วงการบันเทิงเศร้า ''ป้าจุ๊-จุรี'' เสียชีวิตด้วยโรคชรา ในวัย 83 ปี คนใกล้ชิดเผยนักแสดงอาวุโสร้องเพลงอย่างมีความสุขก่อนจะนอนหลับและสิ้นลมอย่างสงบที่บ้านในจังหวัดเชียงราย นับว่าค่อนข้างกะทันหัน ด้าน ''ตู่-นพพล'' ยังปัก หลักกำกับละคร ด้วยความเศร้าโศก โดยให้ ''ซ้อนุช-ปรียานุช'' เดินทางไปรับศพผู้เป็นแม่ เพื่อบำเพ็ญกุศล และจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 26 ม.ค. 55 เวลา 17.00 น. ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม

    เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2555 มีรายงานข่าวว่า นักแสดงอาวุโส จุรี โอศิริ หรือ ''ป้าจุ๊'' ได้เสียชีวิตด้วยโรคชราอย่างสงบที่บ้านในจังหวัดเชียงราย ถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของวงการบันเทิงไทย โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่า ป้าจุ๊ได้ย้าย
 

    จากบ้านพักย่านแจ้งวัฒนะ ไปพักที่บ้านในจังหวัดเชียงราย หลังจากย้ายหนีน้ำท่วมจากแจ้งวัฒนะเมื่อปลายปีที่แล้ว ไปพักที่บ้านในอำเภอแม่จัน ถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของวงการบันเทิงไทย
    

    โดยเมื่อเวลา 00.30 น. โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ อ.เมือง จ.เชียงราย  ได้รับศพของ ป้าจุ๊ เข้ามาเพื่อชันสูตรเพิ่มเติม หลังจากได้รับแจ้งจากทางญาติว่าได้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 156 หมู่ 16 บ้านแม่สลอง ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.
 

    เชียงราย อย่างสงบ ทั้งนี้เบื้องต้นทางแพทย์ได้ลงความเห็นว่า ป้าจุ๊เสียชีวิตด้วยโรคชรา เพราะจากการสอบถามพยาบาลที่ดูแลอย่างใกล้ชิดที่บ้านพักในอำเภอแม่จันว่า ก่อนเสียชีวิตป้าจุ๊ไม่ยอมรับประทานอาหารเลย ทั้งนี้ป้าจุ๊เคยเข้ารับรักษาตัวที่
 

    รพ.เกษมราษฎร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 ในช่วงนั้นยังพูดคุยกับพยาบาลและคุณหมอเป็นอย่างดี และยังถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นก็เข้าพักที่บ้านพักในอำเภอแม่จันและเสียชีวิตดังกล่าว

    โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่า ในช่วงกลางคืนก่อนที่นักแสดงอาวุโสจะจากไปอย่างสงบนั้น ป้าจุ๊ได้ฮัมเพลงด้วยความสุขท่ามกลางลมหนาวที่เชียงรายก่อนจะนอนหลับและสิ้นลมหายใจอย่างสงบด้วยโรคชรา ในวัย 83 ปี

    ในขณะที่ลูกชายคนเดียวอย่างผู้จัดละคร และนักแสดงชื่อดัง นพพล โกมารชุน หรือ ตู่ ยังคงปักหลักถ่ายทำละครเรื่อง มุกเหลี่ยมเพชร ทางช่อง 3 อยู่ที่กรุงเทพฯ โดยได้ให้ภรรยา ปรียานุช ปานประดับ หรือ ซ้อนุช เดินทางไปรับศพป้าจุ๊ก
 

    ลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดมกุฏกษัตริยาราม ซึ่งจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบ ที่ศาลา 10 วันที่ 26 มกราคม 2555 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป
    

