"ขุนพลช้างศึก" ทีมชาติไทย มาพลาดเสียประตูช่วงท้ายเกม เลยพ่ายให้กับ "ไวกิ้ง" นอร์เวย์ ไปอีก 0-1 ทำให้ ไทย หมดลุ้นแชมป์แน่นอนแล้วหลังแพ้มาทั้ง 2 เกม และทำให้ นอร์เวย์ มีลุ้นแชมป์ในเกมสุดท้ายที่จะพบกับ เกาหลีใต้ ในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 41 นัดที่สอง ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

                                           ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 41

                                                                       (นัดที่สอง)

                                                           วันพุธที่ 18 มกราคม 2555  

                                                                    ไทย 0 - 1 นอร์เวย์

สนาม : ราชมังคลากีฬาสถาน 


        ทีม ชาติไทยชุดลุยศึก "ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 41" ระหว่างวันที่ 15-21 ม.ค. นี้ โดยปีนี้สมาคมฟุตบอลฯ ได้เชิญ 3 ทีมแกร่งอย่างเดนมาร์ก แชมป์เก่า, นอร์เวย์ และเกาหลีใต้ชุดปรีโอลิมปิก ลับคมแข้งให้กับทีมชาติไทย ก่อนลุยศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดสุดท้าย กับโอมาน วันที่ 29 ก.พ. นี้


        ในเกมแรก ไทย แพ้ เกาหลีใต้ 1-3 ส่วนในเกมนี้ "ขุนพลช้างศึก" จะพบกับ "ไวกิ้ง" นอร์เวย์ ที่เสมอกับ เดนมาร์ก ในเกมแรกมา 1-1 ทำให้เกมนี้ถ้าทีมไหนแพ้มีโอกาสอดลุ้นแชมป์สูง


        "ขุนพล ช้างศึก" ทีมชาติไทย นำโดย วินฟรีด เชเฟอร์ เฮดโค้ชชาวเยอรมัน ปรับทีมถึง 5 คนในเกมนี้ โผรายชื่อ 11 คนแรกที่ลงสนามประกอบด้วย ผู้รักษาประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เซนเตอร์ เจษฎา จิตสวัสดิ์, ชลทิตย์ จันทคาม แบ็กซ้าย ศุภชัย คมศิลป์ แบ็กขวา สุรีย์ สุขะ กองกลาง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, สุมัญญา ปุริสาย ปีกซ้าย จักรพันธ์ แก้วพรม ปีกขวา ศราวุธ มาสุข คู่หน้า ธีรเทพ วิโนทัย กับ กีรติ เขียวสมบัติ


        โดยทางด้าน นอร์เวย์ ทีมจากสแกนดิเนเวียนนั้น เอกิล โอลเซ่น กุนซือใหญ่ ส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามครบครัน โดยวางแผนมาสู้ลุ้นเก็บชัยชนะเช่นกัน


เริ่มเกมมา 5 นาทีแรก มีโอกาสสับไกยิงกันคนละฝ่ายแต่ยังไม่มีลุ้นกันมากนัก

อีก 3 นาทีต่อมา พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ไปตัดบอลผู้เล่น นอร์เวย์ หน้าเขตโทษตัวเอง ผู้ตัดสินเป่าให้ นอร์เวย์ ได้ฟรีคิกทันที แต่จังหวะนี้ก็ยังไม่มีอะไร

ช่วงแรกของเกม ไทย ยังตั้งเกมไม่ได้เป็นฝ่าย "ไวกิ้ง" ที่ครองบอลเป็นหลัก และเดินหน้าบุกใส่ทีม ไทย มากกว่า

นาที ที่ 20 "ช้างศึก" น่าได้ประตูอย่างที่สุด เมื่อ สุรีย์ สุขะ วิงแบ็กจอมบุก ลุยบอลมาทางกราบขวาแล้วหักหลบกองหลัง นอร์เวย์ สวยแล้วลากตัดมายิงมุมแคบด้วยซ้าย แต่ เอสเพน เพตเตอร์เซ่น โกล์จอมหนึบ "ไวกิ้ง" พุ่งปัดออกไปได้

ผ่านมา 25 นาที ไทย เล่นได้ดีขึ้น เน้นการครองบอลแต่ยังไม่ถึงพื้นที่เขตโทษของ นอร์เวย์

นอร์ เวย์ เกือบได้ประตูขึ้นเช่นกันจากจังหวะขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนเปิดโด่งเข้ามาในเขตโทษให้ ดาวยิงตัวเก่ง ทาริก เอล ยูนน์ซี่ โฉบเข้ามาโหม่งบอลพุ่งถากเสาไปชนิดได้ลุ้น

เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ไทย พยายามเดินเกมทางริมเส้น จาก ธีรเทพ วิโนทัย กับ ศราวุธ มาสุข เป็นหลัก และมีโอกาสบุกจาก ธีรเทพ วิโนทัย ลากลุยทางกราบซ้ายหลบแนวรับ นอร์เวย์ มาสองคน แต่กลับเปิดไม่ดีบอลโด่งข้ามคานไปไกล 

ไทย รอดการเสียประตูอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อ ทาริก เอล ยูนน์ซี่ ได้จังหวะแทงทะลุช่องให้ เบอร์เก้ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวตัวต่อตัวกับ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล แต่แข้งไวกิ้งกลับยิงไม่ดีไปตรงตัวของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เซฟไว้ได้แบบน่าเสียวไส้ ในนาทีที่ 44

