''ฉลามชล'' ชลบุรี เอฟซี เฝ้าบ้านตัวเองแท้ๆ หวิดเน่านำก่อนแต่โดนเอสซีจี แซงกลับมานำ 2-1 ดีที่ตามตีเสมอได้ 2-2 หล่นมาอยู่ที่ 3 ตามบุรีรัมย์ 3 แต้มแล้ว โดย''ปลาทูคะนอง'' เป็น1ใน2 ทีมเหมือนบุรีรัมย์ ที่ยังแพ้ใครไม่เป็นอยู่อันดับ 6 ตามเดิม ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2011 เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา

 

ชลบุรี เอฟซี 2 - 2 เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี

วันที่ : 06 เมษายน 2011 เวลา : 19:00 น.

สนามแข่งขัน : สนาม ชลบุรี สเตเดี้ยม จ.ชลบุรี เข้าชม : 0

ถ่ายทอดสด : ทรูปรีวิว สปอร์ต 9

 ผุ้ตัดสิน : มงคลชัย เพชรศรี,ชุมพล ดีแปลง,วรพจน์ ชูแสง,วิเชษฐ์ เกตุแก้ว

  
ศึกลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีก 2011 เลกแรก แมตช์มิดวีกเมื่อพุธที่ 6 เมย. 54 ที่ผ่านมา  ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ''ฉลามชล'' ชลบุรี เอฟซี ทีมรองจ่าฝูงของตาราง แข่ง 6 นัด มีอยู่ 13 แต้ม เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ''ปลาทูคะนอง'' เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี ทีมอันดับ 6 แข่ง 6 นัด มีอยู่ 10 แต้ม โดยผลงานนัดล่าสุดชลบุรีบุกไปชนะราชนาวี 2-0 ขณะที่เอสซีจีไล่ตีเสมอขอนแก่น 1-1                    

   เจ้าบ้านจัดหนัก,ปลาทูส่งโชคลาภยืนเป้า          

ก่อนเกมเจ้าบ้าน ''ฉลามชล'' ชลบุรี เอฟซี ได้นำถ้วยแชมป์ฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2010 ออกมาโชว์ต่อหน้าแฟนบอล โดยให้นักเตะทั้งสองทีมเดินผ่านถ้วยรางวัลก่อนลงสนามเพื่อเป็นการปลุกขวัญ โดยเกมนี้ ''เซอร์เด็ด'' จเด็จ มีลาภ กุนซือใหญ่ชลบุรี จัดทัพใหญ่ลงสนามเต็มอัตราศึก นำโดย เทิดศักดิ์ ใจมั่น, เอกพันธ์ อินทเสน, ชลทิตย์ จันทคาม, สุทธินันท์ พุกหอม และ คาซูตะ คูชิดะ ขณะที่คู่หัวหอกเป็นการประสานงานกันระหว่าง พิภพ อ่อนโม้ และ เนย์ ฟาเบียโน่ ด้านพล ชมชื่น เฮดโค้ชเอสซีจี มี พงษ์พิพัฒน์ คำนวน, เอ็นจี้ ดีวาย, ชัยวุฒิ วัฒนะ และ ดิยุฟ บิราเม่ โดยวาง โชคลาภ นิลแสง เป็นหัวหอกตัวเป้า    
             
   เปิดฉากแลกคนละดอก

เปิดฉากเริ่มเกมชลบุรี เจ้าถิ่น โหมเกมรุกเข้าใส่ทันที ขณะที่เอสซีจีมาแบบเน้นเกมรับและรอดักจังหวะสวนกลับ เพียงแค่ 2 นาที ทีมเยือนได้ลุ้นก่อนจากการสับไกระยะ 30 หลา ของ ดิยุฟ บิราเม่ แต่ว่ายังไม่ตรงกรอบ นาทีถัดมา สุทธินันท์ พุกหอม กองหลังชลบุรี เติมเกมทางกราบขวา ก่อนจะยัดเข้ากลางให้ เอกพันธ์ อินทเสน พลิกออกด้านข้างแล้วเปิดโด่งเข้าเขตโทษ เนย์ ฟาเบียโน่ ตีลังกายิงไม่ตรงกรอบ 
       