    ทั้งนี้ การจากไปของป้าจุ๊ค่อนข้างที่จะกะทันหันสำหรับ "ตู่-นพพล" เนื่องจากที่ผ่านมา นักแสดงอาวุโสไม่ได้มีอาการป่วยรุนแรงอะไร โดยเมื่อวันเกิด 2 พ.ย. และวันปีใหม่ "ตู่-นพพล" ก็ยังเดินทางไปเยี่ยมคุณแม่อยู่ตลอด ทำให้บรรยากาศ
 

    ในการทำงานของ "ตู่-นพพล" ค่อยข้างที่จะเครียด เนื่องจากอยากเดินทางไปรับศพคุณแม่ด้วยตนเอง แต่ติดต้องกำกับละครมุกเหลี่ยมเพชรที่เร่งปิดกล้อง และถ่ายทำติดต่อกันมาถึง 5 วันแล้ว ซึ่งคนใกล้ชิดเผยว่า ถึงแม้ "ตู่-นพพล" จะอยู่
 

    ในอาการเศร้าแต่ก็ยังคงทำงานต่อ โดยที่เหล่าทีมงานและนักแสดงในเรื่องต่างก็ให้กำลังใจนักแสดงรุ่นใหญ่
    

    สำหรับ จุรี โอศิริ เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2472 เป็นนักแสดงคุณภาพผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงไทยมากว่า 50 ปี ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ. 2541 สาขาศิลปะการแสดง มีผลงานเด่นเป็นนัก
 

    พากย์เสียงทอง และนักแสดงเจ้าบทบาทจนสามารถคว้ารางวัลตุ๊กตาทองได้ถึง 4 ตัว แต่สิ่งที่เป็นที่จดจำของคนไทยเสมอมาคือ การใช้เสียงถูกอักขระ ชัดเจน ของป้าจุ๊ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นนักแสดงที่เป็นแบบอย่าง
    

    จุรี โอศิริ เติบโตจากโรงเรียนนาฏศิลป์ กรมศิลปากร มุ่งมั่นการเรียนเต้นรำแบบสากล สามารถเต้นบัลเลต์และขับร้องเพลงได้อย่างไพเราะ และก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงในวัยเพียง 16 ปี ด้วยการเป็นนักร้องนำของคณะผกาวดี ก่อนจะได้รับ
 

    คัดเลือกให้เป็นนางเอกละครเพลงเรื่อง นเรศวรมหาราช ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นให้ จุรี โอศิริ ฉายแววด้านการแสดงจนก้าวสู่วงการภาพยนตร์อย่างเต็มตัว
    

    ในยุคที่หนังไทยยังต้องใช้การพากย์เสียง จุรี โอศิริ ถือเป็นนักพากย์คิวทองเพราะสามารถดัดแปลงเสียงให้เข้ากับตัวละครหลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็นเสียงนางเอก ของเพชรา และพิสมัย หรือจะเป็นบทนางร้ายก็สามารถทำได้ดี จนหลายคน
 

    พูดว่าการได้มาซึ่งรางวัลของนักแสดงหญิงหลายคนได้มาจากการพากย์เสียงของป้าจุ๊ จุรี โอศิริ นั่นเอง
    

    สำหรับชีวิตครอบครัว ป้าจุ๊ สมรสกับ เสนอ โกมารชุน มีบุตรชายคนเดียว คือ นพพล โกมารชุน หลังจากสามีเสียชีวิต ก็ได้ใช้ชีวิตคู่อยู่กับ สมชาย สามิภักดิ์ หรือลุงปุ๊ย เป็นเวลา 50 กว่าปี จนกระทั่งสมชาย สามิภักดิ์ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 5
 

    มกราคม พ.ศ. 2552
    

    ช่วงท้ายในชีวิต ของจุรี โอศิริ แม้ร่างกายจะไม่อำนวยด้วยโรคชราในวัย 80 แต่ป้าจุ๊ยังเดินทางร่วมงานการกุศลต่อเนื่อง เพื่อให้กำลังใจนักแสดงรุ่นลูกและช่วยหารายได้ด้วยการร้องเพลง จนกระทั่งเสียชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 25
 

    มกราคม 2555 ด้วยโรคชรา