นาทีต่อมา นอร์เวย์ ยังเดินหน้าบุกเต็มที่หวังยิงประตูขึ้นนำให้ได้ แต่แนวรับของไทยยังคงช่วยกันสกัดและเคลียรืจนได้ในที่สุด ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ไทย ยังเสมอกับ นอร์เวย์ 0-0

 ใน ครึ่งหลัง ไทย ปรับทีมเปลี่ยน 2 คนส่ง ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ลงแทน ศุภชัย คมศิลป์ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย และ ธีรศิลป์ แดงดา แทน กีรติ เขียวสมบัติ ในแดนหน้า ส่วน "ไวกิ้ง" เปลี่ยนสำรองลงหลายคนเช่นกัน 

เปิดครึ่งหลังมายังเป็น นอร์เวย์ ที่ยังครองบอลได้ดีเดินหน้าเข้าใส่ ไทย อย่างต่อเนื่อง

นอร์เว ยื เน้นการโยนยาวเข้าบอมบ์ใส่ ไทย เป็นส่วนใหญ่ และมีโอกาสจบสกอร์อีกครั้งจากจังหวะโยนมาทางกราบซ้ายและเป็น มาร์คุส เฮนริกเซ่น ที่โถมโหม่งเต้มๆ แต่บอลข้ามคานไปอีก

 ไทย เปลี่ยนคนที่สาม ส่ง เอกพันธ์ อินทเสน ลงมาแทน ศราวุธ มาสุข ในตำแหน่งริมเส้นเพื่อเติมความสด

แต่ นาทีต่อมา "ไวกิ้ง" มีลุ้นอีกครั้งจากการตัดเข้ามายิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่เป็น สินทวีชัย หทัยรัตนกุล  โชว์ความเหนียวยังพุ่งเซฟออกหลังไปอย่างสุดยอด

นาทีที่ 68 ไทย เกือบได้ส้มหล่น เมื่อกองหลัง นอร์เวย์ สื่อสารกับผู้รักษาประตูไม่ดี โหม่งบอลคืนหลังเบาไป ธีรศิลป์ แดงดา รอจังหวะอยู่แล้ววิ่งเข้ามากระดกบอลข้ามตัว เอสเพน เพตเตอร์เซ่น ไปแล้วมุมแคบไปหน่อยยิงไปตกหลังคาอย่างน่าเสียดาย

 ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ไทย เปลี่ยนแนวรุกอีกครั้ง เอา ธีรเทพ วิโนทัย ออกมาพัก แล้วส่ง สุรชาติ สารีพิมพ์ มาลุยแทน

 สุ มัญญา ปุริสาย กองกลางตัวตัดเกมมาเจ็บจากจังหวะปะทะกับผู้เล่น นอร์เวย์ ทำให้เล่นต่อไปไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเอา จีระวัตน์ มัคคะรมย์ ลงมาแทน

 วินฟรีด เชเฟอร์ เฮดโค้ชชาวเยอรมัน เริ่มทยอยส่งตัวสำรองมาเพื่อลองทีม ล่าสุดเป็น สุรัตน์ สุขะ แทน จักรพันธ์ แก้วพรม ในแดนกลาง

 แต่ แล้วจนรอด ไทย ก็มาเสียประตูจนได้จากจังหวะฟรีคิกไกลทางฝั่งขวาโยนยาวเข้ามาในกรอบเขตโทษ แนวรับกับ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล มาพลาดแทงกั๊กกันเองบอลหลุดมาไปโดนตัวของ เอกิล มุสเซ่น เข้าประตูไปโล่งๆ นอร์เวย์ ขึ้นนำแล้ว 1-0 ในนาทีที่ 84

 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ก็มาโดนใบเหลืองหลังไปเข้าบอลหนักใส่แข้งไวกิ้ง ในนาทีที่ 85

นาทีต่อมา สุรชาติ สารีพิมพ์ ได้บอลหลุดเข้าไปยิงมุมแคบแต่ยังไม่ผ่านมิอของ เอสเพน เพตเตอร์เซ่น ไทย ชวดได้ประตูตีเสมอ

หลังจากเสียประตู ไทย พยายามเดินเครื่องบุกหนักแต่แนวรับ "ไวกิ้ง" ยังป้องกันไว้ได้หมด

เข้า สู่ช่วงทดเจ็บ 3 นาที ไทย บุกหนักแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ จบเกม ไทย แพ้ นอร์เวย์ 0-1 โอกาสลุ้นแชมป์ของ "ขุนพลช้างศึก"หลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย


        รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม


        ไทย (4-4-2) : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, สุรีย์ สุขะ, เจษฎา จิตสวัสดิ์, ชลทิตย์ จันทคาม, ศุภชัย คมศิลป์, ศราวุธ มาสุข, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, สุมัญญา ปุริสาย, จักรพันธ์ แก้วพรม, ธีรเทพ วิโนทัย, กีรติ เขียวสมบัติ


        นอร์เวย์ (4-4-2) : เอสเพน เพตเตอร์เซ่น, อีเวน, เวย์กาด, มาร์คุส เฮนริกเซ่น, แม๊คนุส, ทาริก เอล ยูนน์ซี่, โย, วาลอน, ฮาร์เหม็ด ซิง, ลาร์ส, สตีเฟ่น