             
 ปลาทูเกือบเฮโชคชาภโขกชนเสา       

เกมช่วงแรกทั้งสองทีมยังดูเชิงกันอยู่และไม่ค่อยมีจังหวะพังประตูมากนัก น.25 เทิดศักดิ์ ใจมั่น เปิดฟรีคิกจากกราบขวาไปที่เสาสอง แต่ทว่า ณัฐพงษ์ สมณะ ชาร์จไม่ถึง หลังจากนั้น น.30 เป็นโอกาสของทีมเยือนบ้าง ชัยวุฒิ วัฒนะ วางบอลยาวจากกลางสนามให้ โชคลาภ นิลแสง โขกไปติดมือนายทวารเจ้าบ้าน ก่อนจะปัดไปชนเสาบอลกระดอนออกมา ดิยุฟ บิราเม่ กำลังจะตามซ้ำ แต่ไลน์แมนยกเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน 
     
                 
ทีมเยือนแก้เกมส่งวิทยาแทนเจษฎา

ชลบุรีทำเกมบุกขึ้นมาเป็นระลอก น.35 พิภพ อ่อนโม้ ได้จังหวะสับไกหน้าเขตโทษ แต่ โนกูชิ ปินโต้ นายทวารเอสซีจี ก็ไม่พลาดรับเข้าซองไว้ได้ นาทีถัดมา เทิดศักดิ์ ใจมั่น ไหลเตะมุมสั้นๆให้ อนุชา กิจพงษ์ศรี ซัดเต็มข้อด้วยซ้ายข้ามคานไปไกล เกมดำเนินมาถึง น.38 เอสซีจีเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกด้วยการส่ง วิทยา นนทะลี อดีตนักเตะนครปฐมลงเล่นแทน เจษฎา ภู่เล็ก 
      
                
  ทดเจ็บฉลามบุกแต่แค่เสียว 0-0           

ช่วงทดเจ็บ เจ้าถิ่นโหมเกมบุกอย่างหนักหวังพังประตูขึ้นนำให้ได้ และเป็นโอกาสของ พิภพ อ่อนโม้ อีกครั้งที่ได้สับไกหน้าเขตโทษ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือนายทวารเอสซีจี และอีกครั้ง สุทธินันท์ พุกหอม เปิดบอลจากขวาให้ เนย์ ฟาเบียโน่ เทกตัวโหม่งข้ามคานไปแบบได้ลุ้น หมดครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0-0       

เอกพันธ์ซัด"ฉลาม"เริงร่า 1-0

กลับมาสู้กันต่อครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเปลี่ยนผู้เล่นคนแรกส่ง ภานุวัฒน์ จินตะ ลงเล่นแทน เนย์ ฟาเบียโน่ โดยเปิดฉากบุกเข้าใส่เหมือนเดิม ซึ่งหลังจากบุกอยู่นานก็มาประสบความสำเร็จใน น.50 เอกพันธ์ อินทเสน โหม่งตั้งให้ พิภพ อ่อนโม้ ซัดไปติดขากองหลัง บอลกระดอนมาเข้าทาง เอกพันธ์ อินทเสน อีกครั้ง ก่อนจะตวัดยิงหักข้อด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเรียดเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม ชลบุรี ออกนำก่อน 1-0 
      
            
  โชคลาภยิงตีเสมอทันควัน 1-1     

 แต่แล้วกองเชียร์เจ้าบ้านก็ดีใจได้ไม่นาน น.56 วิทยา นนทะลี เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ โชคลาภ นิลแสง ใช้ตัวบังบอลตัวต่อตัวกับกองหลังชลบุรี ก่อนจะกลับตัวซัดเข้ากลางประตูเข้าไปให้เอสซีจี ไล่ตีเสมอทันควัน 1-1 หลังจากนั้นชลบุรี แก้เกมด้วยการเปลี่ยนเอาจอมทัพอย่าง เทิดศักดิ์ ใจมั่น ออกแล้วเอา ศุภเสกข์ ไก่แก้ว ลงเล่นแทน       

      
   "ปลาทู"พลิกแซงนำ 2-1

 น.70 ภานุวัฒน์ จินตะ เปิดลูกเตะมุม กองหลังทีมเยือนสกัดไม่ขาดมาเข้าทาง ชลทิตย์ จันทคาม ยิงสวนตูมเดียวข้ามคานไปไกล หลังจากนั้น 2 นาที เอสซีจี สวนกลับเร็วด้วยการต่อบอลมาถึงหน้าเขตโทษ ฟาบิโอ บาร์โบซ่า ไหลออกซ้ายให้ ดิยุฟ บิเรเม่ ซัดด้วยซ้ายเข้าหน้าต่าง

