ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » ดาร์บี้ปทุม บีจี ดับโปลิศ5-3,โอสถเจ๊ากว่างโซ้ง,กิเลนแค่เฉือนไดโน1-0

ดาร์บี้ปทุม บีจี ดับโปลิศ5-3,โอสถเจ๊ากว่างโซ้ง,กิเลนแค่เฉือนไดโน1-0

Posted 30/05/2011 by thaileagueonline

 

ดาร์บี้แมตช์ปทุมดวลสนั่น 8 ประตู บีจี เปิดบ้านล้ม ตำรวจ 5-3 พร้อมกับ แฮททริกของ ศรายุทธ ชัยคำดี นำโด่งดาวซัลโว 10 ลูก  ส่วนที่สนามอบจ.สระบุรี เงียบกริบไม่มีอะไรในกอไผ่พลังเอ็มกับกว่างโซ้งก็แบ่งแต้มกันไป 0-0 อีกคู่ที่ยามาฮ่า กิเลน แชมป์เก่านำเร็วแต่ก็เฉือนไดโนไปแค่ 1-0 จากมุ้ย น.11

บางกอกกล๊าส 5 –3 อินทรีเพื่อนตำรวจ

ศึกไทยพรีเมียร์ลีกนัด “ดาร์บี้แมตช์เมืองปทุม”ที่ ลีโอ สเตเดี้ยม “เดอะแร็บบิท” บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 4 ของตาราง เปิดบ้านพบ “โปลิศ” อินทรีเพื่อนตำรวจ ทีมอันดับ 3 เจ้าถิ่นวาง ศรายุทธ ชัยคำดี ที่ซัดไปแล้ว 7 ประตุเป็นหน้าเป้าโดย มี คุนิฮิโกะ ทากิซาว่า ปีกซ้ายชาวญี่ปุ่นกลับมาเป็นตัวจิงอีกครั้งและ ซารูตะ ฮิโรโนริ ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมคอยสนับสนุน ส่วนทีมเยือนของ ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล ยังพักนันทวัฒน์ แทนโสภา ไว้ที่ม้านั่งสำรองโดยให้ สุรชาติ สารีพิมพ์ ยืนหน้าเป้า และ จอห์น วิลกินสัน เป็นจอมทัพ 

เริ่มมานาทีแรกโอกาสเป็นของตำรวจ ชาคริต เปิดลูกฟรีคิกเรียดมาเสาแรก อัสมิง แม วิ่งเข้ามาตวัดตามน้ำติดบล็อก กฤษณะ ซ้ำอีกทีออกหลัง  เกมแลกกันสนุกช่วง 5 นาทีแรก บีจี สวนกลับ พีรพงศ์ จ่ายให้ วัสพล ทะลุจากแบ็กขวาไปสุดเส้นหลับ ตวัดกลับมาที่ ซารูตะ ซัดตามน้ำด้วยซ้ายหลุดเสาไปนิดเดียว อีกนาทีเดียว ซารูตะ ตัดบอลจาก กฤษฎี ได้ก่อนจะไหลให้ ศรายุทธ กดเต็มข้อเข้ามือ ภัทรกร

บีจีบุกเพลินๆตำรวจใช้จังหวะโต้และกลับขึ้นนำไปก่อนในน. 8 ชาคริต บัวทอง ได้โอกาสหลุดไปถึงมุมกรอบเขตโทษก่อนจะงัดมาเข้าหัว สุรชาติ สารีพิมพ์ ยืนโขกจ่อๆเข้าไป ตำรวจนำ 1-0  เข้าสู่ น.18 บีจี มีลุ้นจากฟรีคิกระยะ 25 หลากลางประตู ศรายุทธ ยิงไปติดกำแพง มาเข้าทาง ทากิซาว่า โยนข้ามฟากมาเสาสอง ทนกศักดิ์ ลอยตัวโขกออกหลัง

น.24 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันบาง พีรพงศ์ ได้บอลหน้ากรอบเขตดทษตำรวจก่อนจะไหลทะลุช่อให้ ศรายุทธ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดสวนตัว ภัทรกร ตีเสมอเป็น 1-1 น.32 บีจี ทำเกมขึ้นมาอีกครั้ง ศุภชัย จ่ายให้ ทากิซาว่า ปล่อยบอลผ่านมาถึง วิชะยา ยิงไกลบอลส่ายแต่ยังตรงตัว ภัทรกร ถัดมา 2 นาที วิชะยา จ่ายให้ ซารูตะ กระชากหนี อานิสงค์ แต่จังหวะสุดท้ายยิงโดนบอลไม่ดีเข้ามิอ ภัทรกร

