ก่อนอื่น ผมต้องขอแสดงความยินดี กับ ทีม “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทองฯ ที่ทำคะแนน “นำโด่ง” คว้าตำแหน่ง แชมป์เลคแรก ในการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 ไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่ ยังเหลือโปรแกรมการแข่งขันในเลคแรกอีก 1 นัด

นั่นแสดงให้เห็นประสิทธิภาพของทีมเมืองทองว่า ดีแค่ไหน ในฤดูกาลนี้

ผมขอชื่นชมทีมเมืองทองฯ ที่เตรียมตัว มาเป็นอย่างดีในปีนี้ นำข้อ “บกพร่อง” ต่างๆ ในฤดูกาลที่แล้ว มาปรับปรุงแก้ไข จนทีม “แข็งแกร่ง” ทุกขุมกำลังประกอบกับ ในฤดูกาลนี้ ทีม “กิเลนผยอง” ไม่ต้องพะวง กับ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ที่ ตัวเองไม่ได้ “โค้วต้า” เข้าร่วมการแข่งขัน จึงทำให้ "โฟกัส" ไปที่ฟุตบอลภายในประเทศอย่างเดียว ผิดกับ บุรีรัมย์ฯ และ ชลบุรีฯ สอง “คู่แข่ง” คนสำคัญ ที่ต้อง เสียสมาธิ ไปกับ ฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก และ เอเอฟซี คัพ

ผมมองว่า ปีนี้ทีมเมืองทองฯ ซื้อผู้เล่นเข้ามาได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักเตะที่ชื่อ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ซึ่งดาวเตะรายนี้ เป็นนักเตะต่างชาติ ที่เรียกว่า "ของจริง" ดังนั้นการเข้ามาสู่ ทีมเมืองทองฯ จึงทำให้ ทีมจากย่านแจ้งวัฒนะ แข็งแกร่งขึ้นเป็นทวีคูณยิ่งมาเข้าคู่กับ "ยอดศูนย์หน้าของเมืองไทย" อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ทั้งสองคน จึงเรียงหน้า ยิงประตูคู่ต่อสู้ กระจาย

ในช่วงแรกๆ ผมไม่ได้สนใจ นักเตะ ที่ชื่อ มาริโอ ยูรอฟสกี้ เท่าไหร่ ผมติดตามดูแต่ ฟอร์มการเล่นของ ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าอันดับ 1 ของประเทศไทย ในยุคปัจจุบัน เนื่องจาก ผมเห็นธีรศิลป์ มาตั้งแต่เด็กๆ เห็นเขาตามคุณพ่อ (ประสิทธิ์ แดงดา) มาซ้อมฟุตบอลที่กองทัพอากาศบ่อยๆ (คุณพ่อธีรศิลป์ ทำงานที่กองทัพอากาศ เหมือนกับผม) ผมติดตามดู “พัฒนาการลูกหนัง” ของ ธีรศิลป์ อย่างต่อเนื่อง เพราะ คิดว่า ไอ้หนูคนนี้ นี่แหละ ที่จะเป็น “ความหวังใหม่” ของทีมชาติไทย

ผม ขอชื่นชม “แมวมอง” และ บอร์ดบริหาร ทีมเมืองทองฯ ที่ ตัดสินใจดึง มาริโอ เข้ามาในเมืองไทย เพราะ นักเตะคนนี้ ฝีเท้าดี สามารถเล่นในลีกยุโรปได้สบาย...และการได้ มาริโอ มาเล่นในลีกไทย มันจะช่วย ยกระดับ ฝีเท้าของ นักเตะไทย ให้พัฒนา มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา คู่หู ของเขา

และผมก็ไม่ผิดหวัง เพราะ เด็กคนนี้ มีพัฒนาการ ทางด้าน “ทักษะลูกหนัง” เก่งเกินเพื่อน ในวัยเดียวกัน เขามี “พรสวรรค์” ในเชิงกีฬาฟุตบอล และ ที่สำคัญ เขา มี “พรแสวง” และ “ความรับผิดชอบ” ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม...จนกระทั่ง เด็กคนนี้ ย้ายมาอยู่ในทีม เมืองทองฯ ผมก็ ยัง ติดตาม อยู่เป็นระยะ

การติดตามดู ธีรศิลป์ ทำให้ ผมได้เห็น นักเตะ “คู่หู” ของเขา ที่ชื่อ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ประกอบกับ ลูกชายของผม “แตงโม” พงศ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน พิธีกร และ “คอมเมนเตเตอร์” การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ทาง ช่อง ทรู วิชั่น กระซิบว่า ให้ ลองจับตาดู ยูรอฟสกี้ ศูนย์หน้าทีมเมืองทองฯ อีกคน

ผมจึงติดตามดู ทีมเมืองทองฯ และ นักเตะ ทั้งสองคน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอันนี้ ผมขอชื่นชม “แมวมอง” และ บอร์ดบริหาร ทีมเมืองทองฯ ที่ ตัดสินใจดึง มาริโอ เข้ามาในเมืองไทย เพราะ นักเตะคนนี้ ฝีเท้าดี สามารถเล่นในลีกยุโรปได้สบาย...และการได้ มาริโอ มาเล่นในลีกไทย มันจะช่วย ยกระดับ ฝีเท้าของ นักเตะไทย ให้พัฒนา มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา คู่หู ของเขา

ผมถือว่า บอร์ดบริหาร ของทีมเมืองทอง มองเกมขาด ที่ นำนักเตะ “ของแท้” เข้ามา จับคู่กับ ธีรศิลป์ ซึ่งนอกจากผลประโยชน์ทางตรง ที่จะได้รับ กับสโมสรแล้ว “การสร้าง” และ “พัฒนา” ธีรศิลป์ ยังเป็น “เป้าหมาย” รอง ของสโมสร  รวมไปถึง เป้าหมายใหญ่ ของ คนไทย ทั้งชาติ ที่ฝาก “ความหวัง” เอาไว้ กับ ไอ้หนูคนนี้

นี่เป็นการเตรียมความพร้อมอย่างดี  ให้  “มุ้ย” ธีรศิลป์ ก่อนที่ ในฤดูกาลหน้า เขาจะ ออกไป เผชิญโชคชะตา ใน ลีกยุโรป ปะทะฝีเท้า มาตรฐานเดียวกันกับ นักเตะ ระดับ มาริโอ หรือ สูงกว่า

"ไทยบูม” คนต่อไป ในวงการลูกหนัง ชื่อ ธีรศิลป์ แดงดา...ผม ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน การันตี ครับ