าง เดวิด เบ็คแฮม กองกลางรูปหล่อเลือดผู้ดีของ ลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ และ เธียร์รี่ อองรี ยอดดาวยิงเฟร้นช์แมนของ นิวยอร์ก เร้ดบูลล์ส รั้งอันดับที่ 5 และ 11 ฟันเงินเข้ากระเป๋า 19 ล้านยูโร (ประมาณ 760 ล้านบาท) และ 13.6 ล้านยูโร (ประมาณ 544 ล้านบาท) ตามลำดับ

ด้านวงการโค้ชลูกหนังนั้น มูรินโญ่ นำโด่งเป็นอันดับ 1 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 13.5 ล้านยูโร (ประมาณ 540 ล้านบาท) ตามด้วย โจเซป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์หนุ่มของ บาร์เซโลน่า 10.5 ล้านยูโร (ประมาณ 420 ล้านบาท) อันดับ 3 ได้แก่ ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตกุนซือ อินเตอร์ มิลาน ที่โกยเงินแบบสบายๆ 10.2 ล้านยูโร (ประมาณ 408 ล้านบาท) ส่วน ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ รั้งที่ 4 มีรายได้รวม 8.5 ล้านยูโร (ประมาณ 340 ล้านบาท)