บีจีนวดจนกระทั่งท้ายครึ่งแรก น.38 ทะนงศักดิ์ วางบอลยาวข้ามแนวรับให้ ซารูตะ หลุดเดี่ยวก่อนที่ “เมสซี่บีจี”จะวัดด้วยขวาแบบไม่ต้องจับบอลย้อยข้ามหัว ภัทรกร เข้าประตูไปอย่างสวยงาม เจ้าถิ่นพลิกกลับมานำ 2-1

บีจีหนีเป็น 3-1 จาก ฟรีคิก วิชะยา เปิดด้วยซ้ายบอลโค้งหนีมือประตูมาเข้าหัว อำนาจ เทกตัวโขกเต็มๆ ในนาทีที่ 42 เท่านั้นไม่พอช่วงทดเจ็บ ชาง ซึงวอน ไปเสียบ ศรายุทธ ในเขตโทษ  ผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษ และ เป็น ศรายุทธ ลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด เป็นประตูที่ 9 ของ “โจ้5หลา”ขึ้นมาเป็นดาวซัลโวร่วม กับ วสันต์ นาทะสัน ของเชียงรายแล้ว หมดครึ่งแรก บีจี นำ 4-1

ครึ่งหลัง “โค้ชวัง” ไม่มีทางเลือกต้องส่ง ฟิลิปเป้ แฟร์ไรร่า ศูนย์หน้าชาวบราวิลที่เพิ่งหายเจ็บลงมาช่วงเกมรุกแทน จอห์น วิลกินสัน เกมเริ่มต้นไม่เร้าใจเหมือนใจครึ่งเวลาแรก สุรชาติ ได้ลุ้นทำประตุให้ ตำรวจจากลูกดขกแต่บอลก้ถากเสาออกไปในสน.52
ถัดมา 2 นาทีตำรวจมีความหวังขึ้นมาเมื่อ อี ฮัน กุ๊ก จ่ายให้ ชาคริต บัวทอง หาจังหวะปั่นด้วยซ้ายบอลอุบเข้าเสาสองไปอย่างง่ายดายไล่มาเป็น 2-4

น.65 บีจีชักเสียสันหลับเมื่อตำรวจไล่มาเป็น 3-4 จากการกลับตัววอลเลยืของ ฟิลิปเป้ แฟร์ไรร่า ตัวสำรอง แต่แค่ 3 นาที เจ้าถิ่นขยับนำห่างอีกครั้งเป็น 5-3 จาก การหลุดเข้าไปยิงของ ศรายุทธ ชัยคำดี และ เป็น แฮททริกของ “โจ้ 5 หลา” น.74 นนทพันธ์ เจียรสถาวงศ์ ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงมาแทน ชาคริต ซึ่งมีอาการบาเจ็บได้สัมผัสแรกยิงฟรีคิกหลุดเสาไปนิดเดียว เกมแลกกันดุเดือด นพพล ปิตะฝ่าย ตัวสำรองของบีจี ได้สับไกยิงด้วยซ้าย ภัทรกร ปัดไปชนคาน

เข้าสู่ 5 นาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นน่าจะบวกสกอร์เพิ่ม นพพล ไหลให้ พีรพงศ์ กระหน่ำเต็มข้อบอลพุ่งชนคานกระดอนลงพื้นไม่มีใครตามซ้ำ จบเกม บางกอกกล๊าส เปิดบ้านเอาชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจสุดมันส์ 5-3 บีจี ยังอยู่อันดับ 4 ขณะที่ โปลิสรั้งอันดับ 3 เช่นเดิม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บางกอกกล๊าส เอฟซี : กฤษณะ กลั่นกลิ่น (GK) – วัสพล โทสันเทียะ ,อำนาจ แก้วเขียว(C) ,ธฤติ โนนศรีชัย ,ศุภชัย คมศิลป์ – ทะนงศักดิ์ ประจักกะตา ,พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ,คุนิฮิโกะ ทากิซาว่า ,วิชะยา เดชมิตร  (อนาวิน จูจีน น.63)– ซารูตะ ฮิโรโนริ (นพพล ปิตะฝ่าย น.67) ,ศรายุทธ ชัยคำดี (พอล เอ็คโคโล่ น.86)

