ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ

   วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม 2555

              เอฟเวอร์ตัน  1 - 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สนาม : กูดิสัน พาร์ค

　　 เกมเปิดสนามพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ฤดูกาล 2012-13 เจ้าถิ่น "ทอฟฟี่" เอฟเวอร์ตัน เกมนี้เดวิด มอยส์ กุนซือเจ้าถิ่นส่ง นิกิซ่า เยลาวิช ยืนเป็นหน้าเป้าโดยมี สตีเว่น พีนาร์, มารูยาน เฟลไลนี่, ลีออน ออสแมน และดาร์รอน กิ๊บสัน คุมเกมแดนกลาง

        ส่วนอาคันตุกะรองแชมป์เมื่อปีที่แล้วอย่าง "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงดัตช์ที่เพิ่งย้ายมาจาก อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์นั่งเป็นสำรองข้างสนาม ส่วนเกมนี้ตัวจริงส่ง หลุยส์ นานี่, เวย์น รูนี่ย์ และแดนนี่ เวลเบ็ค เป็นสามผสานแดนหน้า โดยมี ชินจิ คางาวะ, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ และพอล สโคลส์ คุมทัพแดนกลาง 

        เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาทีแรกเป็นฝั่งทีมเยือนที่โดนเตือนไปก่อนหลัง หลุยส์ นานี่ เข้าไปทำฟาวล์ใส่ มารูยาน เฟลไลนี่

      ช่วง 5 นาทีแรกเป็นฝั่งเจ้าบ้าน "ทอฟฟี่" ที่ครองเกมแดนกลางและฉวยโอกาสเปิดเกมรุกได้มากกว่า นาทีที่ 9 เป็นจังหวะยิงเข้ากรอบครั้งแรกของ แมนฯยูไนเต็ด เมื่อ พอล สโคลส์ ซัดวอลเลย์ไกลนอกกรอบแต่บอลเบาไปเข้ามือ ทิม ฮาวเวิร์ด ที่รับไว้ได้สบาย

       นาที 13 อังเดร มาริเนอร์ ต้องแจกใบเหลืองอีกใบหลัง พอล สโคลส์ พุ่งเข้าไปเสียบ ดาร์รอน กิ๊บสัน อย่างน่าเกลียด

      นาที 14 เอฟเวอร์ตัน เกือบได้ลุ้นประตูขึ้นนำหลัง มารูยาน เฟลไลนี่ ห้องเครื่องเบลเยี่ยมกระชากบอลไปถึงเส้นหลังก่อนยิงด้วยซ้ายบอลไปชนเสากระเด้งออกมา

      นาที 21 ปีศาจแดงได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ แดนนี่ เวลเบ๊ค ได้บอลในกรอบแต่ยิงไปติดบล็อค ซิลแว็ง ดิสแต็ง ถัดมาอีกสองนาที นานี่ ได้สับไกนอกกรอบบอลพุ่งถากเสาสองออกไปแบบได้เสียว

      นาที 24 ทอฟฟี่ทำเกมได้เสียวอีกหนเมื่อ ลีออน ออสแมน แทงบอลให้ นิกิซ่า เยลาวิช หลุดเข้าไปยิงแต่ ดาบิด เด เคอา เซฟออกหลังได้ทัน 

      นาที 28 เวย์น รูนี่ย์ ได้ยิงฟรีคิกจากนอกกรอบระยะไม่ถึง 25 หลา แต่บอลยังไม่ผ่านมือ ทิม ฮาวเวิร์ด ที่พุ่งปัดปลายมือออกหลังไปได้

      นาที 31 เอฟเวอร์ตัน โต้กลับขึ้นมาคราวนี้ สตีเว่น พีนาร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งพักอกก่อนตะบันไกลแต่บอลหลุดกรอบไป ถัดมาอีกแค่2นาที เลห์ตัน เบนส์ จ่ายเข้ากลางให้ พีนาร์ อีกครั้งก่อนจะบรรจงปั่นเลียดด้วยขวาไปทางเสาไกลแต่นายทวารทีมเยือนก็พุ่งปัดไปได้อีกหน

      นาที 38 แมนฯยูไนเต็ด ได้ลุ้นขึ้นนำบ้างเมื่อ เวยน์ รูนี่ย์ ได้ยิงในกรอบไม่ถึง 12 หลาแต่บอลไปตรงตัว ฮาวเวิร์ด ถัดมาแค่นาทีเดียว ชินจิ คางาวะ จ่ายตัดแผงหลังให้ แดนนี่ เวลเบ๊ค หลุดเข้าไปยิงหลุดกรอบชนิดได้ลุ้น

      นาที 41 เป็นทีของพลพรรคทอฟฟี่บลูส์บ้าง เมื่อ ลีออน ออสแมน กลับตัวยิงในกรอบเต็มข้อแต่บอลก็ยังถูก ดาบิด เด เคอา ทุบออกมา

      นาที 45 ทีมเยือนรอดพ้นการเสียประตูอีกครั้งเมื่อ เลห์ตัน เบนส์ ซัดฟรีคิกระยะกว่า 25 หลาบอลพุ่งจะเข้าอยู่แล้วแต่นายทวารทีมชาติสเปนที่วันนี้โชว์ฟอร์มเทพเหินพุ่งปัดออกไปได้อีก

      ช่วงทดเจ็บ เวย์น รูนี่ย์ ได้โขกในกรอบแต่บอลไปโดนต้นคอก่อนที่ ทิม ฮาวเวิร์ด จะทุบบอลออกมา จบครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอ 0-0

