"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมวาง หลุยส์ ซัวเรซ กับ เดิร์ค เค้าท์ นำทัพแดนหน้าหวังเปิดรังจิก "ลูกโลก" เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่ไร้ นิโกล่า ซิกิช ดาวยิงตัวเก่ง แต่จะใช้บริการ คาเมรอน เจอโรม ลุ้นบุกลั่นสกอร์ในแมตช์นี้

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2554

ลิเวอร์พูล - เบอร์มิงแฮม

สนาม : แอนฟิลด์

        เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือ หงส์แดง ทำผลงานยอดเยี่ยมทีเดียวในสองนัดล่าสุด ที่ถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 ต่อด้วยการบุกเสมอ อาร์เซน่อล 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว โดยได้ประตูตีเสมอจากจุดโทษของ เดิร์ค เค้าท์ ในช่วงทดเจ็บออกไปนาทีที่ 102

        ปัญหาของทีมอยู่ที่อาการบาดเจ็บของ เจมี่ คาร์ราเกอร์ กับ แอนดี้ แคร์โรลล์ โดย คาร์ราเกอร์ เจ็บศีรษะจากจังหวะปะทะกันเองกับ จอห์น ฟลานาแกน แบ็กดาวรุ่ง ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 62 ก่อนที่ แคร์โรลล์ จะเจ็บเข่า ถูกเปลี่ยนตัวออกในอีก 8 นาทีต่อมา ซึ่งทั้งคู่จะถูกทดสอบความฟิตจนถึงนาทีสุดท้าย

        นอกจากนี้ ฟาบิโอ ออเรลิโอ แบ็กซ้ายบราซิล ก็เป็นอีกคนที่บาดเจ็บต้นขามาจากเกมกับ ปืนใหญ่ เหมือนกัน และเป็นคนแรกที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 21 ด้วย และไม่น่าจะพร้อมสำหรับเกมวันเสาร์นี้ ทำให้เจ้าหนู แจ็ค โรบินสัน ที่ได้ลงสำรองแทน มีโอกาสลงเล่นต่อ

        ต่อจากนี้จะไม่มี สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมไปจนจบฤดูกาล เพราะเจ็บโคนขาหนีบซ้ำ เช่นเดียวกับ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ที่เจ็บเข่า ต้องพักยาว 2 เดือน ขณะที่ เกล็น จอห์นสัน กับ มาร์ติน เคลลี่ เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าทั้งคู่ ต้องพักจนถึงเดือนหน้า

        ระบบการเล่น 4-4-2 โฆเซ่ เรน่า เฝ้าเสา แผงหลังใช้ จอห์น ฟลานาแกน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, แจ็ค โรบินสัน แดนกลางมี เจย์ สเปียริง, ลูคัส เลว่า, ราอูล เมยเรเลส, มักซี่ โรดริเกซ แดนหน้าใช้ เดิร์ค เค้าท์ ยืนคู่ หลุยส์ ซัวเรซ

        ทางฝั่ง อเล็กซ์ แม็คลีช กุนซือ เดอะ บลูส์ ก่อนหน้านี้พาทีมเก็บเน้นๆ 7 คะแนนจาก 3 นัด ก่อนจะมาสะดุดพ่าย เชลซี 1-3 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เวลานี้ตุนคะแนนเอาไว้เหนือโซนตกชั้นถึง 5 คะแนนแล้ว

        สภาพทีมมีข่าวดี มาร์ติน ยิราเน็ค กองหลังเช็ก หายเจ็บโคนขาหนีบกับหน้าท้องกลับมาแล้ว ที่ทำให้ต้องพลาดลงเล่นมา 3 นัดติด หลังจากลงซ้อมเรียบร้อย และเป็นหนึ่งในขุนพลที่เดินทางมาแอนฟิลด์ด้วย ส่วนคนที่หลุดจากทีมจะเป็น สจวร์ต พาร์นาบี้

        เวลานี้ยังคงไม่สามารถใช้งาน นิโกล่า ซิกิช (โคนขาหนีบ) กับ โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ (ขา) ที่พลาดลงเล่นต่อเนื่องเพราะอาการบาดเจ็บ ทำให้ กุนซือชาวสกอตต์ ต้องตัดสินใจว่าจะใช้ระบบสองกองหน้าหรือกองหน้าตัวเดียว ซึ่งมีผลต่อการลงสนามของ เควิน ฟิลลิปส์

        ระบบการเล่น 4-5-1 เบน ฟอสเตอร์ เฝ้าเสา แผงหลังใช้ สตีเฟ่น คาร์, โรเจอร์ จอห์นสัน, มาร์ติน ยิราเน็ค, เลียม ริดจ์เวลล์ กองกลางมี เซบาสเตียน ลาร์สสัน, เคร็ก การ์ดเนอร์, แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, ลี โบว์เยอร์, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ หน้าเป้าใช้ คาเมรอน เจอโรม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - จอห์น ฟลานาแกน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, แจ็ค โรบินสัน - เจย์ สเปียริง, ลูคัส เลว่า, ราอูล เมยเรเลส, มักซี่ โรดริเกซ - เดิร์ค เค้าท์, หลุยส์ ซัวเรซ

        เบอร์มิงแฮม : เบน ฟอสเตอร์ - สตีเฟ่น คาร์, โรเจอร์ จอห์นสัน, มาร์ติน ยิราเน็ค, เลียม ริดจ์เวลล์ - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, เคร็ก การ์ดเนอร์, แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, ลี โบว์เยอร์, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ - คาเมรอน เจอโรม

        ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม
                                         ลิเวอร์พูล ชนะ                         เสมอ                เบอร์มิงแฮม ชนะ
ลีก                                                 46                                25                                28
เอฟเอคัพ                                       6                                  2                                  1
ลีกคัพ                                            3                                  2                                  0
อื่นๆ                                                1                                  1                                  0
รวม                                                56                                30                                 29

ดัลกลิชหวัง 2 เด็กใหม่ไม่ตื่น

        เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล คาดหวัง สองแข้งดาวรุ่ง แจ๊ค โรบินสัน กับ จอห์น ฟลานาเเกน จะไม่ตื่นเต้นจนโชว์ฟอร์มออกทะเล สำหรับการรับใช้สโมสรในช่วงนี้ ที่มีปัญหานักเตะเจ็บครึ่งค่อนทีม

        เจมี่ คาร์ราเกอร์ กับ แอนดี้ แคร์โรลล์ บาดเจ็บเพิ่มไปจากเกมกับ อาร์เซน่อล สัปดาห์ก่อน และไม่แน่ว่าจะฟิตพร้อมทันลงสนามพบกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ หรือไม่ ซึ่ง ดัลกลิช ชมเชย โรบินสัน กับ ฟลานาเเกน ว่าเล่นดีมาก แต่ย้ำ ตนต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องนักเตะอย่างเต็มที่

        คิง เคนนี่ เผยว่า "เรารู้สึกดีกับผลงานของพวกเขา โดยเฉพาะ ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอาร์เซนอล คือตัวบ่งชี้อย่างดี ว่าทำไมพวกเขาถึงถูกใส่ชื่อในทีมชุดใหญ่"

        "เราหวังว่าผลงานของพวกเขาจะดีอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกัน เราไม่ควรจะประมาท และเราจะไม่ทำลายเด็กหนุ่มเหล่านี้"

        "เราต้องมีสติ และยอมรับความจริงว่าพวกเขายังเด็กอยู่ และจะต้องคอยมองดูสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ถึงเวลาที่ต้องให้พักผ่อนเมื่อพวกเขาต้องการ เราต้องจับตาดู และต้องแน่ใจว่าพวกเขาพร้อมที่จะลงสนาม" 

เมยเรเลสยกคิงเคนนี่พลิกชะตาหงส์

        ราอูล เมยเรเลส กองกลางลิเวอร์พูล ออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า ตนเชื่อว่า เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีมชาวสกอตติช คือบุคคลที่นำต้นสังกัดกลับมาสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จอีกครั้ง ยกเป็นโค้ชที่มหัศจรรย์และรอบรู้เรื่องลูกหนังเป็นอย่างดี

        ดัลกลิช ตอบรับคุมทีม ลิเวอร์พูล แทน รอย ฮ็อดจ์สัน เมื่อเดือน ม.ค. ในฐานะกุนซือชั่วคราว และสามารถนำสโมสรกลับมาทำผลงานที่ดีอีกครั้ง รวมทั้งยังทำให้ เมยเรเลส สามารถโชว์ฟอร์มที่สุดยอดของตัวเองออกมาด้วย จนทำให้แข้งทีมชาติโปรตุเกสได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำปีของสมาคม นักฟุตบอลอาชีพ (พีเอฟเอ) จากการลงคะแนนเสียงของแฟนบอลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา  

        "เราต้องการที่จะพัฒนาและนำความสำเร็จมาสู่สโมสรแห่งนี้ ในอนาคตเราจะได้เห็น หลุยส์ ซัวเรซ ที่ดีกว่านี้, แอนดี้ แคร์โรลล์ ที่ดีกว่านี้ และผมหวังว่า ราอูล เมยเรเลส ที่ดีกว่านี้ด้วย มันน่ายินดีที่ได้เล่นให้กับ เคนนี่ เขาเป็นผู้จัดการทีมที่มหัศจรรย์และทุกคนรักเขา"   

        "เขารู้อะไรมากมายเกี่ยวกับฟุตบอลและมันเป็นเรื่องเยี่ยม สำหรับผมที่ได้ทำงานร่วมกับ เคนนี่ เขาช่วยให้เราเล่นฟุตบอลที่ดี และเขาก็ทำให้เราเชื่อมั่นว่า ทุกครั้งที่เราลงสนามเราสามารถคว้าชัยชนะได้" เมยเรเลส กล่าว

หวังฮึดคว้าตั๋วยูโรปา

        ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล อยู่อันดับ 6 ในพรีเมียร์ลีก และมีโอกาสน้อยเต็มทีที่จะได้ไปเล่นศึกยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้า เนื่องจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มีโอกาสดีมากกว่า ทว่า เมยเรเลส ก็ต้องการที่จะทำผลงานอย่างดีที่สุดในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น

        "เรายังเชื่อว่าเราสามารถผ่านไปเล่นยูโรปา ลีกได้ และคว้าชัยชนะทุกนัดตั้งแต่นี้ไปจนจบฤดูกาล ผมรู้ว่ามันขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันของทีมอื่นด้วย แต่เราต้องการแค่ชนะทุกนัด ถ้าเราทำหน้าที่ของเราได้ดี ผมคิดว่าเราจะมีโอกาสดีที่จะได้ผ่านเข้าไปเล่น" มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส กล่าว

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
18.45 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - เอฟเวอร์ตัน 
21.00 น. แอสตัน วิลล่า - สโต๊ค ซิตี้ 
21.00 น. แบล็คพูล - นิวคาสเซิ่ล 
21.00 น. ลิเวอร์พูล - เบอร์มิงแฮม 
21.00 น. ซันเดอร์แลนด์ - วีแกน   
21.00 น. สเปอร์ส - เวสต์บรอมวิช 
21.00 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน - ฟูแล่ม 
23.30 น. เชลซี - เวสต์แฮม