หลอเรดาห์ พิชัย คงศรี เตรียมบุกบริษัท ไทยลีก เพื่อร้องเรียนเรื่องสัญญากับไทยฮอนด้า ยันตนเองไม่เคยคิดจะหวังเงินทอง จากทีมหากหวังไปที่อื่นแล้ว รับต่อไปตนเองอาจจะไม่รับคุมทีมไหนเลย

หลังจากที่ "หลอเรดาห์" พิชัย คงศรี ถูกปลดออกจาก พญาอินทรี ไทยฮอนด้า ทีมดังย่านลาดกระบัง ของศึกดิวิชั่น 1  แบบสายฟ้าแลบ ล่าสุด ผู้สื่อข่าวไทยลีกออนไลน์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์โค้ชหลอ หลังเจ้าตัวเดินทางมา บริษัท สยามอินเตร์มัลติเมียเดีย หรือ บริษัท เอสเอ็มเอ็ม  เกี่ยวกับกรณีที่มีข่าวว่า กุนซือคนดังกำลังร้องเรียนเรื่องค่าชดเชยสัญญจาก ไทยฮอนด้าหลังถูกปลด ซึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุดนั้น พิชัย คงศรี กำลังจะเดินทางไปที่ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก เพื่อเข้าพบ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ค. 54) เพื่อร้องเรียนเรื่องเงินค่าชดเชยสัญญาดังกล่าว  หลังจากทีไม่มีทีท่าการเคลียร์ปัญหานี้จากไทยฮอนด้าเลยตั้งแต่ถูกปลดออกมา

เนื่องมาจาก ตนเองคิดว่าสโมสรนั้นปลดตนเองแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน เพราะตนเองนั้นได้เคยพูดไปแล้วว่าตนเองนั้นไม่ได้มาคิดที่จะเอาเงินทองมาก มายจากที่นี้ ตนเองมาทำที่นี้ด้วยความเต็มใจ หากตนเองคิดจะหวังเอาตังตนเองไปทำที่อื่นนานแล้วไม่จำเป็นต้องมาจรดสัญญากับ ไทยฮอนด้าก็ได้ แต่เหตุผลที่ตนเองมาที่นี้ ข้อแรกตนเองอยากที่จะปั้นเยาวชนซึ่งตนเองคิดว่านี้เป็นพื้นฐานแห่งวงการ ฟุตบอล แต่โชที่มีฝีมือทั้งหลายกับกำลังที่จะทิ้งเด็กเหล่านี้ไปรับงานคุมสโมสร อาชีพที่ได้เงินเยอะกว่า  แต่การที่มาถูกสโมสรที่ตนเองนั้นรักกระทำการเช่นนี้ตนเองคิดว่ามันเป็นการ ปลดแบบไม่ไว้หน้ากัน หากจะพูดภาษาหยาบๆคือการไม่เห็นหัวกัน ซึ่งตนเองนั้นรับไม่ได้เพราะตอนแรกนั้นนโยบายของผู้จัดการทีมคนแรกนั้นเป็น เช่นนี้ แต่พอเปลี่ยนผู้จัดการทีม อนคตของตนเองก็เริ่มที่จะแย่ลงเพราะไม่รู้เรื่องนโยบายเก่า หวังจะเอาแต่ผลงานทั้งที่ตนเองจำใจทำมาทั้งที่มีพนักงานใน บริษัท ฮอนด้า เล่นกันอยู่ถึงครึ่งทีม ที่เหลือเป็นเยาวชนทั้งสิ้น อีกทั้งตอนตัวเองทำไม่มีแม้กระทั่งเงินอัดฉีด และตอนที่ตนเองของบประมาณในการเสริมทีมทางสโมสรก็ไม่มีให้ แต่พอเปลี่ยนจากตนเองเป็นคนอื่นทุกอย่างที่ตนเองขอแล้วไม่ได้กุนซือที่เข้า มาใหม่กลับได้ทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องขอ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ตนเองคิดว่าสโมสรนั้นไม่เห็นค่าของตนเลยทั้งๆที่ตนเองมาทำ งานที่นี้เพื่อสโมสรอย่างแท้จริง

ทั้งนี้อดีตกุนซือไทยฮอนด้า ยังได้กล่าวอีกว่า การที่ตนเองนั้นโดนปลดจากพญาอินนั้นทำให้ตนเองนั้นขยาดวงการฟุตบอลอาชีพของ ไทยไปซะเลยเพราะทุกคนแสวงหาแต่อำนาจและแก่งแย่งชิงดีกันแม้จะในทีมเดียวกัน เองก็ตามซึ่งตนเองต่อไปตนเองอาจจะไม่ขอเป็นโค้ชสโมสรใดในไทยเลยก็เป็นได้ เพราะไม่อยากที่จะทะเลาะกับใครและขอไปทำฟุตบอลเด็กๆอย่างที่ตนเองนั้นตั้ง ความหวังไว้ เพราะตนเองคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือฐานหลักของวงการฟุตบอล อย่างน้อยๆขอให้ตนเองรู้ว่าเด็กๆที่ตนเองได้สร้างได้กลายเป็นอนาคตของวงการ ฟุตบอลต่อไปตนเองก็ยินดีแล้ว