      เริ่มเกมครึ่งเวลาหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น นาที 47 เป็นโอกาสยิงครั้งแรกในครึ่งหลังของฝั่งเจ้าถิ่นเมื่อ ดาร์รอน กิ๊บสัน พลิกบอลก่อนจะสับไกยิงนอกกรอบแต่บอลเหินคานออกไปชนิดหมดลุ้น

      นาที 49 กองเชียร์ทอฟฟี่เกือบได้เฮ เมื่อ มารูยาน เฟลไลนี่ โขกชงให้ ลีออน ออสแมน ได้ซัดเต็มข้อบอลไปชนคานกระเด้งออกมา และจากจังหวะโต้กลับขึ้นมาของ แมนฯยูไนเต็ด เกือบได้ประตูบ้างหลัง ชินจิ คางาวะ แทงบอลให้ แดนนี่ เวลเบ๊ค แต่ดีที่ ฟิล จากีลก้า วิ่งมาล้มตัวเคลียร์บอลออกไปได้ทัน

      นาที 56 โอกาสยิงอีกครั้งของ รูนี่ย์ คราวนี้รับบอลจาก คางาวะ ก่อนจะตะบันด้วยซ้ายบอลพุ่งหลุดกรอบออกไปไกล

       นาที 57 จนแล้วจนรอดเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะลูกเตะมุม ดาร์รอน กิ๊บสัน เปิดบอลมาเข้าหัว มารูยาน เฟลไลนี่ ที่เบียดไมเคิ่ล คาร์ริคก่อนเทกตัวขึ้นโขกส่งบอลซุกก้นตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม

      นาที 64 เป็นจังหวะลุ้นประตูอีกครั้งของ มารูยาน เฟลไลนี่ ที่วันนี้เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมโดดเด่นเหลือเกิน คราวนี้โหนขึ้นโขกแต่บอลไปตรงตัว ดาบิด เด เคอา

      นาที 67 แมนฯยูไนเต็ด พลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดาย เมื่อ ชินจิ คางาวะ เข้าไปเก็บตกก่อนไหลบอลให้ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ วิ่งมายิงเต็มเท้าแต่บอลก็ยังไม่ติด ฟิล จากีลก้า เคลียร์ออกมาได้

      นาที 68  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปลี่ยนตัวเป็นคนแรกส่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกตัวใหม่ลงมาเล่นแทน แดนนี่ เวลเบ๊ค

      นาที 78 ปีศาจแดงเปลี่ยนผู้เล่นเป็นคนที่ 2 ส่ง แอชลี่ย์ ยัง ลงมาเล่นแทน หลุยส์ นานี่

      นาที 79 โอกาสยิงหนแรกในเกมของ ชินจิ คางาวะ เมื่อรับบอลจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่บอลก็ไม่ผ่าน ทิม ฮาวเวิร์ด ที่ออกมาปิดมุมก่อนบอลจะออกหลังไป

      นาที 81 เอฟเวอร์ตัน เปลี่ยนผู้เล่นเป็นคนแรกถอดเอา ลีออน ออสแมน ออกแล้วส่ง เชมุส โคลแมน ลงไปเล่นแทน

      นาที 85 แมนฯยูฯเปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายส่ง แอนแดร์สัน ลงมาเล่นแทน ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์

      นาที 89 ทอฟฟี่บูลส์ เปลี่ยนผู้เล่นบ้างส่ง สตีเว่น เนย์สมิธ หัวหอกตัวใหม่ลงมาเล่นแทน นิกิซ่า เยลาวิช ที่มีอาการเจ็บ

      นาที 90+1 แมนฯยูไนเต็ด มีโอกาสได้ส่องไกลจากจังหวะที่ แอนแดร์สัน กระชากบอลเข้าไปยิงแต่ยังไม่ดีพอบอลเหินข้ามคานออกไป

       นาที 90+2 เจ้าถิ่นเปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายถอดเอา มารูยาน เฟลไลนี่ ที่วันนี้ได้ตำแหน่ง "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ออกแล้วส่ง จอห์น ไฮติงก้า ลงไปเล่นเกมรับ

      ช่วงเวลาที่เหลือทีมเยือนพยายามโหมบุกหนักเพื่อลุ้นตีเสมอให้ได้ แต่เจ้าถิ่นที่วันนี้เล่นเกมรับได้เหนียวแน่นยังป้องกันไว้ได้หมด จบเกม เอฟเวอร์ตัน เปิดรังเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด 1-0 คว้าสามแต้มประเดิมสนามได้สำเร็จ


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เอฟเวอร์ตัน (4-5-1) ; ทิม ฮาวเวิร์ด - โทนี่ ฮิบเบิร์ต, ฟิล จากีลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์ - ลีออน ออสแมน, ฟิล เนวิลล์, ดาร์รอน กิ๊บสัน, สตีเว่น พีนาร์, มารูยาน เฟลไลนี่ - นิกิซ่า เยลาวิช

สำรอง - แยน มูช่า, จอห์น ไฮติงก้า, สตีเว่น เนสมิธ, มากาเย่ กูเอเย่, รอสส์ บาร์คลี่ย์, เชมัส โคลแมน, วิคเตอร์ อนิเชเบ้

แมนฯ ยูฯ (4-3-3) ; ดาบิด เด เคอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เนมานย่า วิดิช, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ปาทริซ เอวร่า - ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, พอล สโคลส์, ชินจิ คางาวะ - หลุยส์ นานี่, เวย์น รูนี่ย์, แดนนี่ เวลเบ็ค

สำรอง - ลินเดการ์ด, ราฟาเอล, อันแดร์สัน, ยัง, ฟาน เพอร์ซี่, วูตัน, เบอร์บาตอฟ

ผู้ตัดสิน : อันเดร มาร์ริเนอร์