คณะกรรมการแต่งตั้งและประเมินผู้ตัดสิน มีมติสั่งห้าม ชัยยะ มหาปราบ ลงเป่าเกมของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ตลอดทั้งซีซั่นเพื่อ ยุติคำครหา  ชัยยะ ณ เมืองทอง รวมไปถึง บางกอกกล๊าส คู่กรณีในแมตช์เอฟเอคัพปัญหา พร้อมให้ เปาอีลิทฟีฟ่า พักนกหวีด 1 เดือนเป็นการลงโทษ

เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ชินเสน ทองโกมล ประธานผู้ตัดสินสมาคมฟุตบอลฯเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งและประเมินผลผู้ตัดสิน โดยมีประเด็นสำคัญคือพิจารณาหนังสือประท้วงการทำหน้าที่ของ ชัยยะ มหาปราบ เชิ้ตดำในเกมเอฟเอคัพรอบ 4 ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ บางกอกกล๊าส เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา

“กิเลนผยอง”ตัดสินใจร้องเรียนการตัดสินของเปาระดับอีลิทฟีฟ่ารายดังกล่าวหลังมองว่าพวกเขาเสียผลประโยชน์จากการถูกปฏิเสธให้จุดโทษในหลายๆจังหวะ แม้สุดท้าย เมืองทอง จะเป็นฝ่ายเข้ารอบต่อไปหลังชนะในช่วงการดวลจุดโทษ 6-5 

พล.ต.ชินเสน ทองโกมล ประธานผู้ตัดสินให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า “เมืองทองทำเรื่องร้องเรียนเปาชัยยะ โดยยกตัวอย่างความผิดพลาดในเกมพบบางกอกกล๊าส มา 3 จังหวะ ซึ่งเราใช้เวลาพิจารณาจากเทปอย่างละเอียดแล้ว ถือว่ามีข้อบกพร่องอย่างที่ถูกกล่าวหาจริงอย่างไรก็ตามการประเมินโดยรวมถือว่าไม่ได้ผิดพลาดมากนัก”

“เมื่อผู้ตัดสินทำผิดแน่นอนเราย่อมมีบทลงโทษ คณะกรรมการเห็นตรงกันว่าควรจะพักงาน ชัยยะ 1 เดือนนับจากนี้โดยจะให้กลับมาตัดสินอีกครั้งในเดือน ธันวาคม ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว”

สำหรับผลการประเมินการตัดสินของ ชัยยะ มหาปราบ ในเกมดังกล่าวปรากฏว่าได้คะแนนถึง 8.30 จากคะแนนเต็ม 10 อย่างไรก็ตามถือเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดของเขาในปีนี้เช่นกัน

“เสธ.ตุ้ม”ยังพูดถึงกรณีที่ผู้ตัดสินฟีฟ่าระดับสูงสุดรายนี้ถูกตั้งฉายาว่า “ชัยยะ ณ เมืองทอง”ว่า “มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เราพิจารณาปัจจัยแวดล้อมทุกอย่างเวลาเลือกผู้ตัดสินลงทำหน้าที่ในแต่ละเกมด้วยเสมอ ซึ่งมันทำให้ ปีนี้ ชัยยะ ได้ตัดสินเกมของเมืองทองแค่ 2 นัดรวมกับแมตช์ล่าสุด แต่สุดท้ายก็เกิดปัญหาขึ้น แน่นอนเพื่อลดข้อครหาต่างๆในจากนี้จะไม่มีชื่อของเขาลงทำหน้าที่เมื่อเมืองทอง และ บางกอกกล๊าส ลงเล่นตลอดทั้งฤดูกาล

ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งและประเมินผลผู้ตัดสิน ยังมีการเสนอให้เพิ่มบทลงโทษสำหรับทีมที่ยื่นหนังสือประท้วงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน และมีการพิจารณาให้คำร้องเรียนไม่เป็นผล เพื่อลดการประท้วงพร่ำเพรื่อ

พล.ต.ชินเสน ให้ความเห็นว่า “เราคงต้องพูดคุยกันอีกหลายๆฝ่ายทั้งคณะกรรมการผู้ตัดสิน ไทยพรีเมียร์ลีก หรือสมาคมฟุตบอลเอง เวลานี้เพิ่งเป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้น”