เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ว่าที่ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดใจหากได้นั่งเก้าอี้นายใหญ่ "หงส์แดง" อย่างเป็นทางการ จะสร้างทีมขึ้นมาโดยเน้นสปิริต เหมือนกับยุค บิลล์ แชงค์ลี่ย์ และ บ็อบ เพสลี่ย์ 2 มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งถิ่น แอนฟิลด์

        กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ เติบโตขึ้นมากับการดูผลงานของตำนานผู้จัดการทีมอย่าง เพสลี่ย์ ในยุคที่นำ "เดอะ เร้ดส์" คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี และ ยูโรเปี้ยน คัพ เป็นว่าเล่น โดยฟอร์มของ ลิเวอร์พูล ในยุคนั้น เน้นการเล่นบอลแบบพาสซิ่ง (ต่อบอลไปมาเจาะแนวรับคู่แข่ง)

        เพสลี่ย์ สานต่อความสำเร็จจาก แชงค์ลี่ย์ ในปี 1974 โดยคุม "หงส์แดง" 9 ซีซั่น คว้าแชมป์ 21 รายการ หลังจากวางมือ โจ เฟแกน ก็เข้ามาคุมทีมแทน โดยตอนนั้น ร็อดเจอร์ส อายุเพียง 11 ขวบเท่านั้น และได้เห็น ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรแรกของอังกฤษที่คว้า 3 แชมป์ในซีซั่นเดียว นั่นก็คือ ลีก คัพ (คาร์ลิ่ง คัพ), ยูโรเปี้ยน คัพ และลีกสูงสุด ในปี 1984

        ร็อดเจอร์ส เปิดใจเกี่ยวกับ ลิเวอร์พูล ว่าที่สโมสรใหม่ที่ตนจะรับงานกุมบังเหียนว่า "ปู่ของผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ ลิเวอร์พูล ยุค 70 ลิเวอร์พูล ยุคนั้น เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่เกินคำบรรยาย พวกเขาเล่นบอลแบบให้แล้วไป ผ่านบอลกันไปมาตลอดทั้งเกม"

        "ผมเคยชินกับการนั่งอยู่หน้าจอทีวี เพื่อชมรายการ แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์ กับคุณปู่ของผม เพื่อดู ลิเวอร์พูล และสไตล์การเล่นของพวกเขา เราชอบดูพวกเขา เรายังชอบดูทีมชาติบราซิล ยุค 70 ด้วย พ่อของผมเป็นแฟนตัวยงในยุค โยฮัน ครัฟฟ์ ที่เล่นให้ อาแจ็กซ์ กับ ฮอลแลนด์ และนี่ก็เป็นปรัชญาที่ผมเติบโตขึ้นมา ลิเวอร์พูล มีประวัติศาสตร์ที่น่าเหลือเชื่อ คว้าแชมป์ลีก และ ยูโรเปี้ยน คัพ พวกเขาพยายามที่จะกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่แบบนั้นอีก"

        สไตล์การเล่นที่ลือลั่นไปทั่วโลกลูกหนังนั่นก็คือ "ผ่านบอลแล้วหาพื้นที่, รับแล้วให้" ถูกทำลายอย่างหมดสิ้นในยุคของ เชราร์ อุลลิเย่ร์ และภายใต้การกุมบังเหียนของ ราฟาเอล เบนิเตซ พวกเขากลายเป็นทีมที่เล่นได้น่าเบื่อ ขณะเดียวกับ ร็อดเจอร์ส ซึ่งเคยทำงานร่วมกับ โชเซ่ มูรินโญ่ สมัยคุม เชลซี  ยืนยันว่า ตนไม่มีปรัชญาการเล่นเหมือนกับ "เฮียมู" หรือกุนซือคนไหนก็ตามที่นิยามเน้นเกมรับ

        "ปรัชญาของผมแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ โชเซ่ ในวงการฟุตบอล มันมีแนวทางการเล่นที่มากกว่า 1 แนวทางในการจะได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ เขาช่วยให้ผมเติบโต บางทีผู้คนก็คิดแบบนั้น และนี่เป็นสิ่งที่ผู้คนไม่เห็น พวกเขาไม่เห็นว่า ปรัชญามันแตกต่างกัน เมื่อเขาให้ความสำเร็จกับผม ยกตัวอย่าง ก่อนที่ผมจะไปทำงานที่ เชลซี ผมมีปรัชญาการทำทีมของผมอยู่แล้ว"

        "สิ่งที่ผมสามารถทำได้ตอนที่ย้ายจากหัวหน้าศูนย์ฝึกเยาวชน เร้ดดิ้ง มาทำงานกับ เชลซี ก็คือ การเสาะหาผู้เล่นพรสวรรค์สูง โชเซ่ ชอบให้ทีมของเขาครองเกม ครองบอล เน้นจังหวะเกม ควบคุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะมี หรือไม่มีบอลก็ตาม โค้ชทุกคนย่อมมีแนวคิดแบบนี้ทั้งนั้น เราทำงานใกล้ชิดกัน และมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม"

        "สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เขาบอกกับผมก็คือ -เป็นตัวของตัวเอง- เขาบอกกับผมว่า -คุณมีดีพอ แต่มันต้องอยู่ที่จังหวะ และเวลา- นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ผมมักคุ้นเคยกับการนั่งให้สัมภาษณ์ คุณก็รู้นะ แล้วดูว่าผมจะรับมือกับสื่อได้ดีแค่ไหน แน่นอนว่า ผมแตกต่าง บุคลิก และแคแรกเตอร์ก็แตกต่างกันด้วย" ร็อดเจอร์ส ร่ายยาว