แต่แล้ว น.76 แฟนฉลามชลต้องเงียบกริบทั้งสนาม จากลูกฟรีคิกทางกราบซ้าย ธนา ศรีพันดร กึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่เสาสอง ปรากฏว่าบอลลอยโด่งไม่โดนใครและไปฮุกเสียบเสาสองเข้าไปชนิดเหนือความคาดหมาย เอสซีจี พลิกแซงนำหน้าตาเฉย 2-1                  

"ฉลาม"ฮึดไล่ตีเสมอทันควัน

หลังโดนนำไม่ถึงนาทีชลบุรี ก็เร่งจังหวะบุกเข้าใส่ทันที และมาตามตีเสมอได้แบบทันควัน จากลูกฟรีคิกริมเส้นด้านซ้าย ศุภเสกข์ ไก่แก้ว เปิดไปที่เสาสองแล้วก็เป็น ชลทิตย์ จันทคาม ที่ขึ้นโหม่งเข้าไปให้ชลบุรี ตีเสมอเป็น 2-2                      

ท้ายเกมแลกสนุกก่อนจบ 2-2

ช่วงท้ายเกมทั้งสองทีมแลกกันอย่างสนุก ก่อนหมดเวลานาทีเดียวทีมเยือนสวนกลับเร็วและเกือบได้ประตูชัย โดย ดิยุฟ บิเรเม่ ควบบอลเข้าเขตโทษก่อนจะซัดด้วยซ้ายแต่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล พุ่งปัดไว้ได้หวุดหวิด และช่วงทดเวลาบาดเจ็บชลบุรี ปูพรมบุกอย่างหนัก และมีโอกาสหวาดเสียวหลายครั้ง แต่สุดท้ายไม่ผ่านมือ โนกูชิ ปินโต้ นายทวารทีมเยือน จบเกมเสมอกันไป 2-2 แบ่งแต้มกันไป

  
          วาทะโค้ช  
        วิทยา เลาหกุล -''การขาด อดุลย์ หละโสะ เห็นได้ชัดว่าแดนกลางของเราประสิทธิภาพลดลงอย่างเห็นได้ชัด และต้องปรับเปลี่ยนแท็กติกกันใหม่หมด ซึ่งวันนี้ทีมเราเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานหลายคน และยังเสียสมาธิพลาดเสียประตูง่ายไปหน่อย โดยการเล่นในบ้านแล้วไม่ได้ 3 แต้ม ถือว่าน่าผิดหวัง ''            
           พล ชมชื่น - เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี ''การบุกมาเยือนชลบุรี แน่นอนว่าไม่ใช่งานง่าย เพราะพวกเขาถือเป็นทีมแกร่งที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ ซึ่งการที่เราบุกมาแบ่งแต้มได้ครั้งนี้ก็ต้องถือว่าน่าพอใจ โดยวันนี้เกมรับของเราเล่นได้อย่างเป็นระเบียบ ปรับอีกเพียงเล็กน้อยคิดว่าใหล้ลงตัวแล้ว'' 
 
             
           คะแนนความสามารถของนักเตะทั้งสองทีม               
          ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล 6, ณัฐพงษ์ สมณะ 6.5, สุทธินันท์ พุกหอม 6, เอกพันธ์ อินทเสน 7, พิภพ อ่อนโม้ 6, เทิดศักดิ์ ใจมั่น 6 (ศุภเสกข์ ไก่แก้ว 6), ดาโก้ ราโคเซวิค 6, คาซึโตะ คูชิดะ 6, ชลทิตย์ จันทะคาม 6.5,เนย์ ฟาเบียโน่ 5 (ภานุวัฒน์ จินตะ 6) 
        เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี : โนกูชิ ปินโต้ 6.5, ยานนิค 6, ธนา ศรีพันดร 6.5, เอกชัย ปรีชากุล 6 (วัชระพงษ์ วงษ์ศรีแก้ว 5), ชัยวุฒิ วัฒนะ 6 (ฟาบิโอ บาโบซ่า 6), พงศ์พิพัฒน์ คำนวน 6, โชคลาภ นิลแสง 6.5, นิติพงษ์ ไสยสิทธิ์ 6, เอ็นจี้ ดีวาย 6.5, ดิยุฟ บิราเม่ 6.5, เจษฎา ภู่เล็ก 5 (วิทยา นนทะลี 6.5)          

 แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : เอกพันธ์ อินทเสน -  ชลบุรี เอฟซี