อินทรีเพื่อนตำรวจ : ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ (GK) –  รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ ,ชาง ซึง วอน ,อานิสงส์ เจริญธรรม(ปกรณ์ เปรมภักดิ์ น.59) ,กฤษฎี ประกอบของ – อัสมิง แม ,ปกเกล้า อนันต์ ,อี ฮัน กุ๊ก ,ชาคริต บัวทอง (นนทพันธ์ เจียรสถาวงศ์ น.73) – จอห์น วิลกินสัน (C) (ฟิลิปเป้ แฟร์ไรร่า น.47) , สุรชาติ สารีพิมพ์  

 

โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี 0 - 0 เชียงราย ยูไนเต็ด

ที่สนาม องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี เป็นการพบกันระหว่าง "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "กว่างซ่งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด โดยเกมวันนี้เจ้าบ้านส่งชุดใหญ่ลงสนามมี เคลตัน ซิลวา และ พิพัฒน์ ต้นกันยา ที่กลับมาลงสนามล่าตาข่ายคู่กันอีกครั้ง แต่กุนซือใหญ่ "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ทำได้แค่นั่งสั่งการบนอัฒจันทร์เท่านั้น เนื่องจากโดนโทษห้ามคุมทีมข้างสนาม ส่วนทีมเยือนมีดาราชูโรงอย่าง วสันต์ นาทะสัน ดาวซัลโวไทยลีกในขณะนี้นำทัพมา
 
เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก เพียงนาทีที่ 5 ของการแข่งขันทีมเยือนก็ไดทักทายก่อนทันทีจากจังหวะยิงฟรีคิกระยะกว่า 30 หลาด้วยเท่าซ้ายของ พิชัย ปรีชาเชาว์ บอลพุ่งแรงตรงกรอบแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ ฉัตรชัย บุตรพรหม นายทวารเจ้าบ้านที่รับบอลได้หนึบเช่นกัน ต่อมา น.9 เจ้าบ้านเกือบได้เฮก่อนเมื่อ ลาซาลาส คาอิมบี้ ส่งบอลเข้าประตูไปได้แล้ว แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ได้ประตูเพราะมีจังหวะฟาวล์ก่อนหน้านั้น ทำให้เจ้าบ้านชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
 
ถัดมา น.25 เป็นโอกาสของทีมเยือนที่ได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวา และเป็น ยูเลี่ยน ดาซิลวา ได้โหม่งคนเดียวในกรอบเขตโทษแต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานออกหลังไป ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกของเกมมาอย่างสนุกโดยส่วนใหญ่เจ้าบ้านครองเกมได้มากกว่า แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์เหน่งๆ ไม่ได้เท่านั้น
 
ต่อมา น.38 ทีมเยือนแม้จะครองบอลได้น้อยกว่าแต่เวลาบุกขึ้นมาแต่ละครั้งก็จบสกอร์เหมือน กันคราวนี้เป็นคนเดิมอย่าง ยูเลี่ยน ดาซิลวา ที่สบโอกาสซัดด้วยขวาระยะ 25 หลาส่งบอลพุ่งแรงแต่ก็ได้แค่เสียวเพราะบอลหลุดกรอบออกหลังนิดเดียวเท่านั้น ให้หัลงจากนั้น 2 นาที อภิภู สุนทรพนาเวช มิดฟิลด์เจ้าบ้านก็เกือบทำประตูขึ้นนำให้กับ โอสถฯ ได้แต่ลูกฟริคิกของดาวเตะร่างบางรายนี้เฉี่ยวเสาออกหลังไปแค่ตืบเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานก็จบ 45 นาทีแรกของการแข่งขันไม่มีทีมใดพังประตูกันได้เสมอกันอยู่ 0 - 0
 
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลัง เป็นทางฝั่งของ โอสถฯ ที่เดินหน้าบุกอย่างหนีกและมีโอกาสลุ้นประตูถึง 2 ครั้งใน 10 นาทีแรกของครึ่งหลังจากการยิงของ สุรเดช ธงชัย ที่ซัดนอกกรอบแต่ก็ยังโดนทวารเจ้าบ้านรับเอาไว้ได้ และอีกครั้งจาก เคลตัน ซิลวา แต่ก็ยังไม่ตรงกรอบเหมือนเดิม
 
ต่อมา น.66 เจ้าบ้านยังได้ลุ้นประตูขึ้นนำอีกครั้งจากลูกฟรีคิกระยะกว่า 30 หลาของ มาซิโอ ดาซิลวา ที่วิ่งเข้ามาซัดเต็มข้อแต่ก็ยังปรับเรดาห์ไม่ได้ส่งบอลเหินข้ามคานออกหลัง ไปตามระเบียบ
 
ต่อมา น.71 โอสถฯ ได้ลุ้นประตูจากการยิงของ พืพัฒน์ ต้นกันยา แต่ก็ได้ยังเบาเกินไปเข้ามือนายทวารทีมเยือยรับไว้ได้สบาย ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน แม้ว่าทั้งสองทีมจะพยายามเปิดเกมรุกใส่กันแต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูกันได้
 
โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกม โอสถฯ ได้ยิงติดๆ กันเป็นชุดทั้ง เกรียงศักดิ์ ชุมพรผ่อง, ลาซาลาส คาอิมบี้, เจษฏา พั่วนะคุณมี แต่ก็ยังโดนปฎิเสธโดยกองหลังและนายทวารของทีมเยือนช่วยกันเซฟไว้ได้หมด ทำให้จบเกมการแข่งขัน โอสถฯ สระบุรี เปิดบ้านเสมอกับ เชียงราย ยูไนเต็ดจ 0 - 0 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน
 
รายชื่อตัวจริงของทั้งสองทีม
โอสถฯ สระบุรี :
ฉัตรชัย บุตรพรหม (GK), ประทุม ชูทอง, บุญมี บุญรอด, เคลตัน ซิลวา (เกรียงศักดิ์ ชุมพรผ่อง), เจษฏา พั่วนะคุณมี (C), ลาซาลาส คาอิมบี้, สุรเดช ธงชัย, พิพัฒน์ ต้นกันยา (อรรถพล ปุษปาคม), คาตาโนะ ฮิโรมิชิ, มาซิโอ ดาซิลวา,อภิภู สุนทรพนาเวช (ทีโอดอร์ ยูยุน)
 
เชียงราย : อาทิตย์ ธนูศร (GK), ณรัฐ มุนินทร์นพมาศ, เอ็ดวัลโด้ เปอร์ไรร่า (โลแลน วาร์กัส), รัฐพล อัฐวงศ์, ยูเลี่ยน ซูซ่า ดาซิลวา, ภาณุพงศ์ อารัมภ์วิโรจน์ (ฉัตรชัย นาควิจิตร), กิ๊บสัน ดิอาซ, สัญญา พวงจันทร์ (C), พิชัย ปรีชาเชาว์, คาร์ลอส เอดูอาร์โด้, วสันต์ นาทะสัน
 
 

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 1-0 ขอนแก่น เอฟซี

ที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าสองสมัยซ้อน ก่อนลงสนามอยู่อันดับ 6 ของตารางมี 21 แต้ม เปิดบ้านพบกับ "เดอะทรีเร็กซ์" ขอนแก่น เอฟซี ทีมอันดับ 3 จากท้ายตาราง โดยผลงานนัดล่าสุดในลีกของทั้งสองทีม เจ้าบ้านเปิดบ้านเอาชนะ บีอีซี เทโรศาสน ไป 1-0 ส่วนทีมเยือนเปิดบ้านเสมอ พัทยา ยูไนเต็ด 1-1

เกมวันนี้เจ้าบ้านต้องขาดเจ้าโอ็ต ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ กองหลังกัปตันทีมที่ติดโทษแบน แต่ยังมีตัวหลักอย่าง ดัสกร ทองเหลา , ดานโญ่ เซียด้า และ ธีรศิลป์ แดงดา ลงสนาม ส่วนทีมเยือนวันนี้ขาด แท็กเน่ วิลฟิล ที่ติดโทษแบนแต่ก็ยังมีตัวหลักอย่าง เริ่มรัตน์ งามเจริญ , สจ๊วต เคลลี่ และ จัตตุพล สิทธิเลาะ ลงสนาม

เริ่มเกมาได้แค่ 6 นาทีเจ้าบ้านน่าได้ลุ้นประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ นฤพล อารมณ์สวะ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา โดยจังหวะนี้มีเพื่อนร่วมทีมรอชาร์จที่หน้าประตูสองคน แต่จังหวะจะเปิดนฤพลกลับลื่นล้มไปก่อน ถัดมาอีก 4 นาทียังเป็นโอกาสลุ้นประตูของเจ้าบ้าน วีระวุฒิ กาเหย็ม เติมขึ้นมาสับไกลหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายระยะเกือบ 30 หลาบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ ปิยะวัฒน์ อินทรพิมพ์ ผู้รักษาประตูทีมเยือนยังปัดออกไปได้

เจ้าบ้านยังคงลุยใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง และนาทีที่ 10 ก็น่าได้ประตูขึ้นนำอย่างสุดๆเมื่อ ดัสกร ทองเหลา จ่ายให้ คริสเตียน เคาคู หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่ศูนย์หน้าผิวสีเจ้าบ้านกลับจับบอลไม่ดีพลาด โอกาสยิงประตูไปอย่างน่าเสียดาย อีก 1 นาทีถัดมาคริสเตียนแก้ตัวได้สำเร็จ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะตบมากลางประตูจังหวะสุดท้าย ธีรศิลป์ แดงดา แปด้วยซ้ายเข้าประตูไปง่ายๆให้เจ้าบ้านขึ้นนำไปก่อน 1-0

นาทีที่ 13 ยังเป็นโอกาสของเจ้าบ้านเมื่อ วีรวุฒิ กาเหย็ม เปิดจากริมเส้นด้านซ้ายไปให้ ดานโญ่ เซียก้า ได้วอลเล่ย์จ่อๆแต่ยังไปติดผู้รักษาประตู จากนั้นเจ้าบ้านก็ผ่อนเกมเปิดโอกาสให้ทีมเยือนได้ครองบอลบุกเข้าใส่บ้างแต่ ทีมเยือนก็ไม่สามารถทำประตูตีเสมอได้ทำให้ผ่าน 20 นาทีแรก เมืองทองฯ ยูไนเต็ด นำ ขอนแก่น เอฟซี อยู่ 1-0

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 24 เจ้าบ้านน่าได้ประตูที่สองอีกครั้งคราวนี้ ดานโญ่ เซียก้า ได้จังหวะซัดในกรอบเขตโทษแต่จังหวะแรกเจ้าตัวยิงวืดแต่บอลยังมาเข้าทาง ธีรศิลป์ แดงดา ก่อนที่ธีรศิลป์จะไหลกลับมาให้ดานโญ่อีกครั้งแต่ดานโญ่ก็ยังทำหมูหกยิงวืดไป อีกครั้งพลาดโอกาสได้ประตูที่สองไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วงท้ายครึ่งแรกแม้ทีมเยือนจะเล่นได้ดีขึ้น แต่โอกาสลุ้นประตูยังเป็นของเจ้าบ้าน นาทีที่ 38 ไพทูรย์ เทียบมา เติมมาซัดในกรอบเขตโทษผู้รักษาประตูเจ้าปัดมาเข้าทาง ดานโญ่ เซียก้า ยิงซ้ำไปชนคาน ก่อนที่บอลจะไปเข้าทาง ธีรศิลป์ แดงดา เปิดมาที่เสาสอง คริสเตียน เคาคู ยิงระยะไม่ถึงห้าหลาข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรกเจ้าบ้านนำทีมเยือนแค่ 1 ประตู

เริ่มครึ่งหลังมาทั้งสองทีมยังไม่มีรายงานเปลี่ยนตัวผู้เล่น และนาทีที่ 54 เจ้าบ้านก็ได้ลุ้นประตูก่อนจากจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา โดนกองหลังเจ้าบ้านทำฟาว์ลได้ฟรีคิกระยะ 20 หลาและเป็น ดัสกร ทองเหลา รับหน้าที่ยิงบิลลอยข้ามกำแพงเฉียดสามเหลี่ยมไปนิดเดียว และนาทีที่ 61 ทีมเยือนเปลี่ยนผู้เล่นเป็นคนแรกส่ง ศราวุธ วิเชียร ลงมาเล่นแทน เริ่มรัตน์ งามเจริญ

นาทีที่ 62 ยังเป็นโอกาสของเจ้าบ้านจากลูกเตะมุม นฤพล อารมณ์สวะ เปิดมาในกรอบเขตโทษ เชซ เรห์มาน โหม่งตั้งไปให้ ธีรศิลป์ ในกรอบเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายโดนกองหลังทีมเยือนเตะออกหลังไปได้ก่อน ถัดมาอีกนาทีเดียวเจ้าบ้านแก้เกมบ้างส่ง จักรพันธ์ พรใส ลงมาเล่นแทน นฤพล อารมณ์สวะ

หลังจากนั้นเกมก็แลกกันสนุก แต่โดยรวมก็ยังเป็นเจ้าบ้านที่ได้ลุ้นประตูมากกว่า แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะทำประตุเพิ่มได้ และนาทีที่ 66 ก็ส่งตัวทีเด็ดอย่าง มิโรสลาพ ทอธ ลงมาเล่นแทน คริสเตียน เคาคู ที่เล่นไม่ออก และนาทีที่ 69 เจ้าบ้านก็เกือบได้ประตูที่สองอีกครั้งคราวนี้ จักรพันธ์ เปิดจากริมเส้นด้านซ้ายมาให้ ธีรศิลป์ ได้ยิงในกรอบเขตโทษแต่บอลยังไม่ผ่านการป้องกันของผู้รักษาประตูทีมเยือน

เจ้าบ้านยังคงต้องการประตูเพิ่มและนาทีที่ 76 ก็ส่งตัวรองคนสุดท้ายอย่าง อานนท์ สังสระน้อย ลงมาเล่นแทน ธีรศิลป์ แดงดา และนาทีที่ 81 สาวกอุลตร้าต้องเฮเก้อเมื่อ จักรพันธ์ พรใส จ่ายให้ มิโรสลาพ ทอธ หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะล็อกหลบประตูและยิงด้วยขวาเข้าไปอย่าง สวยงามแต่จังหวะนี้ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าก่อน

นาทีที่ 82 ทีมเยือนส่งตัวสำรองคนสุดท้ายอย่าง วนัสนันท์ ถานะ ลงมาเล่นแทน พีรวิส ฤทธิ์ศรีบูรณ์ และนาทีที่ 88 ก็ได้ลุ้นประตูตีเสมอเช่นกันจากจังหวะที่ สจ๊วต เคลลี่ ปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลาบอลข้ามคานไปแบบได้ลุ้น หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันไม่ได้ทำให้จบเกม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทำได้แค่เฉียดเอาชนะ ขอนแก่น เอฟซี ไปอย่างฉิวเฉียด 1-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์(ผู้รักษาประตู) , ภานุพงศ์ วงศ์ษา , เชซ เรห์มาน , ไพทูรย์ เทียบมา , วีระวุฒิ กาเหย็ม , ดัสกร ทองเหลา(กัปตันทีม) , ดานโญ่ เซียก้า , พิชิตพงษ์ เฉยฉิว , นฤพล อรมณ์สวะ(จักรพันธ์ พรใส น.62) , คริสเตียน เคาคู(น.66) , ธีรศิลป์ แดงดา(อานนท์ สังสระน้อย น.76)

ขอนแก่น เอฟซี : ปิยะวัฒน์ อินทรพิมพ์(ผู้รักษาประตู) , ศุภกร ฆารดา , ผดุงศิลป์ กิตติวราพล , พีรวิส ฤทธิ์ศรีบูรณ์(วนัสนันท์ ถานะ น.82) , สุรชาติ สิงห์โหง่น , อภิศักดิ์ อาสายุทธ์ , เริ่มรัตน์ งามเจริญ(กัปตันทีม)(ศราวุธ วิเชียร น.61) , กฤษดา เหมวิพัฒน์ , จัตตุพล สิทธิเลาะ , โชค สุขแก้ว(สกลวัชร์ สกลหล้า น.73) , สจ๊วต เคลลี่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »